บี บางปะกง
สุดยอดเกมลูกหนังแห่งมวลมนุษยชาติ
“ฟุตบอลโลก 2022” ที่กาตาร์
เวลานี้ได้ 4 ทีมพระกาฬ ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ
น่าเสียดาย เวิลด์คัพ ฉบับอาหรับราตรี สำหรับผม และคอบอลบ้านเราอีกหลายคน มันจบลงก่อนกำหนด
เมื่อ 2 ทีมยอดขวัญใจ (ตลอดกาล) ทั้งแซมบ้า บราซิล กับอัศวินสีส้ม ฮอลแลนด์
ต่างพ่ายจุดโทษคู่แข่ง กระเด็นพ้นเส้นทางลุ้นแชมป์โลก...อย่างน่าเศร้าชะมัด!
แต่คิดในมุมบวก ก็ดีอยู่เหมือนกัน
เพราะนับจากนี้เป็นต้นไป แฟนบอลชาวไทยทั้งหลาย จะได้มีสมาธิ กลับสู่ตัวตนที่แท้จริง..ซะที
กับการส่งพลังแรงใจเชียร์ทีมช้างศึก ที่ทุกคนสัมผัสได้ และภูมิใจได้
ในความเป็นชาติของตัวเองอย่างเต็มร้อย..โดยไม่ต้องขัดเขินแต่อย่างใด!
ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึง “ทีมลูกหนังชาติไทย ชุดใหญ่”
ที่กำลังจะเข้าสู่ภารกิจป้องกันแชมป์อาเซียน “AFF Mitsubishi Electric Cup 2022”
ที่จะประเดิมด่านแรก ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้
โดยแข้งช้างศึกของเรา จะต้องออกไปเยือนบรูไน ที่สนามชีราส สเตเดียม ประเทศมาเลเซีย
สำหรับทีมชาติไทยชุดนี้ อาจไม่สมบูรณ์เต็มร้อยเหมือนชุดที่คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เพราะขาดดาวเตะซุปเปอร์สตาร์ อย่าง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ “เช็ค” สุภโชค สารชาติ ไป
แต่เมื่อพิจารณาจากรายชื่อที่กุนซือ มาโน โพลกิง ได้ตัวมาร่วมทัพทั้งหมดแล้ว..
ต้องบอกว่าไม่ขี้เหร่ เลยนะครับ!
เรียกว่าเป็นทีมชาติชุดใหญ่...ที่เต็มคาราเบล
และดีที่สุด เท่าที่จะหาได้ ณ ตอนนี้เลยทีเดียว
มีทั้งตัวเก๋า อย่าง “กัปตันอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน และ “เฮียมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา นำทัพ
ผสมโรงด้วย “แคมป์” สรรวัชร เดชมิตร ห้องเครื่องประสบการณ์สูง
ที่เพิ่งกลับจากการเล่นในลีกมาเลเซียหมาดๆ ก็ถูกเรียกคัมแบ็กคืนทีมชาติอีกครั้งในรอบหลายปีด้วย
ขณะที่แข้งหลักตัวอื่นๆ ทั้ง วีระเทพ ป้อมพันธ์, พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษฎา กาแมน, สารัช อยู่เย็น
รวมถึง บดินทร์ ผาลา ล้วนแต่อยู่กันครบครัน
เช่นเดียวกับบรรดาดาวรุ่งที่ฝีเท้าเชื่อขนมกินได้ ไม่ว่าจะเป็น “เท่” เจริญศักดิ์ วงศ์กร, เอกนิษฐ์ ปัญญา
หรือ “เจ้าหนึ่ง” ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ก็ต่างมีชื่อในทีมชุดนี้ทั้งสิ้น
ซึ่งเครดิตตรงนี้ คงต้องยกให้ความพยายาม (อย่างหนัก)
ของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมหญิงเหล็ก ไปเต็มๆ
เพราะกว่าจะได้ทีมชาติชุดนี้มา...ได้ข่าวว่าทั้งเธอและทีมงาน ต้องปาดเหงื่อกันหลายรอบ
เนื่องจากทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียน ไม่ได้เตะในช่วงฟีฟ่าเดย์
ดังนั้นสโมสร ย่อมมีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยนักเตะของตัวเองมารับใช้ชาติ
แต่การที่ทีมต่างๆ ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
เชื่อว่านอกจากสำนึกรักชาติที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในหัวใจแล้ว
ก็เป็นด้วยลูกอ้อนของ “มาดาม” นี่แหละ
...เป็นเหตุให้ใจอ่อนกันบ้าง..ไม่มากก็น้อยล่ะน่า
สำหรับ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ กำลังจะมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง 2 นัด ก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ เอเอฟเอฟ
พบกับ เมียนมา ในวันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค. และ ไต้หวัน วันพุธที่ 14 ธ.ค.
โดยทั้งสองเกม เตะเวลา 20.30 น. ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต (ถ่ายทอดสดทาง AIS Play)
เช่นเดียวกับ ทีมช้างศึกพลังหนุ่ม U23
ซึ่งจะเป็นการประเดิมคุมทัพครั้งแรกของ “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร กับผู้จัดการทีมป้ายแดง “บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ
ก็จะมีโปรแกรมอุ่นแข้ง 2 นัด กับ ทีมชาติ สปป.ลาว ชุดใหญ่ ที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต
วันที่ 11 และ 14 ธ.ค.เช่นกัน ในเวลา 17.30 น. (ถ่ายทอดสด เกมที่สอง ทาง AIS Play)
ลุ้น "บอลโลก"..แค่สะใจ
แต่เชียร์ ‘ทีมชาติไทย’...
มันอยู่ในสายเลือด ครับท่าน
- บี บางปะกง -
joggingboy_be@yahoo.com