หน้าแรกแกลเลอรี่

ล้วงลึก 14 คำถาม 'ลีซอ' ธีรเทพ วิโนทัย พร้อมเปิดกระเป๋าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

ไทยรัฐออนไลน์

10 ก.พ. 2561 06:00 น.

อีกราวๆ 11 ชั่วโมงพอดีเป๊ะที่พื้นหญ้าแห่ง ทรู สเตเดียม หรือ "สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" แห่งนี้จะประเดิมรองรับการแข่งขันศึกโตโยต้า ไทยลีก ประจำฤดูกาล 2018 ที่ทาง "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เจ้าของทีมอันดับที่ 2 และ แชมป์โตโยต้า ลีก คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

ซึ่งก่อนที่เกมการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นนั้นทาง "ทีมข่าวกีฬา ไทยรัฐออนไลน์" แอบฉกตัว "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย กองหน้าดีกรีทีมชาติไทยของทีมเจ้าถิ่นมาพูดคุย สอบถามถึงมุมมองและเป้าหมายในปีนี้ พร้อมทั้งยังได้รับเกียรติเปิดกระเป๋าของยอดกองหน้ารายนี้ว่ามีอะไรซุกซ่อนอยู่บ้าง เอาเป็นว่าอย่าเสียเวลาไปพูดคุยและฟังคำตอบไปพร้อมๆ กับผมเลยดีกว่าครับ...

1. ก่อนจะพูดถึงซีซั่นใหม่ ขอย้อนกลับถามถึงภาพสโมสรในขวบปีที่ผ่านมาสักหน่อยว่าพอใจมากน้อยแค่ไหน?

ปีที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้เข้าชิงฟุตบอล เอฟเอ คัพ แม้ท้ายที่สุดแล้วเราพลาดหวังและคว้าได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ ขณะที่ในลีกเราก็สามารถจับในอันดับที่ 3 ของตาราง ซึ่งในส่วนของภาพร่วมทีมนั้นก็จะมีช่วงที่ฟอร์มการเล่นแกว่งๆ หรืออาจจะทุลักทุเลสะดุดไปบ้างก็ตามไปบ้าง ทั้งการเสียคะแนนแบบไม่น่าเสียส่งผลทำให้อันดับในตารางตกลงไปจากปีก่อนที่ได้ตำแหน่งรองแชมป์ ก็ถือเป็นภาพรวมที่ดีและน่าพอใจครับ

กับกล้องตัวโปรดที่เป็นต้องพกไปทุกที่เพื่อเก็บภาพบรรยากาศที่ประทับใจ
กับกล้องตัวโปรดที่เป็นต้องพกไปทุกที่เพื่อเก็บภาพบรรยากาศที่ประทับใจ

2. แล้วภาพรวมของตัวเองหล่ะ?

โดยส่วนตัวถือว่าพอใจครับ เพราะถ้านับเอาชนะผลงานส่วนตัวผมสามารถทำไปได้ถึง 14 ประตู และได้รับโอกาสจาก มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเยอรมนี ที่ได้ส่งตัวเองลงสนามอย่างต่อเนื่องในเลกหลัง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะในทีมช่วงเวลาดังกล่าวมีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บด้วย ซึ่งผลพวงจากโอกาสและผลงานที่ถือว่าน่าพอใจนั้นทำให้ผมกลับไปติดทีมชาติไทยอีกครั้งหนึ่ง (ยิ้ม)

3. ภาพรวมของทีมในปีนี้เป็นอย่างไร?

ปีนี้ทีมมีการเปลี่ยนพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของโควต้าผู้เล่นต่างชาติเปลี่ยนใหม่หมดโดยเป็นการนำผู้เล่นชาวบราซิเลียน และ จากอเมริกาใต้ เข้ามาพร้อมกับการคาดหวังว่าจะดีขึ้นกว่าเดิม นอกเหนือจากผู้เล่นแล้วทีมเรายังได้เพิ่มโค้ชฟิตเนส, ทีมงานเทคนิค ตลอดจนสต๊าฟโค้ชมากว่าเดิม เพราะเราต้องการให้ทุกอย่างพร้อมให้มากที่สุด ซึ่งน่าจะมีอะไรที่ดีกว่าปีที่แล้ว 

โชว์เสื้อหนาวตัวโปรดที่ต้องพกไปทุกที่ ทุกเวลา
โชว์เสื้อหนาวตัวโปรดที่ต้องพกไปทุกที่ ทุกเวลา

 4. ตัดภาพย้อนกลับที่การเสริมทัพส่วนตัวพอใจหรือเปล่า?

