บี บางปะกง
ภาพจาก FOX HUNT Channel
เปิดตัวกันไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับรุ่นที่ 3 ของโครงการ “ฟ็อกซ์ ฮันท์” (Fox Hunt) ที่ทางคิง เพาเวอร์ เจ้าของสโมสร “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผุดขึ้นมาเพื่อเฟ้นหานักเตะเยาวชนฝีเท้าดีไปฝึกทักษะลูกหนังที่เมืองผู้ดีแบบระยะยาว
โดยคัดเลือกผ่านการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รายการ “คิง เพาเวอร์คัพ 2017” (King Power’s Cup 2017) เมื่อปีที่แล้ว
ซึ่งได้รับความสนใจจากทีมบอลเด็กทั่วประเทศ ส่งทีมเข้าร่วมประชันแข้งมากถึง 205 ทีม มีเยาวชนร่วมการแข่งขันมากกว่า 4,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากขึ้นกว่าครั้งก่อนอย่างชัดเจน
ก่อนจะคัดได้หัวกะทิ 10 คน เข้าสู่โครงการ อันประกอบด้วย คณพศ กาดี (โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม) ฟารีด ชูรุ่ง (โรงเรียน อบจ.สงขลา พิทยานุสรณ์) บริบูรณ์ น้อยศรี (โรงเรียนเทพศิรินทร์ เชียงใหม่) ศิริมงคล รัตนภูมิ (โรงเรียนเทศบาลวัดพระจอมคีรีนาคพรต) ฐิติพันธ์ เอกศิริ (โรงเรียนโพธินิมิตวิทยาคม) พิรชัช กุลลประภา (โรงเรียนสาธิต มศว ปทุมวัน) ทักษ์ดนัย ใจหาญ (โรงเรียน อบจ.เชียงราย) ชินวัตร ชีมูล (โรงเรียนกีฬา กทม.) อภิวัฒน์ ไพรสน (โรงเรียนเทศบาลวัดพระจอมคีรีนาคพรต) และวรโชติ เรืองรำหัส (โรงเรียนเทศบาลวัดพระจอมคีรีนาคพรต)
น้องๆทั้งหมดจะได้ไปใช้ชีวิตของนักฟุตบอลฝึกหัดเต็มรูปแบบที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมกับทุนการศึกษาในระดับมัธยมปลายที่โรงเรียน Ratcliffe College เป็นระยะเวลา 2 ปีครึ่ง
นับเป็นโครงการที่ทางคิง เพาเวอร์ ต้องควักเม็ดเงินมหาศาลในการส่งเด็กไทยไปฟูมฟักที่เกาะอังกฤษอย่างจริงจัง โดยหวังว่าสักวันนึงเราอาจจะได้เห็นนักเตะไทยแท้ๆสักคนเติบโตจากโปรเจกต์นี้ แล้วก้าวขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้จริงๆ
ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ ที่จะผลักดันนักฟุตบอลบ้านเราให้ไปโลดแล่นในลีกเมืองผู้ดี
ที่ผ่านมา “ช้าง” ที่เคยเป็นสปอนเซอร์ปะหน้าอกเสื้อให้เอฟเวอร์ตัน ก็เคยพยายามหาช่องทางมาตั้งหลายปีดักดี แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
มาจนถึงยุคนี้ ยุคที่คนไทยถึงขั้นเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรใหญ่ในอังกฤษอย่างเลสเตอร์เต็มตัว เราก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะมีนักเตะไทยคนไหนจะมาโชว์ฝีเท้าในอิงลิชพรีเมียร์ลีก
เรื่องระดับชั้นและคุณภาพของฝีเท้าก็เป็นเรื่องนึง แต่ที่สำคัญกฎหมายแรงงานในอังกฤษอันมีข้อจำกัดหยุมหยิมมากมาย และค่อนข้างล้อมคอก กีดกัน สำหรับนักเตะนอกอียูคือกำแพงอุปสรรคที่สำคัญมากที่สุด
ความจริงไม่ใช่คิง เพาเวอร์ เขาจะไม่หาทางนะครับ ผมคิดว่าเป็นโจทย์นึงที่เขาพยายามตีให้แตก และต้องการจะทำให้เป็นจริงให้ได้
ไม่งั้นคงไม่ถ่อ ไปเทกโอเวอร์ทีม “โอเอชลูเวิน” ในลีกรองเบลเยียม เพื่อเป็นฐานปั้นนักเตะดาวรุ่งป้อนสู่ทีมจิ้งจอกสยามอย่างเป็นเรื่องเป็นราวกันหรอก
ซึ่งทีมลูเวินนี่แหละครับ คือช่องทางสำคัญที่จะทำฝันของคนไทยให้เป็นความจริง เพราะการมาเริ่มชีวิตค้าแข้งในยุโรปที่เบลเยียม ย่อมจะสะดวกโยธินกว่าไปเริ่มที่เกาะอังกฤษเยอะ
นั่นจึงทำให้เราได้เห็น “เจ้าตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารมือ 1 ทีมชาติไทย ได้มีโอกาสไปค้าถุงมืออยู่ที่สโมสรแห่งนี้
และต่อไปถ้า “เจ้าตอง” ซึ่งได้ลงประเดิมเฝ้าเสาเป็นตัวจริงให้โอเอช ลูเวิน ในทีมชุดใหญ่ เป็นเกมแรกไปแล้วเมื่อเสาร์ที่ผ่านมาไปได้สวย
ก็จะมี “กวินทร์โมเดล” เป็นต้นแบบของแข้งไทยคนอื่นๆ
โดยเฉพาะโครงการ “ฟ็อกซ์ ฮันท์” ที่คิง เพาเวอร์ เขาอุตส่าห์ลงทุนอย่างต่อเนื่องมาถึง 3 รุ่นแล้วนี่แหละ
จะถูกเอามาเชื่อมต่อกับโมเดลนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!!!
บี บางปะกง