เบี้ยหงาย
เรื่องของ “กัญชา” พืชทิพย์ของสายเขียวทั้งหลาย หรือจะเรียก “ทองคำเขียว” ของคนบางกลุ่ม ซึ่งช่วงนี้เป็นภาวะแห่งสุญญากาศ ปล่อยผีว่ากันตามสะดวก อันเนื่องจากยังไม่มีกฎหมายออกมาบังคับใช้
แต่อย่างไร จึงเป็นเรื่องสนุกสนาน ชวนกังวลของสังคมไทยในปัจจุบัน
และดูจะอาละวาด แพร่กระจายไปยังกลุ่มต่างๆ มากมาย และที่น่าห่วงยิ่งก็ไม่พ้นเด็กๆ เยาวชน ลูกๆหลานๆของเรานี่แหละ
ประโยชน์หรือโทษ จะอธิบายความ สร้างการรับรู้กันอย่างไรก็ดูเหมือนจะเป็นไปในมุมของแต่ละคน แต่ละจุดยืนที่โยงใยกับประโยชน์ทั้งทางตรงและอ้อมในแต่ละผู้คน!
สิ่งที่สังคมต้องการคือ เกราะกลางที่จะช่วย ปกป้องแก่เด็กๆลูกหลานของเรา ที่จะไม่ถูกยัดเยียด สร้างการรับรู้ผิดๆ จนกว่าจะตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตเองได้
ไทยแลนด์เปิดเสรีกัญชา ดูจะหอมหวานกับคนบางกลุ่มที่เกี่ยวพัน ขณะที่คนนอกกลุ่ม ที่ไม่หอม ไม่หวาน แต่อยู่ในประเทศเดียวกันก็ต้องรับสภาพร่วมกัน สะท้อนได้ชัดถึงความกังวล ความเป็นห่วง เมื่อคนไทยที่มีภาพของเมืองกัญชาเสรีติดตัวไปทุกที่ อาจมีความเสี่ยงมากขึ้นหากเผลอไผล ไม่รอบคอบ เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศ
ซึ่งออกมาเป็นคำเตือนจากสถานทูตหรือ สถานกงสุลไทยในประเทศต่างๆที่ “กัญชา” ยังเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นยาเสพติดของชาติต่างๆมากมาย มีโทษหนักถึงหนักมาก
นั่นทำให้แนวโน้มการตรวจค้นของคนไทยที่จะเข้าประเทศเขาจะต้องเพิ่มมากขึ้นจากเงื่อนไขเดิมๆอย่างแน่นอน
ไม่เพียงเท่านั้นในวงการกีฬาเอง แม้ว่า “กัญชา” ซึ่งมีสารประกอบหลัก CBD และ THC มีพัฒนาการที่ดูจะผ่อนคลาย ได้รับการยอมรับมากขึ้น แม้ระดับองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นอย่าง “วาดา” ก็ยังยอมรับว่า CBD ไม่ใช่สารต้องห้ามแล้วตั้งแต่ปี 2018 จนทำให้มีการใช้สารสกัดตัวนี้ในหมู่นักกีฬาอย่างแพร่หลายเหมือนกัน เพื่อแทนยาแก้ปวดอักเสบ
แต่ในส่วนของ THC ยังถือเป็นสารต้องห้ามสำหรับนักกีฬาอยู่ นี่จึงเป็นเรื่องที่อันตรายและสุ่มเสี่ยงยิ่ง!!!
ล่าสุดในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 37 “พัทลุงเกมส์” และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ “เสกักเกมส์” ซึ่งจังหวัดพัทลุงจะเป็นเจ้าภาพช่วง 29 ก.ค.ถึง 10 ส.ค. และ 20-27 ส.ค.ตามลำดับ นอกจากความพร้อมด้านต่างๆ รวมถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 ผู้ว่าการ กกท. ยังต้องกำชับให้ระมัดระวังเรื่องกัญชา ซึ่งมีสาร THC อยู่ หากตรวจพบจะต้องถูกตัดสิทธิ์ทันที
สะท้อนได้ชัดเจนว่า ต่อไปนี้และเป็นสิ่งที่สมควรต้องทำ จะต้องมีมาตรการกับเรื่อง “กัญชา” เข้ามาเพิ่มเติมกับการจัดแข่งขันหรือแม้แต่สนาม หรือพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับกลไกกีฬาต่างๆ ควรจะมีหลักปฏิบัติ หรือระบุเป็นข้อห้ามอย่างไรบ้าง
จะถึงระดับกับการปลอดกัญชาในพื้นที่ด้านกีฬา เช่นเดียวกับในสถานศึกษาที่ตื่นตัวกันแล้วหรือไม่
รวมถึงจะต้องมีการสุ่มตรวจนักกีฬา ตั้งแต่ในระดับกีฬานักเรียน กีฬาโรงเรียน ที่หน่วยงานภาครัฐดูแลรับผิดชอบอยู่ อาทิ กรมพลศึกษา เพื่อเป็นหลักปฏิบัติรึเปล่า
เช่นเดียวกัน ในระดับสูงขึ้นต่อๆไป กีฬามหาวิทยาลัย กีฬาอื่นๆ จนถึงระดับชาติและกีฬาอาชีพก็ต้องสอดรับและต่อเนื่อง ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของระบบกีฬาไทยที่ต้องพัฒนาต่อยอดกันไป
กัญชามีประโยชน์มากกว่าโทษจริงหรือ จริงกับใคร เทียบกับใคร หรือเทียบกับอะไร
วงการกีฬาต้องรับมือ งานเพิ่มแน่นอน...
“เบี้ยหงาย”