หน้าแรกแกลเลอรี่

"โกเมธ" ขอโทษแฟนกีฬาไทย ตกรอบโอลิมปิก 2024-“ธนาคาร” สู้สุดหัวใจจนนานาชาติชื่นชม

ไทยรัฐออนไลน์

4 ส.ค. 2567 14:16 น.

“โกเมธ” ขอโทษแฟนชาวไทย ทำอย่างเต็มที่แล้ว ลั่นตั้งใจซ้อมเพื่อชิงชัยศึกซีเกมส์-เอเชี่ยนเกมส์ ส่วน “ธนาคาร” สู้สุดหัวใจจนนานาชาติชื่นชม

“เสธ.หมึก” ให้กำลังใจและชื่นชม “โกเมธ สุขประเสริฐ” นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย ที่ตั้งใจสู้อย่างเต็มที่ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยไปต้อนรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมวางแผนให้ “โกเมธ” ฝึกซ้อมเพื่อเตรียมสู้ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีหน้า มีการเสริมด้านนักจิตวิทยาและเวตเทรนนิ่งให้มากขึ้น ตั้งเป้ากวาด 2 เหรียญทองทั้งบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง และไทม์ไทรอัล แต่ต้องไม่ประมาทเด็ดขาด รวมถึงแผนระยะยาวการเตรียมทีมเข้าแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ญี่ปุ่น และการเก็บแต้มโอลิมปิกเกมส์ 2028 ในอีก 4 ปีข้างหน้า ขณะที่ “ธนาคาร ไชยยาสมบัติ” นักปั่นประเภทถนนก็ทำผลงานยอดเยี่ยม ปั่นเป็นกลุ่มนำในรายการโรดเรซ ระยะทางกว่า 170 กม. แม้จะถูกตัดเวลาแต่ได้รับการชื่นชมจากนานาชาติ จาการที่ “ธนาคาร” สวมหัวใจนักสู้ทำให้โลกรู้ถึงความสามารถของนักปั่นไทย

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เดินทางไปต้อนรับคณะนักกีฬาบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยหลังเสร็จภารกิจการแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ประกอบด้วย “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ, “นาย” นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ สองนักปั่นทีมชาติไทย และนายจีระพล ปัทมินทร์ ช่างประจำทีม ซึ่งคณะนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยได้เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเช้าตรู่วันที่ 4 สิงหาคม โดยมีญาติพี่น้องของนักกีฬาและพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุพรรณบุรี มาร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น

พลเอกเดชา เปิดเผยว่า สำหรับนักกีฬาที่เดินทางไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไร สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ก็ให้กำลังใจทั้งก่อนเดินทางไปแข่งและเดินทางกลับ สำหรับ โกเมธ ถึงแม้ไม่ผ่านรอบคัดเลือก แต่ก็มีความตั้งใจ น่าเสียดายเราไปพลาดเรื่องการออกตัว อีกทั้งเสียเปรียบเรื่องช่องสตาร์ต ซึ่งโกเมธอยู่ช่องที่ 8 ขวาสุด ถือว่าเป็นช่องที่ขี่ยากมาก นอกจากนี้ นักกีฬาชาติต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาแข่งโอลิมปิกเกมส์ล้วนแต่ร่างกายแข็งแรงบึกบึนทุกคน ขนาดโกเมธที่ว่าตัวใหญ่ที่สุดในเอเชีย เมื่อไปเทียบกับนักปั่นจากยุโรปยังดูตัวเล็กกว่ามาก

“ผมได้คุยกับโกเมธว่าช่วงนี้ขอให้พักผ่อนไปสักระยะหนึ่ง เพราะตรากตรำฝึกซ้อมมาอย่างยาวนาน หลังจากนั้นจะกลับมาฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2568 โดยจะให้โกเมธเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งนักกีฬาคนอื่นๆ ซึ่งจะปักหลักซ้อมอยู่ที่ศูนย์กีฬากมล ของเอฟบีที สิ่งสำคัญเราต้องเพิ่มเรื่องของนักจิตวิทยาให้เข้ามาพูดคุยกับนักกีฬาเพื่อให้มีสมาธิมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงออกตัว รวมทั้งการเสริมเวตเทรนนิ่งให้มากกว่านี้ หลังจาก มร.ฮาร์วี่ เครปส์ ผู้ฝึกสอนชาวสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางกลับมาประเทศไทย ก็จะต้องมาปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้อย่างละเอียด” พลเอกเดชา กล่าว

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า แผนการเตรียมทีมระยะสั้นคือการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งใกล้เข้ามาแล้ว สมาคมกีฬาจักรยานฯ ตั้งเป้าหมายว่าโกเมธจะต้องคว้าให้ได้ 2 เหรียญทองในรายการบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง และบีเอ็มเอ็กซ์ ไทม์ไทรอัล นอกจากนี้ยังหวังจากนักกีฬาหญิงอีก 2 เหรียญ รวมเป็น 4 เหรียญทอง ซึ่งคาดว่าโกเมธไม่น่าจะพลาด แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ประมาทอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุล้มจนบาดเจ็บขึ้นมาก็จะพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อจบกีฬาซีเกมส์แล้ว แผนระยะยาวก็เป็นการเตรียมทีมเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ. 2569 สำหรับโกเมธอายุยังน้อย สามารถลงแข่งขันได้อีกหลายปี อีกทั้งเป็นนักกีฬาที่มีระเบียบวินัย เชื่อฟังโค้ช ซึ่งเป็นคุณสมบัติของนักกีฬาที่จะประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต นอกจากนั้น โกเมธก็ต้องตระเวนแข่งขันเพื่อเก็บแต้มโอลิมปิกเกมส์ 2028 ในอีก 4 ปีข้างหน้าด้วย

