หน้าแรกแกลเลอรี่

สุขภาพดี... ด้วยทฤษฎี “เพื่อน (ตาย)” 

บี บางปะกง

1 ส.ค. 2565 06:00 น.

 สุขภาพดี... ด้วยทฤษฎี “เพื่อน (ตาย)”  

เรียนคุณบี บางปะกง ครับ 

คำกล่าวที่คุณบีและผมพูดถึงอยู่เสมอๆ และเคยนำไปพูดในรายการวิทยุ "Health Road เส้นทางสุขภาวะ" ทาง FM 98.0 Spirit Wave ว่า "สุขภาพดีไม่มีซื้อขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง" ซึ่งเป็นความจริงที่ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ 

ในวันนี้ผมได้มีโอกาสไปเข้าร่วมพิธีเปิดตัว Kick-off โครงการที่สนับสนุนการเอาใจใส่ต่อสุขภาพของตนเองตั้งแต่วัยเด็ก อายุ 10 ปีขึ้นไป ที่มีชื่อว่า "THAILAND 10 FOR HEALTH" programme - an exercise-based health education in school 

ซึ่งเป็นโครงการฯ ที่ใช้การออกกำลังกายเป็นสื่อ (Exercise for Health หรือ E4H) บวกกับให้ความรู้ด้านสุขภาพให้มีวิถีทางการดำเนินชีวิต หรือ lifestyle 10 ประการ (Lifestyles for Health หรือ L4H) แก่เด็กรักเรียนและประชาชนทั่วไปที่ต้องการมีสุขภาพดี เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10 

โดยโครงการฯ นี้มีการเปิดตัว Kick-off ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนพญาไท กทม. มีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้ 

1.มีการนำเสนอวิถีทางการดำเนินชีวิต (Lifestyles) 10 ประการ (10 อ.) เพื่อคนไทยจะได้มีสุขภาพดี ทั้งนี้จะมีการนำเสนอทฤษฎีใหม่ให้กับสังคมว่า "คนไทยจะมีสุขภาพดี ต้องหันมาใช้ทฤษฎีเพื่อน(ตาย)" ซึ่งคำว่าเพื่อน(ตาย) ในโครงการฯนี้ คือ อวัยวะในร่างกายของเรา ได้แก่ ตับ ไต หัวใจ ปอด สมอง ฯลฯ ที่เราต้องดูแลพวกเขาหรือเพื่อน(ตาย) ของเราให้ดีอยู่เสมอ 

2.โครงการฯ จะเริ่มในกลุ่มนักเรียนอายุ 10 ปีขึ้นไป ซึ่ง WHO (องค์การอนามัยโลก) ถือว่าการส่งเสริมสุขภาพแก่เด็กๆ ในโรงเรียน เป็นการส่งเสริมสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุด

3.โครงการฯ จะขอเวลา ร.ร.ที่เข้าร่วมฯ 10 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 100 นาที โดยในทุกสัปดาห์จะแบ่งการสอนเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก 50 นาที-เรียกช่วง E4H (Exercise for Health) มีการวอร์มอัพและออกกำลังกาย 1 อย่าง 

และช่วงที่สองเรียกว่า L4H (Lifestyles for Health) สอน Lifestyle (วิถีทางการดำเนินชีวิต) 1 เรื่อง (10 สัปดาห์ ก็จะได้ 10 เรื่อง)

4.ในช่วงแรกจะมีการวอร์มอัพโดยใช้จังหวะของเพลง "กราวกีฬา" ที่บรรพบุรุษของไทยคือ ครูเทพ (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ประพันธ์ไว้เกือบ 100 ปีที่เเล้ว (พ.ศ.2468) และคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล (ณรงค์ ปรางค์เจริญ) มาเรียบเรียงเสียงประสานใหม่ ทั้งนี้เพื่อเชิดชูเกียรติท่านผู้ประพันธ์ และให้เด็กๆ ซึมซับเนื้อร้องที่กล่าวถึงประโยชน์ของการออกกำลังกาย >> "กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ"

5.Lifestyles หรือวิถีทางการดำเนินชีวิต 10 เรื่องที่จะสอนจะมี อ. อ่าง เป็นส่วนประกอบของคำที่จะใช้ เพื่อให้จดจำง่ายได้แก่ 

1.อ.อาหาร/2.อ.(ไม่)อดนอน/3.อ.ออกกำลังกาย/4.อ.เช็กอัพ/5.อ.(ติด)อาวุธ (การรับวัคซีน)/6.อ.(ไม่)อ้วน / 7.อ.อันตราย1 (ไม่รับสารอันตรายเข้าร่างกาย) / 8.อ.อันตราย2 (ไม่ทำกิจกรรมอันตราย)/9.อ.อารมณ์ / 10.อ.(จิต)อาสา 

ทั้งนี้ จะมีการเน้น หนึ่งใน 10 อ. ที่สำคัญมาก คือ อ ออกกำลังกาย ให้เกิดความคิดติดสมองไปตลอดชีวิตว่า ทุกคนต้องออกกำลังกายจึงจะมีสุขภาพดี เพราะจะมีผลทำให้มีการนำสารอาหาร ออกซิเจนผ่านทางหลอดเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ หรือเพื่อน(ตาย) ของเราอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่เราออกกำลังกาย 

และในระยะยาว หลอดเลือดของทุกคนที่ออกกำลังกายประจำ จะไม่ตีบตัน มีความยืดหยุ่นสูง อวัยวะเหล่านี้จะทำหน้าที่ได้ดีตราบนานเท่านาน หากเรายังดูแลเขาให้ดี เหมือนท่านผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 90-100 ปีขึ้นไปแต่ยังกระฉับกระเฉง ช่วยเหลือตนเองได้ดี บางคนถึงขนาดเป็นนักกีฬาสูงอายุเข้าแข่งขันในระดับโลกก็มีอยู่

6.จะมีการประเมินผลเปรียบเทียบความรู้ของนักเรียนเรื่องที่จะสอนก่อนและหลังการเริ่มโครงการฯในร.ร. โดยปีแรกจะเริ่มในจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของเขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข 13 เขต เขตละ 10 โรงเรียน (ในสังกัด สพฐ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานรวม 130 โรงเรียน) รวมกับโรงเรียนเอกชนอีก 20 โรงเรียน รวมทั้งสิ้น 150 โรงเรียน 

คาดว่าจะมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการประมาณ 10,000 คน และทางโครงการฯ มีการบ้านให้ นร.เหล่านี้ โดยให้ นร.1 คนทำหน้าที่จิตอาสา นำเรื่องราวที่ได้รับการสอนมาไปเล่า หรือบอกต่ออีก 10 คน ซึ่งจะทำให้มีการรับรู้เรื่องราวเหล่านี้อีก 100,000 คน ดังนั้นในปีที่ 1 ที่เป็นโครงการนำร่อง (Pilot project) คาดว่าจะมีเด็กๆ และคนที่เด็กๆ ไปบอกต่ออีกประมาณ 100,000 คน

7.ทางโครงการฯ มีประกาศนียบัตรการเข้าร่วมโครงการให้เเก่เด็กๆ และจะเรียกเด็กๆ เหล่านี้ว่า "Thailand Smart Kid" และจะพยายามมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพต่อไปกับเด็กกลุ่มนี้

8.หากโครงการฯ ประสบผลสำเร็จดีในประเทศไทย ทางโครงการฯ มีนโยบายให้ทางกรมอนามัย สธ.นำเสนอโครงการฯ นี้ไปสู่ระดับนานาชาติผ่านทาง WHO เพื่อให้เกิดประโยชน์กับนานาประเทศที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เหมือนเช่นโครงการ "FIFA 11 FOR HEALTH" ที่ FIFA ประสบผลสำเร็จมาแล้วทั่วโลก

9.โครงการนี้ด้วยการริเริ่มของ พล.อ.อ.นพ.สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ 904 และรองผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และประธานจิตอาสาด้านแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกับ อธิบดีกรมอนามัย สธ. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการให้คนไทยมีสุขภาพดีขึ้น ประเทศชาติจะมีความมั่นคงและแข็งแรงมากขึ้นด้วย ดังเช่นโลโก้ที่ใช้ในโครงการฯ

กล่าวโดยสรุปเพื่อให้ท่านผู้อ่านที่ติดตาม คุณบี บางปะกง จะได้รับทราบว่า ทั้ง 10 อ.นั้นเป็นแนวคิดที่ท่านต้องจดจำอยู่ในสมองของทุกท่านว่าในกิจวัตรประจำวันของท่านตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ตลอด 24 ชั่วโมง ล้วนมีผลต่อเพื่อน(ตาย) ที่อยู่ในร่างกายของท่านเสมอ 

สิ่งใดดีมีประโยชน์ทำให้สม่ำเสมอหรือมากขึ้น สิ่งใดมีผลร้ายต้องงด หรือลดละเลิก ทำให้เกิดน้อยลงให้มากที่สุด 

และนี่ก็คือ "... อยากมีสุขภาพดี ต้องลงมือทำเอง" ตั้งแต่นี้ต่อไปนะครับ


นาวาอากาศเอก(พิเศษ)นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ 

ผู้ประสานงานโครงการ "THAILAND 10 FOR HEALTH" 

OOOOOOOO

ขอบคุณบทความอันทรงคุณค่าของพี่หมอ ไพศาล จันทรพิทักษ์ 
ที่รณรงค์ให้คนไทยสุขภาพดี ด้วยทฤษฎี “เพื่อน (ตาย)” ด้วยหลัก 10 อ.
โครงการ "THAILAND 10 FOR HEALTH"
จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของพวกเราอย่างแท้จริง
ทุกคนต้องลงมือทำเองจริงๆครับ

- บี บางปะกง -