หน้าแรกแกลเลอรี่

รู้จัก “เวิลด์เกมส์” 

ฟ้าคำราม

20 มิ.ย. 2565 05:08 น.

การแข่งขันกีฬาเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 11 เมืองเบอร์มิงแฮม สหรัฐอเมริกา จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 7-17 กรกฎาคมนี้ ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะส่งนักกีฬาไทย เข้าร่วมชิงชัยด้วยนั้นก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น “ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ” จะพาไปรู้จักประวัติความเป็นมาของมหกรรมกีฬารายการนี้ ซึ่งยิ่งใหญ่พอๆกับกีฬาโอลิมปิกเกมส์เลยทีเดียว...

ต้นกำเนิดของเวิลด์เกมส์เริ่มต้นจากแนวคิดที่ว่า โอลิมปิกเกมส์มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนชนิดกีฬาที่บรรจุเข้าแข่งขัน

โดยในช่วงที่โอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่ถือกำเนิด และทำการแข่งขันกัน 10 ครั้งแรก มีชนิดกีฬาบรรจุชิงชัยระหว่าง 9-22 ชนิดกีฬา พอมาในยุคหลัง จึงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมทุกชนิดกีฬา

จำนวนชนิดกีฬาที่จำกัดในโอลิมปิกเกมส์แต่ละครั้ง ไม่สอดคล้องกับการเติบโตของวงการกีฬาโลกที่นับวันยิ่งขยายฐานกีฬาหลากชนิด หลายประเภท รวมถึงมีกีฬากำเนิดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยเหตุนี้ สหพันธ์กีฬานานาชาติจึงหารือกันในประเด็นดังกล่าว ก่อนจะร่วมกันก่อตั้ง “สมัชชาใหญ่สหพันธ์กีฬานานาชาติ” (General Assembly of International Sports Federations) ขึ้นในปี 1967 ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมสหพันธ์ กีฬานานาชาติ” (General Association of International Sports Federations) หรือ “ไกส์ฟ” (GAISF) ในปี 1976 โดยมีสำนักงานใหญ่ที่โมนาโก และในเวลาต่อมาจึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Global Association of International Sports Federations จนถึงปัจจุบัน

ไกส์ฟ ทำงานประสานใกล้ชิดกับคณะกรรมการ โอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ในฐานะเจ้าของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โดยหารือกันเพื่อผลักดันให้กีฬาที่ไม่ถูกบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ได้มีพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ

ขณะที่สหพันธ์กีฬาต่างๆ ต่างแสดงเป้าประสงค์ที่จะให้กีฬาของตัวเองได้รับการยอมรับในวงกว้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้บรรจุเข้าแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสูงสุด

ในช่วงนั้น สหพันธ์กีฬานานาชาติ ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง นำโดย ดร.คิม อุน ยอง ประธานสหพันธ์เทควันโดโลก เพื่อศึกษาแนวทางผลักดันให้กีฬาที่ไม่ได้บรรจุในโอลิมปิกเกมส์ได้มีเวทีแข่งขันในระดับนานาชาติที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโอลิมปิกเกมส์
แนวคิดเรื่องการจัดการแข่งขันเวิลด์เกมส์จึงถือกำเนิดขึ้น โดยตั้งคณะกรรมการเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมารับผิดชอบ คือ “สภาเวิลด์เกมส์” และผลักดันจนจัดการแข่งขันครั้งแรกได้ที่เมืองซานตา คลารา สหรัฐอเมริกา ในปี 1981 โดยทำการแข่งขันทั้งสิ้น 15 ชนิดกีฬา รวม 104 อีเวนต์ (เหรียญทอง)

ต่อมาในปี 1984 สภาเวิลด์เกมส์ เปลี่ยนชื่อเป็น “สมาคมเวิลด์เกมส์นานาชาติ” (IWGA) มีสำนักงานใหญ่ที่นครโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ปัจจุบันมีสหพันธ์กีฬานานาชาติเป็นสมาชิก 39 สหพันธ์

IWGA กำหนดพันธกิจสำคัญไว้ว่า เป็นการสร้างมิตรภาพที่เข้มแข็งระหว่างสหพันธ์กีฬานานาชาติ เพื่อสนับสนุนและผลักดันกีฬาในระดับสากล เพื่อให้การแข่งขันเวิลด์เกมส์เป็นมหกรรมกีฬาและเทศกาลกีฬาระดับนานาชาติอย่างมั่นคงสม่ำเสมอ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เวิลด์เกมส์ก็กำหนดการแข่งขันทุกๆ 4 ปี โดยจะจัดหลังจากโอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน 1 ปี และถือเป็นมหกรรมกีฬาระดับโลกที่จัดแบบคู่ขนานไปกับโอลิมปิกเกมส์

และเช่นเดียวกับโอลิมปิกเกมส์ การแข่งขันเวิลด์เกมส์ครั้งต่อๆ มาก็ขยายสเกลการแข่งเพิ่มขึ้นตามชนิดกีฬาที่เพิ่มจำนวนและเติบโต จนได้รับความนิยมในระดับนานาชาติมากขึ้น

OOOOOOOO

ข้อความดังกล่าว ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. ได้โพสต์เอาไว้ในเพจ ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ Elite Sports Development Department

เรียกว่าได้เนื้อหา เข้าใจง่าย เข้าใจที่ไปที่มาของมหกรรมกีฬาเวิลด์เกมส์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

นับเป็นรายการที่สามารถต่อยอดในหลายๆ กีฬาไปสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกในอนาคตได้อย่างสบายๆ

และในเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศสหรัฐอเมริกา นักกีฬาไทยก็เข้าร่วมการแข่งขันด้วยเช่นกัน

แฟนๆกีฬารอลุ้นผลงานกันได้ ในต้นเดือนหน้า...

ฟ้าคำราม