บี บางปะกง
บทสรุปของลีกพระรอง “ไทยลีก 2” ที่ต้องตัดสินแชมป์กันจนถึงนัดสุดท้าย
ปรากฏว่า คำทำนายของ “พี่ฉ่อย ท่าพระ” กูรูฟุตบอลไทยพันธุ์แท้ เป็นความจริงจนได้ครับ!
เมื่อ “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด มาแรงแซงทางโค้ง
เข้าป้ายชูถ้วยแชมป์ไปได้ด้วย HEAD TO HEAD ที่เหนือกว่า ตราด เอฟซี
โดยทั้งสองทีมซิวตั๋วขึ้นมาเป็น “น้องใหม่ไทยลีก” ในฤดูกาลหน้าเรียบร้อยแล้ว
ยังเหลืออีก 1 ที่นั่ง ซึ่งจะมาจากการเพลย์ออฟของ 4 ทีม
คือ อุทัยธานี เอฟซี (อันดับ 3) พบกับ สุพรรณบุรี เอฟซี (อันดับ 6)
และ คัสตอม ยูไนเต็ด (อันดับ 4) เจอ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด (อันดับ 5)
ซึ่งนัดแรก จะเตะกันในวันที่ 6-7 พ.ค.นี้ ส่วนนัดสอง วันที่ 12 พ.ค.
ทีมชนะ จะผ่านเข้าชิงตั๋วขึ้นไทยลีกใบสุดท้าย ที่จะฟาดแข้งเหย้าเยือน ในวันที่ 21 และ 27 พ.ค.
ส่วนที่ตกชั้นลงไปสู่ไทยลีก 3 ค่อนข้างช็อกพอสมควร!
เพราะกลายเป็นทีม “ตราชฎา” ราชประชา ที่พบกับความเศร้า จากการพ่ายแพ้คู่แข่ง ในเกมส่งท้าย
เลยต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ในลีกล่าง พร้อมกับ ระนอง ยูไนเต็ด และ อุดรธานี เอฟซี ที่ร่วงไปก่อนหน้านี้
การคว้าแชมป์ของ “นครปฐม ยูไนเต็ด” กลายเป็นสิ่งที่ต้องโจษขานในวงการฟุตบอลไทยไปอีกนานแสนนาน
เพราะกว่าพวกเขาจะสมหวังได้กล้บคืนสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง
ต้องผ่านการต่อสู้กับอุปสรรคร้อนหนาวนานัปการ มาอย่างยาวนานกว่า 14 ปีเต็ม
สิ่งที่เหลือเชื่อที่สุดกับตำแหน่งแชมป์ลีกรองในครั้งนี้
คือการที่แข้ง “เสือป่าราชา” ไม่เคยขึ้นไปเป็นจ่าฝูงมาก่อนเลยตลอดฤดูกาล
แต่มาแซงเข้าวินหน้าตาเฉยในเกมสุดท้าย หลังเอาชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ 2-0
เรียกว่าขึ้นนำทีเดียวได้แชมป์ไปเลย...ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์
โดยความสำเร็จที่เกิดขึ้นต้องยกเครดิตให้กับ “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี กุนซือคู่บารมี
ที่กลายเป็นโค้ชคนแรกและคนเดียวที่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นจากไทยลีก 4 จนถึงไทยลีก 1 ได้อย่างยอดเยี่ยม!
โดย “โค้ชธง” พิสูจน์ให้เห็นว่าทีมที่จะเป็นแชมป์ “ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ” ใช้เงินพอเพียงก็ทำได้
แต่ขอให้ทุกคนมีเป้าหมาย เล่นด้วยทีมเวิร์ก
บวกวิธีการในการเอาชนะคู่ต่อสู้ในแต่ละเกม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ส่วนคีย์แมนอีกคนที่ต้องพูดถึง คือ "กัปตันช้าง" กฤษดา วงษ์แก้ว
ที่สร้างความฮือฮาในตลาดเลก 2 ด้วยการถอดรองเท้าผ้าใบจากสนามฟุตซอล
มาสวมสตั๊ดลงเล่นในสนามใหญ่ให้กับ นครปฐม ด้วยสัญญาระยะสั้น 3 เดือน
แต่นั่นคือ 3 เดือน ที่ กัปตันช้าง นำศาสตร์ฟุตซอลที่ตัวเองมีอย่างเต็มเปี่ยม
มาช่วย “เสือป่าราชา” ให้ยกระดับฟอร์มการเล่นในช่วงเลกสอง จนก้าวไปถึงแชมป์จนได้ในที่สุด
ทำให้เขากลายเป็น “แข้งประวัติศาสตร์” ที่เคยคว้าแชมป์ฟุตซอลลีกให้ ชลบุรี บลูเวฟ มาแล้วถึง 10 สมัย
และเติมเต็มความฝันของตัวเอง ด้วยการครองแชมป์ไทยลีก 2 ร่วมกับ นครปฐม
แถมยังซัดจุดโทษในเกมสุดท้ายอีกต่างหาก!!
ซึ่งอนาคตของเจ้าตัวจะมีโอกาสสัมผัสเกมไทยลีก ลีกสูงสุดหรือไม่? ยังไม่รู้
เพราะล่าสุด ฉลามโต๊ะเล็ก ต้นสังกัดที่แท้จริง ได้ใส่ชื่อ กัปตันช้าง ลงลุยในฟุตซอลไทยลีกปีนี้ด้วย
และคนสุดท้าย..ที่จะลืมไม่ได้เด็ดขาด กับความสำเร็จของเสือป่าราชา
ก็ต้องเป็นเขาคนนี้ “เสี่ยโหน่ง” ดร.พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรฯ
ที่อยู่ทุกเบื้องหลังความสำเร็จของทีม...อย่างแท้จริง!
โดยยึดมั่นคำสั่งเสียของบิดา “ไชยา สะสมทรัพย์” ผู้ล่วงลับ
ที่ฝากไว้กับลูกชายสุดที่รัก...ก่อนจากไปว่า...
.....“โหน่ง ยังไงพาคนนครปฐมไปไทยลีกให้ได้นะลูก”.....
ซึ่งวันนี้..สิ่งที่ได้รับปากกับคุณพ่อเอาไว้ เขาทำได้แล้วจริงๆ
“เหนื่อยบ้าง เสียใจบ้าง แพ้บ้าง ชนะบ้าง หมดกำลังใจบ้าง”
“แต่ผมไม่เคยท้อ…และไม่เคยถอย”
นี่คือสิ่งที่ ประธานพาณุวัฒน์ ตั้งใจโพสต์เอาไว้...เพื่อเตือนตัวเอง
ก่อนพา “นครปฐม ยูไนเต็ด” ขึ้นไปพบความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่
บนลีกสูงสุดในฤดูกาลหน้า!!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com