หน้าแรกแกลเลอรี่

พลังอำนาจกีฬาไทย

บี บางปะกง

1 มิ.ย. 2566 08:35 น.

อีกครั้งที่ต้องบอกว่า 10 กว่าปีที่แล้ว

เขาเป็นคนแรกๆที่พูดคำว่า “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่ตอนนี้ใครๆ ก็ใช้ไปทั่ว

ทั้งที่รู้ความหมายแท้จริงบ้าง ไม่รู้บ้าง

แต่วันนี้ เราจะได้เห็นความสำเร็จของ “การสร้างพลังอำนาจกีฬาไทย บนเวทีโลก!!” ของจริงกัน

ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำยากยิ่ง!

ผมได้สัมภาษณ์พิเศษ “เดรค” ปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์กีฬาเจ็ตสกีโลก WGP#1 อีกครั้ง

ในโอกาสที่ได้สร้างเป้าหมายความสำเร็จเป็นจริง!!

ล่าสุด ได้ขยายเครือข่ายการถ่ายทอดสดบนสถานีโทรทัศน์ทั่วโลกกว่า 2,000 ล้านคน

สร้างประโยชน์ในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยมหาศาล

โดยเป็นการถ่ายทอดสด นอกประเทศไทยเป็นครั้งแรก ด้วยทีมงานคนไทยทั้งหมด 100%

ขอเรียนตามตรงว่า สำหรับผม นี่คือความสำเร็จที่สำคัญที่สุดอีกด้านหนึ่งของวงการกีฬาไทยก็ว่าได้

เรื่องนี้เหมือนจะอยู่ไกลตัวคนทั่วไป แต่เราจะเริ่มเห็นผลประโยชน์ชัดอีกมากมายในช่วงต่อจากนี้

“ปีละ 4ครั้ง ที่จะยิงสัญญาณสดกีฬาและภาพความสวยงามของประเทศไทย คลอบคลุมเครือข่าย 2,000 ล้านคน ด้วยตัวของเราเอง เพื่อยืนบนขาเราเอง”

ไม่ต้องทำโดยฝรั่งมังค่า มันเป็นมูลค่าสื่อประชาสัมพันธ์หลักพันล้านบาท ใครๆก็รู้

“การเตรียมขึ้นแพลทฟอร์มดิจิตอลกว่าอีก 500 ล้านยูสเซอร์”,

“กีฬาที่ชาติยุโรป อเมริกา และทั่วโลก ต้องมาขอสิทธิ์คนไทยจัดการแข่งขันและให้การรับรอง” น่าภูมิใจมั๊ยครับ

“กีฬาที่ดึงชาวต่างชาติเข้าเมืองไทยเบาะๆ ปีละ 3,000 คน”

“กีฬาที่มีเป้าหมายและสนับสนุนการสร้างอุปกรณ์กีฬาเพื่อการส่งออก โดยเริ่มมีชื่อเสียงบนตลาดโลก”

ถ้ายังไม่พอ!! กีฬานี้ ตั้งเป้าสร้างประโยชน์ชาติและเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ 15,000 ล้านบาท ต่อปี ในปี 2568

โดยจากสถิติการพัฒนาที่ผ่านมาทำได้แน่ ลองพิจารณาดูครับ กีฬานี้วางแผนมาอย่างไร

อันที่พลิกแบบสุดขั้ว จากที่ผมเองเคยสัมผัสกับกีฬาเจ็ตสกีมากว่า 20 ปีแล้ว

จากจุดที่เรียกว่า “ศูนย์” หรือ “ติดลบ”

ได้เปลี่ยนจากชาติเล็กๆ ที่ทุกคนในวงการกีฬาเจ็ตสกีโลก “มองข้าม”

พัฒนาขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจ มีอำนาจต่อรองไม่ให้ใครมาโกงนักแข่งไทยได้

แม้แต่ “IF” หรือ International Federation ได้แก่ สมาคมเจ็ตสกีนานาชาติ IJSBA สหรัฐอเมริกา

ยังต้องถามนโยบายจัดการแข่งขันจากไทย

“พลังอำนาจกีฬาไทย” ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

ถ้าใครคิดว่ากีฬานี้ยังเล็กๆ และไม่มีประโยชน์

ผมคิดว่าควรจัดกลุ่มการบริหารงานกีฬาคนๆนั้น อยู่ในยุคไดโนเสาร์ เต่าล้านปี ไม่เหมาะกับยุคปัจจุบันเป็นแน่

หรือก็คงมีอะไรในใจที่ไม่เป็นธรรม มีวาระซ่อนเร้น หรือไม่ก็ตีโป่งมีความอิจฉา

การมีแผนก้าวสู่ตลาดโลกเช่นนี้ ถ้าเริ่มต้นเห็นแล้วว่าทำได้

ถ้าไม่คิดเริ่มต้นบ่นว่ายาก ก็กลับไปบรรทัดบน

สิ่งที่สรุปจากการเล่ามาของ “เดรค” ปริเขต เขาบอกใจความสั้นว่า...

ต่างชาติมักจะฝังแนวคิดว่า เขาคือผู้นำและคนไทยต้องเดินตามกรอบที่เขาวางไว้เท่านั้น เป็นสร้างกับดักความคิดด้านลิขสิทธิ์กีฬา”

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้คนไทยเข้าใจเรื่องโอกาสด้านการสร้างลิขสิทธิ์กีฬาบนตลาดกีฬาโลกมากยิ่งขึ้น

มันช่างเป็นแนวคิดการพัฒนากีฬายุคใหม่

ที่เชื่อว่ากีฬาไทย จะสร้างชื่อเสียงและประโยชน์ชาติอีกมากมาย !!!

- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com