พาวเวอร์บอมบ์
เป็นอันว่า “ช้างศึก” ทีมชาติไทย โดน “พญามังกร” ทีมชาติจีน บุกมาเผาเครื่องด้วยสกอร์ 2-0 ถึงราชมังคลากีฬาสถาน ในเกมอุ่น เครื่องระดับ “อินเตอร์เนชันแนล เอ-แมตช์” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในส่วนของผลการแข่งขันไม่ได้พลิกความคาดหมายแต่อย่างใด เมื่อวัดจากอันดับโลกที่เราเป็นรอง
อย่างไรก็ตาม มีคำถามของแฟนบอลที่ตามมาอีกเยอะพอสมควร โดยเฉพาะประเด็นการเลือกใช้ตัวนักเตะของ “มิโลวาน ราเยวัช”
ผู้เล่นที่ใช้ลงสนามล้วนเป็นหน้าเดิมๆแทบทั้งสิ้น แม้ว่า “เขา” จะเรียกผู้เล่นหน้าใหม่มาติด ทีมหลายราย
“โค้ชมิโล” เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ตั้งแต่ศึก “คิงส์คัพ” ที่ผ่านมาแล้วครับว่าทีมของเขาเน้นความเข้าใจเรื่องของแท็กติกเป็นหลัก จึงจำเป็นที่ต้องใช้ผู้เล่นที่เคยใช้งานมาแล้ว เพื่อประหยัดเวลาในการทำความเข้าใจกับ “สไตล์การเล่น” ที่ต้องการให้เป็น
แต่เกมเมื่อวันเสาร์เป็นเกมอุ่นเครื่อง เพื่อเตรียมลุยซูซูกิ คัพ ในปลายปี และเอเชียนคัพ ในต้นปีหน้า ดังนั้น ทำไมถึงไม่ใช้เกมนัดนี้เพื่อเป็นการลองนักเตะไปในตัว
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าการที่ราเยวัชเรียกผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาติดทีม เขาไม่อยากจะใช้จริงๆ แต่ เพื่อต้องการลดกระแสการโดนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องตัวผู้เล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคำถามที่ว่า นักเตะที่โชว์ฟอร์มในลีกดี ทำไมถึงไม่ติดทีมชาตินั่นเอง!
อันนี้ “มิโล” คงต้องมีคำตอบให้กับแฟนบอลบ้างแล้วละครับ??? อันนั้นก็ว่ากันไป!!
อีกเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งผมก็เพิ่งจะได้ทราบเรื่องเช่นกัน
สืบเนื่องจากเมื่อวันก่อนมีโอกาสได้อ่าน บทความที่ชื่อ “ปรับโครงสร้างฝ่ายเทคนิค : การพัฒนาเชิงลูกหนังแบบ 360 องศา” ของ คุณศุภโชค อ่วมกลัด ในเว็บไซต์สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย “www.fathailand.org”
ใจความสำคัญน่าสนใจทีเดียวครับ ผมจึงขออนุญาตคัดลอกบางช่วงบางตอนมาลงในคอลัมน์นี้เพื่อให้แฟนบอลได้รับทราบและทำความเข้าใจกันเสียใหม่
ประเด็นสำคัญ 1.จากคำแนะนำของฟีฟ่า ฝ่ายเทคนิคฯ จึงมีการปรับให้ฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ แยกออกจากโครงสร้างฝ่าย และอยู่ในระดับเดียวกับประธานพัฒนาเทคนิค 2.ฟีฟ่ามองว่าในส่วนของทีมชาติชุดใหญ่ อยู่สถานะที่สามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆด้วยตัวเองได้ และ 3.นั่นทำให้งานที่อยู่ภายใต้การดูแลของประธานพัฒนาเทคนิคมี 4 ฝ่ายด้วยกัน คือ ฟุตบอลหญิง, การพัฒนาเยาวชน, การอบรมผู้ฝึกสอน และการส่งเสริมฟุตบอลระดับรากหญ้า
คำสัมภาษณ์ของสาวิน จรัสเพชรานันท์ ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคฯ ในบทความยังบอกด้วยว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับฟีฟ่าจัดสัมมนาประธานเทคนิคว่าด้วยเรื่องกลยุทธ์การบริหารงานและการจัดการ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
“ฟีฟ่าได้ให้คำแนะนำว่าอยากให้เราแยกทีมชาติชุดใหญ่ออกมาจากโครงสร้าง โดยโค้ชทีมชาติจะอยู่ในระดับเดียวกับประธานเทคนิค จากก่อนหน้านี้ที่ทุกอย่างจะอยู่ภายใต้การดูแลของประธานเทคนิคฯ”
ถ้าอ่านจากบทความแล้วให้สรุปก็คือต่อจากนี้ไป ประธานพัฒนาเทคนิค จะไม่มีอำนาจใดๆที่อยู่เหนือทีมชาติไทยชุดใหญ่อีกแล้ว
ทำได้เพียงแค่ให้ข้อมูลเพื่อนำเสนอเท่านั้น!!!
พาวเวอร์บอมบ์