ไทยรัฐฉบับพิมพ์
ทราบกันดีก่อนหน้านี้เวียดนาม ประกาศเลื่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 จากเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว มาจัดในช่วงนี้กลางเดือน พ.ค. ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนั้นที่รุนแรงระบาดอย่างหนัก
แน่นอนว่าช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อดังกล่าวเจ้าภาพ มีแนวทางจะถอดใจหรือไม่ ส่วนตัวสงสัยมาตลอดว่าคิดเลยเถิดไปถึงกับจะยกเลิกซีเกมส์หรือเปล่า
จึงได้สอบถาม นิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ระหว่างที่มาเกาะติดทัพไทยในเวียดนาม 2021 ที่มาจัดในปี 2022 ได้รับคำตอบว่า...
เรื่องคิดจะยกเลิก ไม่มีเลย!!!
ตรงกันข้ามเวียดนามเพียงแค่รอจังหวะจะจัดช่วงไหน แล้วก็มาลงล็อกในเดือน พ.ค.
ไม่ใช่แค่จัดกีฬาอย่างที่เป็นข่าวเป็นคราวไปแล้ว ยังต้องการใช้ซีเกมส์เป็นสัญลักษณ์ในการเปิดประเทศ หลังจากฝ่าวิกฤติไวรัสอันตรายมาได้อีกด้วย
สำหรับเวียดนามชั่วโมงนี้ถือว่าไม่ธรรมดา มีวิสัยทัศน์ มีความต้องการที่จะพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่อง
การลงทุนจากต่างชาติก็หลั่งไหลเข้ามา โดยมี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และจีน มาช่วยทำให้โครงสร้างของเวียดนามแข็งแกร่งขึ้น
โดยไทยของเราอยู่ในอันดับ 7 ที่มาร่วมลงทุนกับเวียดนาม
และอีกเหตุผลที่ทำให้เวียดนามดูกระปรี้ กระเปร่ากว่าเราทั้งในด้านเศรษฐกิจและกีฬา
ได้ทราบจากเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย อีกว่า ก็เพราะสังคมเวียดนามในปัจจุบันเต็มเปี่ยมไปด้วยวัยหนุ่มสาวและวัยทำงานเป็นส่วนใหญ่
หันกลับมามองไทยใกล้ที่จะเข้าสู่สังคมสูงวัยกันแล้ว
ทั้งหลายทั้งปวงนี่น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจและวงการกีฬาของเขาคึกคักกว่าบ้านเรา
เป็นพลังที่พุ่งแรงทีเดียว!!!
ถ้าไทยไม่คิดจะปรับแนวทาง หรือลองหาความท้าทายใหม่ๆดูบ้าง
ก็คงยากจะต้านทานเพื่อนอาเซียนรายนี้
ในระยะยาว...
ฟ้าคำราม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง