หน้าแรกแกลเลอรี่

สัจจะลูกผู้ชาย

ตองเจ

2 เม.ย. 2562 05:01 น.

แสดงสปิริตลาออกไปเรียบร้อยแล้ว “โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือ ใหญ่ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ตัดสินใจขอยุติบทบาทกุนซือ หลังทำผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ตัวเองวางไว้

เมื่อผ่านเกมฟาดแข้ง 5 นัด เก็บได้เพียง 6 แต้มเท่านั้น

ต้องยกนิ้วให้กับความเด็ดเดี่ยวและสัจจะลูกผู้ชายของ “โค้ชเบ๊” ที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้

ว่าถ้าผลงานไม่ดีจะขอพิจารณาตัวเอง

จะว่าไปแล้วเรื่องฝีไม้ลายมือของ “โค้ชเบ๊” อยู่ในขั้นดีทีเดียว เคยคุมทีมในไทยลีกมาหลายทีมผลงานนับว่าดีในระดับหนึ่ง ความผิดพลาดครั้งนี้อาจไม่ใช่เพราะเทคนิคโดยตรงซะทีเดียวอาจเกิดจากปัจจัยอะไรหลายอย่างควบคู่ไปด้วย

แต่อย่างว่าคนเราเคยรับปากหรือให้สัจจะเอาไว้ เมื่อทำไม่ได้ก็แสดงสปิริตแบบนี้ถือว่าน่ายกย่อง ดีกว่าบางคนที่ทำไม่ได้หรือบริหารงานห่วยแตกแต่สุดท้ายก็โทษโน่นโทษนี่ แต่ดันลืมโทษตัวเองก็มีให้เห็นถมเถไป

ยิ่งอยู่ในองค์กรกีฬาด้วยแล้วหากขาดสปิริตก็ถือว่าไม่ใช่คนกีฬา

ระดับฝีมือของ “โค้ชเบ๊” เชื่อว่ายังมีอีกหลายทีมที่รออยู่ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าบางครั้งเทคนิคหรือแท็กติกของแต่ละคนก็เข้ากับทีมหรือนักบอลไม่ได้

ไม่ใช่เฉพาะในไทยเท่านั้น ลีกใหญ่ๆ ในต่างประเทศอย่าง “พรีเมียร์ลีกอังกฤษ” ก็เคยมีให้เห็นมาแล้ว

ระยะเวลาต่อจากนี้ “กิเลนผยอง” คงต้องเร่งหาโค้ชฝีมือเข้ามาโดยด่วนเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับลูกทีม รวมถึงเรียกศรัทธาจากแฟนบอลให้เร็วที่สุด

สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือในรอบปีที่ผ่านมาผลงานของ “เมืองทอง” ไม่ค่อยโดดเด่นนัก จบในอันดับ 4 ของไทยลีก ตกรอบ 16 ทั้งเอฟเอคัพและโตโยต้าลีกคัพ ยังดีที่มีถ้วยโทรฟีจากรายการแม่โขงมาให้เชยชม

แต่จากวันนี้ก็ยังไม่ใช่ว่าสายเกินไปเพราะคู่แข่งสำคัญ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่นำเป็นจ่าฝูงตอนนี้ยังมีคะแนนทิ้งห่างไม่มาก

หากได้กุนซือดีๆและสามารถเค้นฟอร์มเก่งของนักบอลออกมาได้มากที่สุด โอกาสที่จะไล่เบียดเพื่อสร้างความกดดันให้กับทีมอื่นๆ ก็มี

เพราะฤดูกาลนี้ “ปราสาทสายฟ้า” เองก็ออกอาการเครื่องสะดุดวิ่งไม่ฉิวราบรื่นเหมือนปีที่ผ่านมา จึงทำให้ทุกอย่างยังไม่มีบทสรุป

เพียงแต่จากนี้ไป “กิเลนผยอง” ต้องเร่งฟื้นฟูและปลุกพลังความฮึกเหิมของลูกทีมออกมาให้มากที่สุด

เพื่อให้ทีมวิ่งไปสู่เส้นชัยข้างหน้าตามที่ตั้งใจไว้.

ตองเจ