ไทยรัฐออนไลน์
“สองล้อ” ไม่เคยหยุดนิ่ง เดินหน้าส่งนักกีฬาทุกประเภท ทั้งถนน-บีเอ็มเอ็กซ์-ลู่ ตระเวนแข่งขันรายการนานาชาติเพื่อเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ 2024
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2023 เมื่อวันที่ 7-13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่อ่างเก็บน้ำดอกกราย จังหวัดระยอง จนกระทั่งได้รับคำชมจากนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ตัดสินต่างชาติว่าจัดการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม มีมาตรฐานระดับโลก ทั้งด้านการบริหารจัดการ โรงแรมที่พัก อาหาร การขนส่งนักกีฬา นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันมากเป็นประวัติการณ์กว่า 700 คน จาก 28 ประเทศ
พลเอกเดชา กล่าวว่า ขณะที่ผลการแข่งขันทัพนักปั่นไทยก็ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม ได้มา 3 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง คว้าอันดับ 2 ของตารางสรุปเหรียญรางวัล นอกจากนี้นักปั่นไทยยังได้โควตาไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อย่างไม่เป็นทางการจำนวน 2 ที่นั่ง โดยสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ ได้ประกาศอันดับโลกล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน สำหรับทีมหญิง ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 27 ของโลก จากจำนวน 45 ประเทศที่จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ขณะที่ทีมชายอันดับโลกขยับจากอันดับที่ 43 ไปอยู่อันดับที่ 41 ของโลก
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะประมาทไม่ได้ ยังต้องส่งนักปั่นทีมชาติไทยไปแข่งขันรายการนานาชาติต่างๆ เพื่อเก็บคะแนนสะสมเพิ่ม เป็นการรักษาอันดับให้อยู่ภายใน 45 อันดับแรกของโลกทั้งชายและหญิง ก่อนที่ยูซีไอจะตัดยอดและประกาศรายชื่อประเทศและนักกีฬาที่ได้ไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 อย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ตุลาคม ศกนี้ สำหรับนักปั่นทีมชายสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะส่งนักปั่นชุดใหญ่ ประกอบด้วย พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย, ร.ต.อ.นวุติ ลี้พงษ์อยู่, ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ, นายรัชชานนท์ เยาวรัตน์, นายนพชัย กล้าหาญ ไปแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติที่ประเทศจีน 2 รายการใหญ่ ได้แก่ รายการ “ทัวร์ ออฟ ชิงไห่ เลค” ระหว่างวันที่ 9-16 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันระดับ 2.HC ต่อด้วยการแข่งขันรายการ “ทัวร์ ออฟ หวงซาน” ระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันระดับ 2.2 ซึ่งมีคะแนนโอลิมปิกให้เก็บสะสม
“เสธ.หมึก” กล่าวต่อไปว่า ด้านทีมหญิง สมาคมกีฬาจักรยานฯ วางแผนจะส่งนักปั่นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ผสมกับรุ่นเยาวชน และรุ่นประชาชน ประกอบด้วย น.ส.กมลรดา ขาวปลอด, น.ส.อภิชยา หันทยุง, น.ส.ปัณฑิตา ชิตมาตย์, น.ส.ณัฐชา สงเคน และน.ส.รุ่งนภา กุศล ไปแข่งขันรายการนานาชาติ “เทเลวิชั่น คัพ แองยาง” ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 7-15 กรกฎาคม ขณะที่ชุดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วย พ.ต.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน, ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช, ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ ไปแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติรายการ “ทัวร์ ออฟ ชงหมิง ไอซ์แลนด์” ที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคม เป็นการแข่งขันระดับ WWT หรือ Women World Tour มีคะแนนสะสมสูงมาก และเป็นรายการสุดท้ายก่อนจะตัดยอดประเทศที่ได้ไปโอลิมปิกเกมส์
“นอกจากนี้สมาคมฯ ยังเตรียมส่งนักกีฬาประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ไปแข่งขันจักรยานประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่เมืองคาวิเต ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 15-16 กรกฎาคม ซึ่งเป็นรายการที่มีความสำคัญมากเพราะนักปั่นที่ได้แชมป์ในรุ่นประชาชนชาย และหญิง จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศสทันที ขณะเดียวกันก็มีคะแนนสะสมให้นักปั่นที่ได้อันดับต่างๆ ด้วย ส่วนหลักเกณฑ์ที่จะคัดเลือกนักกีฬาจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ไปโอลิมปิกเกมส์นั้น สหพันธ์จักรยานโลก (ยูซีไอ) จะให้สิทธิ์ประเทศที่มีคะแนนสะสมอยู่ใน 12 อันดับแรกของโลกทั้งชายและหญิง โดยอันดับโลกล่าสุดของประเทศไทย ทีมชายอยู่อันดับ 18 ของโลก ส่วนทีมหญิงอยู่อันดับ 17 ของโลก เราจึงต้องเร่งเก็บคะแนนให้ได้มากที่สุดเพื่อติด 1 ใน 12 ของโลกทั้งชายและหญิง” พลเอกเดชา กล่าว
สำหรับทีมบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยที่จะไปสู้ศึกชิงแชมป์เอเชีย 2023 สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาชุดเตรียมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน จำนวน 7 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ / รุ่นประชาชนหญิง ส.ต.หญิง ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ น.ส.วรัญญา แซ่แต้ / รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ และ นายบวรพิตร นิลสนธิ / รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง น.ส.เขมิกา ศรีโสภา และ น.ส.หทัยเพชร ใจสว่าง นอกจากนี้ยังมีนักปั่นเยาวชนอีก 4 คน ในรุ่นเยาวชนชาย นายศรัณวิทย์ รัศมี จากทีมอบจ.&อีซูซุสุพรรณบุรี และ นายลิขสิทธิ์ พิมมา จากทีม Pump Track อรัญประเทศ / รุ่นเยาวชนหญิง น.ส.ฐิติชญา ขาวดี จากทีมโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร และ น.ส.กนกรัตน์ ฤทธิเดช จากทีม Bike net Liqui Moly รวมเป็น 11 คน” พลเอกเดชา กล่าว
นายกสองล้อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า นักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย จำนวน 11 คน จะเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 11 กรกฎาคม ภายใต้การควบคุมทีมของ “โค้ชบอส” นายอัถร ไชยมาโย หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ มร.ฮาร์วีย์ เกรป ผู้ฝึกสอนชาวสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วย นายจีระพล ปัทมินทร์ ช่างประจำทีม และ น.ส.รจเรศ วันธนไทยนันท์ นักกายภาพบำบัด ส่วน “เอ้” ส.ต.โกเมธ สุขประเสริฐ จะเดินทางมาจากศูนย์ฝึกจักรยานโลก พร้อมกับ มร.จอห์น ทีรอน ผู้ฝึกสอนของศูนย์ฝึกฯ แล้วไปสมทบกับทีมชุดใหญ่ที่ประเทศฟิลิปปินส์
“ส่วนนักปั่นประเภทลู่ ทีมชาติไทยซึ่งนำโดย จาย อังค์สุธาสาวิทย์ พร้อมเพื่อนร่วมทีมทั้งรุ่นประชาชนชาย-หญิง และเยาวชนชาย-หญิง กำลังแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 14-19 มิถุนายน ซึ่งเป็นการเก็บคะแนนสะสมไปโอลิมปิกเกมส์เช่นกัน โดยจายมีกำหนดลงแข่งขันรายการคีริน รุ่นประชาชนชาย ในวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน หากไม่เกิดอุบัติเหตุในรอบแรก จายก็มีโอกาสเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ และมีสิทธิ์คว้ารางวัลอันดับ 1-3 มาครอง พร้อมได้คะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์ด้วย ซึ่งผมเองจะเดินทางไปให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยถึงสนามแข่งขัน และไปร่วมเป็นเกียรติในฐานะประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน ก็ต้องขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยเชียร์นักปั่นไทยทุกทีมทุกชุดให้เก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกให้ได้มากที่สุด” นายกสองล้อไทย กล่าว
พลเอกเดชา กล่าวเสริมอีกว่า ตอนนี้นักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยประเภทถนนอยู่ในช่วงพักเพื่อให้สภาพร่างกายฟื้นตัวหลังจากแข่งขันติดต่อกันหลายรายการ ก่อนจะมีการเรียกเก็บตัวอีกครั้งในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ โดยจะไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การควบคุมทีมของ “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอน และ มร.หลี่ เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน พร้อมคณะ นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังได้ร่วมมือกับ คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยท่านคณบดี รศ.ดร.ชัยพัฒน์ หล่อศิริรัตน์ ในการนำวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อมาพัฒนานักกีฬาจักรยานไทย ซึ่งจะนำกระบวนการทดสอบร่างกายนักปั่นไทยประเภทถนน ในวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่นักกีฬาประเภทลู่ หลังจากเสร็จจากการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศมาเลเซีย ก็จะไปเก็บตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ และจะมีการทดสอบร่างกายเช่นเดียวกัน
“สำหรับนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยประเภทเสือภูเขา สมาคมฯ วางแผนให้ไปเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่เขื่อนวชิราลงกรณ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเตรียมทีมสู้ศึกกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน ซึ่งจะต้องมีการทดสอบร่างกายด้วย ส่วนนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย ได้ทำการทดสอบไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยกระบวนการทดสอบร่างกายดังกล่าวของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะใช้วิธีการเจาะเลือดระหว่างที่นักกีฬาแต่ละคนออกแรงตามที่กำหนด เพื่อหาค่าสารเคมีในเลือด นำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบกับข้อมูลที่เก็บไว้ในช่วงเวลาที่นักกีฬาแต่ละคนมีความฟิตสูงสุด เพื่อให้ผู้ฝึกสอนได้นำข้อมูลนี้ไปออกแบบการฝึกซ้อมให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของนักกีฬาในปัจจุบัน และระยะเวลาการฝึกซ้อมของการแข่งขันแต่ละรายการ จะเห็นได้ว่าสมาคมกีฬาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานตลอดเวลาไม่เคยหยุดพัก เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.