บี บางปะกง
เปิดหัวแบบนี้...ลงเอยแบบไหน?
เริ่มต้นดี...มีชัยไปกว่าครึ่ง
และแล้วขุนพลนักเตะทีมชาติไทย ยู 22 ก็ไม่ทำให้พวกเราต้องผิดหวัง
กับการประเดิม 3 แต้มแรก เหนือแข้งลอดช่อง สิงคโปร์ 3-1
ในเกมเปิดหัวฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “คัมโบเดีย 2023” บนแผ่นดินขแมร์
โดย “ต้น” ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โขกเบิกร่องเป็นลูกแรก
ก่อนที่ อชิตพล คีรีรมย์ กับ ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท จะมาบวกเพิ่มให้ทีมไทยชนะสบายๆ
ซึ่งเกมนี้คนที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นที่สุดในสายตาผม
คือ “เจ้าแบงค์” ปุรเชษฐ์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งหัวทอง ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด
ที่เคลื่อนทำเกมไปทั่วทั้งสนาม อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ซึ่งหลังจากนี้ทีมชาติไทยจะพักยาวไปอีก 5 วันเต็ม
ก่อนจะลงสนามนัดที่ 2 พบงานหนักกับเสือเหลือง มาเลเซีย ในวันเสาร์ที่ 6 พ.ค.นี้
ก็หวังว่าฟอร์มของ นักเตะไทย จะเข้าที่เข้าทางไหลลื่นมากขึ้น
โดยเฉพาะแนวรับที่ยังมีรูรั่ว และเสียสมาธิให้เห็นกันในหลายจังหวะ
เชื่อว่าถ้าเราคว้าชัยเหนือมาเลย์สำเร็จ ก็มองข้ามชอตไปถึงเกมตัดเชือกได้เลย
เพราะความมั่นใจจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
หลังจากที่ผ่านด่านแรกด้วยการเก็บสามคะแนนไปได้ตามเป้า
ซึ่งทีนี้ ลองมาดูสถิตินัดประเดิมสนามของขุนพลลูกหนังทีมชาติไทยในซีเกมส์
ตั้งแต่ตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้นักเตะ ยู 23 ว่าเริ่มต้นอย่างไร
แล้วสุดท้ายผลงานจบลงที่ตรงไหน?
เริ่มจาก ซีเกมส์ ครั้งที่ 21 ที่มาเลเซีย (ปี 2001)
ทีมชาติไทย ออกสตาร์ตทัวร์นาเมนต์ ด้วยการไล่ยิงสลุตใส่ กัมพูชา ถึง 7-0
ก่อนคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ
ต่อมาในซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่เวียดนาม (ปี 2003)
ไทย เสมอ เวียดนาม เจ้าภาพ ในนัดเปิดสนาม 1-1
ซึ่งทั้งคู่ย้อนมาเจอกันนัดชิงอีกครั้ง และเป็นทีมชาติไทย ที่ยิงประตูชัยซัดเด้นเดธ ซิวทองกลับบ้านอีกคำรวบ
ซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส์ (ปี2005)
นัดแรก นักเตะไทย เฉือน แข้งตากาล็อก เจ้าถิ่น หวุดหวิด 1-0
และป้องกันเหรียญทองสำเร็จอีกสมัย
อีก 2 ปีต่อมา ในซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่เมืองย่าโม โคราช (ปี 2007)
ไทยเปิดฉาก ด้วยการเฆี่ยนชนะ เมียนมา สุดมัน 3-2
ก่อนทั้งคู่จะเวียนมาเจอกันอีกในรอบชิง ซึ่งไทยแลนด์ย้ำแค้นแข้งสกุลหม่อง รักษาเหรียญทองในบ้านไร้ปัญหา
จนมาถึง ฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ สปป.ลาว (ปี 2009)
นักเตะไทย เสมอ เวียดนาม ในแมตช์แรก 1-1
และพบกันฝันร้ายแบบสุดๆ เมื่อเจอทีเด็ด มาเลเซีย เขี่ยร่วงรอบแรกชนิดช็อกแฟนบอลทั้งประเทศ
ซึ่งครั้งนั้น นักเตะเสือเหลืองก้าวไปจนถึงเหรียญทองได้ในท้ายที่สุด
ซีเกมส์ครั้งถัดมา ซึ่งเป็นครั้งที่ 26 เมฆหมอกแห่งความล้มเหลวยังตามเล่นงานทีมชาติไทยไม่เลิกรา
เมื่อ อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพ (ปี 2011) และ ทีมชาติไทย เปิดหัวด้วยการแพ้มาเลย์ 1-2
ส่งผลให้พวกเขาต้องตกรอบแรก 2 หนติดต่อกัน ถือเป็นช่วงที่บอลไทยเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ก็เป็นยุคทองของ มาเลเซีย ที่พิชิตแชมป์ ได้อีกครั้ง
กระทั่ง ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่เมียนมา เป็นเจ้าภาพ (ปี 2013)
ทีมชาติไทย ภายใต้การนำของ “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กลับมาทวงเหรียญทองสำเร็จ
โดยนัดประเดิมสนาม เราชนะ ติมอร์ ไปได้ 3-1
ต่อเนื่องมาถึง ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ (ปี 2015)
แข้งไทย เปิดหัวอย่างเร้าใจ ด้วยการถล่ม ลาว ครึ่งโหล 6-0
ก่อนจะโชว์พลังแข้งไร้เทียมทานจนถึงนัดชิง ที่กำราบเมียนมา ยึดเหรียญทองมาคล้องคอแบบ ชิล ชิล
ล่วงมาถึง ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 (ปี 2017) ที่มาเลเซีย
ก็ถึงคิวของ “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ นำทัพทีมชาติไทย ไปลุยแดนเสือเหลือง
นักเตะไทย ออกตัวด้วยการเสมอ อินโดนีเซีย 1-1
โดยครั้งนี้แม้ฟอร์มจะดูกระท่อนกระแท่น แต่ที่สุดแล้ว ฟ้าก็ลิขิตให้ลูกทีม “โค้ชโย่ง” ป้องกันแชมป์กลับไทยจนได้
ซึ่งนั่นคือ “เหรียญทองซีเกมส์” หนล่าสุด ที่ทีมบอลไทย ได้มาครอง
เพราะอีก 2 หนต่อมา เราไปไม่ถึงดวงดาวอีกครั้ง
ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ (ปี 2019)
กุนซือซามูไร อากิระ นิชิโนะ ทำเราร่วงรอบแรก หลังจากเริ่มต้นด้วยการแพ้ อินโดนีเซีย 0-2
โดยคราวนี้เป็น เวียดนาม ที่สมหวังคว้าทองซีเกมส์ไปครองเป็นครั้งแรก
จนซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เลื่อนหลบโควิด-19 มาเตะกัน เมื่อกลางปีที่แล้ว 2022 ที่ฮานอย
ก็เป็นอีกครั้งที่ ทีมชาติไทย ปราชัยคู่แข่งตั้งแต่เกมเปิดหัว โดยแพ้มาเลย์ 1-2
แต่สุดท้ายก็ค่อยๆ คืนฟอร์มกลับมา จนทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ
ก่อนจะพ่ายทัพ “ดาวทอง” เจ้าภาพ 0-1 ได้แค่เหรียญเงิน อย่างน่าเสียดาย
มาถึง “ซีเกมส์ 2023” ที่พนมเปญในครั้งนี้
นักเตะไทยแลนด์ เปิดฉากเกมแรก ด้วยการสยบ สิงคโปร์ 3 ประตูต่อ 1
ส่วนบทสรุปสุดท้าย...จะลงเอยยังไง? สมหวังหรือผิดหวัง
มาตามดูกัน...ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป!!!
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com