มองภาพรวมถือเป็นการเสริมทัพที่ดี แต่จะถามว่าพอใจหรือไม่น่ะเหรอ? จริงๆ ตรงนี้มันไม่ได้อยู่ที่เรา แต่ถ้าเทียบกับศักยภาพนักเตะที่เข้ามาสู่ทีมถือว่ายอดเยี่ยม มันน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีอยู่แล้ว คิดว่าจะเข้าตอบโจทย์กับทีมที่สไตล์การเล่นที่เล่นเกมรุกเป็นหลัก การที่ทีมมีอาวุธหนักเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้ทีมประสบความสำเร็จได้ในปีนี้

5. มาโน โพลกิง ได้ย้ำอะไรเป็นพิเศษกับทีมบ้างในปีนี้?

ก็ไม่ได้เน้นอะไรมากเป็นพิเศษ แต่เมสเซจหลักๆ จะเป็นเรื่องของเทคนิคและวิธีการเล่น ตลอดจนสิ่งที่คุณขจร เจียรวนนท์ ถ่ายทอดผ่านมาทางโค้ชมาโนว่าปีนี้อยากได้แชมป์ติดมือ เพราะ 1-2 ปีที่ผ่านมาเราเฉียดเข้าใกล้กับการคว้าแชมป์ ซึ่งจากการที่ปีนี้ลงทุนสร้างทีมเยอะพอสมควรก็อยากจะมีอะไรติดมือกลับมาบ้าง

กับท่านั่งที่ดูเท่ ตามแบบฉบับของ
กับท่านั่งที่ดูเท่ ตามแบบฉบับของ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย

6. การทำงานร่วมกับโค้ชต่างชาติ ราเยวัช กับ มาโน แตกต่าง?
ทุกคนมีจุดเด่นหมด แต่จะแตกต่างกันไป ราเยวัช จะเข้าใจภาพรวมของบอลไทยค่อนข้างเยอะ จะมาปรับเรื่องการเล่นเกมรับให้เหนียวแน่นขึ้น เสียประตูยากขึ้น ทำให้ทีมไทยโอกาสในการแพ้แต่ละเกมน้อยลง ส่วน โค้ชมาโน เป็นโค้ชที่ชอบเกมรุก เอนเตอร์เทน แฟนบอลชอบ ก็ทำให้เกมสนุกไปอีกแบบ คนละสไตล์ เป็นจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

7. หนังสั้นการเปิดตัวชุดแข่งใหม่ของทีมหน่อยซึ่งถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควรกับมิติใหม่แห่งการนำเสนอ?

ผมว่ามันเป็นเหมือนอีกหน้าประวัติศาสตร์หนึ่งของวงการฟุตบอลไทยเลยนะ ผู้บริหารก็แนะนำว่าน่าจะลองนำเสนอแบบใหม่นอกเหนือจากแต่ก่อนที่อย่างมากก็อาจจะแถลงข่าวเปิดตัวเผยโฉมชุดแข่งจบ แต่ครั้งนี้เราใช้ลูกเล่นการนำเสนอในรูปแบบของหนังสั้น ก็ถือว่าสนุกดีครับ ซึ่งเราได้ใช้ทีมงานมืออาชีพจริงๆ เข้ามาก็เลยมีไอเดียดังกล่าวออกมา และในวันนั้นผมก็รับหน้าที่พิธีกรจำเป็นเดินสัมภาษณ์ความรู้สึกของทั้งนักเตะ ทีมงาน พริตตี้ ก็ถือว่าสนุกดีครับ

มาดแบบนี้พอจะเป็นกุนซือในอนาคตได้เลยนะเนี่ย!
มาดแบบนี้พอจะเป็นกุนซือในอนาคตได้เลยนะเนี่ย!

