หน้าแรกแกลเลอรี่

ปลาดิบใส่ผงชูรส

พาวเวอร์บอมบ์

16 ก.ย. 2562 05:03 น.

เชื่อว่าตอนนี้แฟนบอลคงใจจด ใจจ่อ รอนับวันให้ถึงวันเตะฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย คู่ระหว่าง “ช้างศึก” ทีมชาติไทย กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) วันนี้วันพรุ่งเสียเลย ผมเองก็เช่นเดียวกัน

เหตุก็เพราะ “เรา” อยู่ในฟอร์มที่กำลังขึ้นหม้อ

การบุกไปถล่ม “อิเหนา” อินโดนีเซีย 3–0 ถึงเสนายัน สร้างความมั่นใจให้ทัพช้างศึกเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกัน ในเรื่องของระบบการเล่นก็ดูเหมือนจะลงตัวมากขึ้น

“อากิระ นิชิโนะ” เริ่มคลำทางได้แล้ว

วันที่ 15 ต.ค.นี้ ทีมชาติไทยจะต้องเปิดบ้านต้อนรับยูเออี ซึ่งเป็นทีมเต็งอันดับ 1 ของสาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเรา “เป็นรอง”

คงต้องมาลุ้นกันว่าในวันนั้นนิชิโนะจะเลือกใช้แท็กติกเน้นรับแล้วโต้กลับ หรือจะเล่นเกมบุกเปิดแลกอย่างที่เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าต่อจากนี้ไปทีมไทยจะเน้นเกมบุก

เรื่องสถิติ “เฮดทูเฮด” ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

การเจอกันในเกมระดับเมเจอร์ 4 ครั้งหลังสุด ไทยไม่เคยเอาชนะยอดทีมจากแดนอาหรับได้เลย โดยผลออกมา เสมอ 2 และแพ้ไป 2

ล่าสุดในเอเชียนคัพ 2019 เมื่อตอนต้นปี ทั้งสองทีมก็เสมอกัน 1-1

อย่างไรก็ตาม “ทุกฝ่าย” ผมกำลังหมายถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ, สโมสรต้นสังกัด, นิชิโนะและทีมงาน รวมไปถึงตัวของนักเตะเอง ต้องทำงานร่วมกันให้ดี (ต่อไป) เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้มากที่สุด

สมาคมกีฬาฟุตบอลฯจำเป็นต้องมีการวางแผน ที่ดี โดยเฉพาะเรื่องของโปรแกรมแข่งขันไทยลีกต้องเหมาะสม การจัดการต่างๆก็ต้องทำให้ดีกว่าเดิม

ถ้าจะล้อมรั้วปิดสังกะสีอะไรแบบนั้น ก็ขอให้ทำก่อนตั้งแต่เนิ่นๆ

การป้องกันคู่ต่อสู้ล้วงข้อมูล คงต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น อย่าให้มีกรณีดราม่าเหมือนตอนที่โดน “เหงียน” แอบถ่าย

ส่วนสโมสรต้นสังกัดก็กรุณา “อย่ากั๊ก” ตัวผู้เล่น

ขณะที่ตัวของนักเตะเองก็ต้องดูแลสภาพร่างกายให้ดี

สำหรับอากิระ นิชิโนะ นั้น ก็คงต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับนักเตะ และเรียนรู้สไตล์ของวงการฟุตบอลไทยให้มากขึ้นเรื่อยๆเพื่อการผสมผสานที่ลงตัว ลิ้มรสแล้วกลมกล่อม

เรียกได้ว่าหากต้องการทำทีมสไตล์ปลาดิบ ก็ต้องเป็นปลาดิบที่ใส่ผงชูรสเข้าไปด้วย ถึงจะถูกจริตพี่ไทย

ก็อย่างที่รู้ๆกันละครับ ฟุตบอลบ้านเราไม่เหมือนที่ไหนในโลก.

พาวเวอร์บอมบ์