ด้าน โกเมธ กล่าวว่า “การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผม ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผ่านเข้ารอบลึกๆ แต่ผมก็พยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว และถือว่าปั่นได้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังต้องกลับมาแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อเตรียมตัวในการแข่งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 20 รวมทั้งโอลิมปิกเกมส์ในครั้งหน้า การที่ผมได้เจอกับนักปั่นระดับโลกทำให้รู้สึกอยากจะแข่งขันด้วย ผมพยายามขี่เกาะกลุ่มและพยายามไล่แซงให้ได้ การไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ทำให้ผมมีแรงมีพลังที่จะกลับมาสู้ต่อ ตอนนี้ได้คุยกับโค้ชฮาร์วี่ถึงแผนการฝึกซ้อมและจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไข ขอขอบคุณพี่น้องชาวไทย พี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรี และแฟนๆ กีฬาจักรยานทุกคน ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมและนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคน สำหรับผมได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว ก็ต้องขอโทษพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ไม่สามารถผ่านเข้ารอบลึกๆ ตามที่หวังเอาไว้ได้ หลังจากนี้จะเร่งแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองและทำผลงานให้ดีที่สุดต่อไปครับ”

ขณะเดียวกัน พลเอกเดชา ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับผลงานของทีมจักรยานประเภทถนนชายไทยในรายการโรดเรซ แม้ว่า “เจ้าเฟรม” ส.อ.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ หนึ่งเดียวของไทยจะไม่บรรลุเป้าหมายขี่จบการแข่งขันในระยะทาง 272.1 กิโลเมตร แต่ผลงานในสนามของธนาคารด้วยการหนีกลุ่มใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักปั่นระดับโลกไปกับอีก 4 นักปั่นจากประเทศรวันดา,โมร็อกโก, มอริเชียส และยูกันดา เป็นระยะทางกว่า 170 กิโลเมตร สามารถชนะใจแฟนกีฬาเมืองไทยที่เฝ้าชมการถ่ายทอดสดตลอดเวลาร่วม 6 ชั่วโมง

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ทางสมาคมกีฬาจักรยานฯ ขอชื่นชมในความพยายามและสปิริตนักกีฬาของธนาคาร ซึ่งจากรายงานของ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดถนนปารีสเกมส์ ระบุว่า วางเกมในการแข่งขันเอาไว้สองแผน แผนแรกคือให้ธนาคารฝังตัวในกลุ่มเก็บแรงเอาไว้ให้มากที่สุด เพื่อรอเวลาที่บรรดานักปั่นตัวเต็งจะเริ่มฟาดฟันกันอย่างเต็มกำลังในช่วงสุดท้าย ส่วนแผนสองคือหนีกลุ่มออกไปตั้งแต่ช่วงต้น สร้างระยะห่างให้ได้มากที่สุด หนีกลุ่มให้ไกลที่สุดเพื่อเข้าใกล้เซอร์กิตสุดท้ายในกรุงปารีสที่เป็นเส้นทางขึ้นเขามองมาร์ตยากและโหดมาก รวมทั้งเป็นจุดที่คาดการณ์ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับบรรดาตัวเต็งจะเปิดศึกกันอย่างจริงจัง

“เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงต้นเกม ธนาคารพร้อมกับนักปั่นอีก 4 คน พร้อมใจกันหนีกลุ่มออกมา และปรากฏว่ากลุ่มใหญ่ไม่ไล่อย่างจริงจัง จนกระทั่งนักปั่นทั้ง 5 คนหนีห่างไปสูงสุดถึง 14 นาทีเศษ และเหลือระยะทางการแข่งขันอีกเพียง 130 กิโลเมตร ซึ่งดูแล้วมีโอกาสสูงที่ทั้ง 5 คนจะไปถึงทางเข้าเซอร์กิตปารีสตามแผน แต่กลับมีนักปั่นอีกกลุ่ม 5 คน หนีจากกลุ่มใหญ่ออกมาไล่ ทำให้กลุ่มใหญ่เร่งความเร็วจนมารวบธนาคารและนักปั่นโมร็อกโกที่ 100 กิโลเมตรสุดท้าย และไปต่อด้วยความเร็วสูงมากจนนักปั่นที่หนีกลุ่มมาช่วงแรกต้านทานไม่ไหว หลุดกลุ่มและทยอยถูกตัดเวลาไป 4 คน ทั้งนักปั่นจากรวันดา โมร็อกโก มอริเชียส และธนาคาร

“แม้ว่าธนาคารจะถูกตัดเวลาการแข่งขัน ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ผลตอบรับและการแสดงออกความเป็นนักสู้ของเจ้าเฟรมในระหว่างการแข่งขัน สร้างความประทับใจให้แฟนกีฬาไทยทั่วประเทศ ในขณะที่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษของการถ่ายทอดสดเองก็กล่าวชื่นชมในความสามารถและความพยายามของนักปั่นไทยที่เป็นนักกีฬาหน้าใหม่ของโอลิมปิกเกมส์ แต่ก็สู้กับนักกีฬาระดับโลกที่ล้อมรอบอยู่อย่างสมศักดิ์ศรี ขณะเดียวกัน ผมก็ได้รับทั้งข้อความและโทรศัพท์จากผู้บริหารสหพันธ์กีฬาจักรยานเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ แสดงความชื่นชมที่นักปั่นไทยได้แสดงออกถึงความสามารถในกีฬาจักรยานออกสู่สายตาชาวโลกอย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งก็เป็นผลบวกที่กีฬาจักรยานของไทยเราได้รับในอีกทางหนึ่ง” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.