8. ฟุตบอลไทยลีกปีนี้จะมีอะไรที่แตกต่างกับปีก่อน?

น่าจะเป็นในเรื่องของการแข่งขันที่สูงมากขึ้น เพราะในปีนี้จะมีทีมที่ต้องตกชั้นถึง 5 ทีมเลยทีเดียว เราจะเห็นทุกๆ ทีมตั้งแต่ทีมใหญ่ในหัวตารางลากยาวไปจนถึงทีมกลางตารางและทีมน้องใหม่เสริมทัพกันอย่างดุเดือด ได้ผู้เล่นดีๆ เข้าไปเสริมความแข็งแกร่งค่อนข้างเยอะ ก็ถือเป็นความท้าทายดีครับเพราะทุกทีมเราไม่สามารถประมาทได้เลย เชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ เข้มข้น ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คงจะเป็นแฟนบอลที่จะได้ดูเกมที่มีคุณภาพ


9. พูดถึงเกมนัดแรกที่จะเปิดบ้านะพบกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในค่ำนี้หน่อย?

ถือเป็นเกมนัดแรกของฤดูกาล 2018 ถือเป็นใหญ่เลยทีเดียวในการเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์เมื่อปีที่ผ่านมา ผมมองว่ามันก็เป็นสิ่งที่ดีนะเพราะการเจอกับพวกเขาตั้งแต่นัดแรกเนี่ยถ้ามองจากศักภาพของทีมเราที่ผ่านๆ มาแน่นอนว่าอาจจะเป็นรอง แต่การเจอกันนัดแรกแบบนี้อะไรหลายๆ อย่างอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง ซึ่งเราน่าจะพอสู้ได้

ลีลาการถ่ายภาพแบบนี้ บอกได้เลยว่านายแบบหลายคนต้องชิดซ้าย
ลีลาการถ่ายภาพแบบนี้ บอกได้เลยว่านายแบบหลายคนต้องชิดซ้าย

10. การที่พวกเขาต้องขาดผู้เล่นกำลังสำคัญอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตลอดจน กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะทำให้ศักยภาพของพวกเขาลดลงมั้ย?

ผมว่ามันมีผลเลยทีเดียว เพราะการที่ 3 คนแรกไปค้าแข้งในเจลีกที่ประเทศญี่ปุ่น ส่วนอีกไปค้าแข้งดิวิชัน 2 ของเบลเยียม น่าทำให้พวกเขาลดทอนความอันตรายลงพอสมควร และอย่างที่ผมบอกไปว่าการเจอกันตั้งแต่นัดแรกอะไรๆ มันอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทางมากนัก ทำให้ทีมของผมมีโอกาสที่จะคว้าชัยชนะจากเขาได้

11. มีแนวคิดหรือข้อเสนอแนะที่จะฝากถึงพวกเขาอย่างไรบ้าง?

มันอยู่ที่ความอดทน เพราะไกลบ้าน อยู่ที่นี่ (ไทย) หลายๆคนเป็นซุปเปอร์สตาร์ มีแฟนบอล มีคนดูแลทุกอย่าง แต่อยู่โน่นนี่ ไปอยู่ที่โน่น ต้องลืมตรงนี้ไป ต้องคิดว่าเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เป็นนักเตะใหม่คนหนึ่งที่ต้องพิสูจน์ตัวเองใหม่ เริ่มต้นใหม่ ก็อยากให้อดทน ช่วงแรกๆ อาจจะยากอาจจะเหนื่อยทั้งในเรื่องของการปรับตัว เรื่องของการกินอาหาร สภาพอากาศ ภาษา ตลอดจนการคิดถึงครอบครัว แต่พอปรับตัวได้ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ผมอยากให้อดทน ผมไปอยู่มาหลายประเทศแล้ว เราจะเข้าใจตรงนี้ดี อยู่ที่ความอดทน เมื่อไหร่ที่ปรับตัวได้มันก็จะสบาย ที่สำคัญที่สุดก็ในสนาม พยายามปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีม วิธีการของโค้ช เรียนรู้ให้เร็วที่สุด นอกนั้นไม่มีปัญหา ความสามารถศักยภาพของนักเตะไทยมีอยู่แล้ว

ท่าผูกเชือกรองเท้าที่บาดตาสาวแท้สาวเทียมมิใช่น้อย
ท่าผูกเชือกรองเท้าที่บาดตาสาวแท้สาวเทียมมิใช่น้อย

12. มีความคิดเห็นอย่างไรกับเทคโนโลยี VAR ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากกับฟุตบอลไทยในพักหลัง?

เทคโนโลยีอย่าง VAR แน่นอนว่าเราคงไม่ได้เห็นผู้ตัดสินใช้พร่ำเพรื่อ จะใช้แค่บางจังหวะที่ผู้ตัดสินไม่ทันเห็นในจังหวะสำคัญๆ เท่านั้น ถ้าถามผมนะ ผมว่าเทคโนโลยีชนิดนี้จะเป็นผลดี เพราะช่วยให้การตัดสินมันชัดเจนมากขึ้น ก็อยู่ที่ผู้ตัดสินว่าจะใช้จังหวะไหน ซึ่งคงไม่ทำให้อรรถรสฟุตบอลมันเสียไปหรอก

13. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้คุณจะมีอายุครบ 33 ปีแล้ว อยากให้พูดถึงการรับใช้ทีมชาติหน่อย?

ผมพร้อมจะรับใช้ทีมชาติเหมือนเดิม ถึงแม้อายุใกล้จะ 33 แล้ว แต่เรื่องของศักยภาพ สภาพร่างกาย ความฟิตต่างๆ ความมุ่งมั่น ความกระหายยังคงมีอยู่เยอะ เมื่อไหร่ที่ทีมชาติต้องการ เราก็พร้อม คือเราก็ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะต้องกลับไปติดทีมชาติ เราก็จะทำผลงานให้เต็มที่กับสโมสร การติดทีมชาติตอนนี้ก็เหมือนโบนัส เพราะก็ต้องยอมรับว่าเราเองก็อายุเยอะแล้วเหมือนกัน

กับ 2 สตั๊ดคู่ใจอย่าง Mercurial Superfly V Fire และ Ice Pack ที่ต้องพกติดตัวไปทุกครั้งที่ลงสัมผัสสนาม
กับ 2 สตั๊ดคู่ใจอย่าง Mercurial Superfly V Fire และ Ice Pack ที่ต้องพกติดตัวไปทุกครั้งที่ลงสัมผัสสนาม

 14. ฝากแฟนบอล ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

แบงคอก เป็นทีมหนึ่งที่น่าติดตามและน่าสนใจมากๆ ด้วยสไตล์การเล่นของโค้ช มาโน เป็นสไตล์การเล่นเกมรุกที่ดุดัน หลากหลาย เน้นเกมรุก เปิดหน้าแลกเต็มที่ แต่ละเกมที่แข่งผลสกอร์ค่อนข้างสูงตลอด เพราะเราเล่นเกมรุกค่อนข้างเยอะ แฟนบอลที่เข้ามาชม จะได้อรรถรส ความสนุก ได้บรรยากาศที่ดีแน่นอน ก็อยากให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์กันเยอะๆ ตอนนี้เราก็พยายามจะขึ้นมาเป็นทีมใหญ่ทีมหัวตารางให้ได้ อยากจะให้แฟนบอลเปิดใจให้กับแบงคอกบ้าง เข้ามาเชียร์กันเยอะๆ ส่วนแฟนบอลที่เชียร์อยู่แล้ว เป็นแฟนบอลหลักๆ ก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและติดตามกัน ผมอยู่ที่นี่ กำลังจะเริ่มฤดูกาลที่ 3 แล้ว เราก็เห็นแล้วว่ามีกลุ่มประจำที่คอยเชียร์อยู่ ก็อยากให้เชียร์กันต่อไป เชื่อว่าปีนี้จะนำความสำเร็จมาให้ทุกๆคนได้ชื่นชมกันได้