ไทยรัฐฉบับพิมพ์
รูดม่านเปิดฉากอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับศึกซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และจะเดินหน้าทำการแข่งขันต่อเนื่องจนไปถึงวันที่ 23 พ.ค.นี้ในวันแรกที่เดินทางมาเหยียบแผ่นดินเวียดนาม เกิดอาการกังวลใจเหมือนกันกับมหกรรมกีฬาที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้
ที่กังวลใจก็เนื่องจากแทบจะไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์เรื่องข่าวสารหรือการแข่งขันมากสักเท่าไร ป้ายประกาศหรือข้อความที่จะมีการจัดการแข่งขัน หรือธงชาติต่างๆตามถนนที่เราเคยเห็นเจ้าภาพชาติต่างๆเป็นเจ้าภาพเคยทำไว้แทบจะไม่มีเลย
โดยเฉพาะที่สนามบินนานาชาติ โหน่ยบ่าย ที่แทบจะไม่มีกิจกรรมการต้อนรับนักกีฬาจากซีเกมส์เลย มีเพียงแค่ป้ายสองป้ายเท่านั้น
เราก็คิดว่าสนามบินคงไม่เน้น แต่พอนั่งรถเข้ามาในตัวเมืองฮานอยก็ไม่ต่างกัน แทบจะนับป้ายประชาสัมพันธ์การแข่งขันได้เลย
ทำให้มานั่งกังวลใจว่าการแข่งขันครั้งนี้จะคึกคักหรือไม่ ทั้งๆที่เป็นการจัดมหกรรมกีฬาครั้งใหญ่ในรอบ 19 ปี
แต่ความกังวลใจนั้นหมดสิ้นไปเพราะเมื่อไปตามสนามแข่งต่างๆ ก็มีชาวเวียดนามมากมายเข้ามาชมการแข่งขันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะมีทีมชาติเวียดนามแข่งหรือไม่ แต่แฟนๆก็ตามไปดูการแข่งขันกีฬา เกือบเต็มกันทุกสนาม
ดูได้จากกีฬาฟุตบอลของทีมชาติไทยคู่อริของเวียดนามแท้ๆ แต่แฟนบอลเข้าไปชมกันเต็มความจุกันเลยทีเดียว
ด้านกีฬาปันจักสีลัต, คูราช, เซปักตะกร้อ ก็คนตามไปเชียร์กันแน่นอัฒจันทร์เลยทีเดียว
ยิ่งพิธีเปิดการแข่งขันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็มีคนดูเต็มความจุเช่นเดียวกัน แต่ในสนามที่ว่าเยอะ นอกสนามนั้นบอกเลยอาจจะเยอะกว่าด้วยซ้ำไป
เพราะบรรดาชาวเวียดนามที่ไม่ได้เข้าชมพิธีเปิดก็ต่างเฝ้ารอดูการจุดพลุอยู่หน้าสนามมีห์ดิงห์ สเตเดียม กันเพียบ
จอดมอเตอร์ไซค์รอดูพลุจากถนน 4 เลนเหลือให้รถวิ่งได้เลนกว่าๆเท่านั้น เล่นเอาหน้าสนามรถติดยาวไปโดยปริยาย
ซึ่งจากที่ผ่านมา 5 วันนั้นเห็นได้ว่าชาวเวียดนามให้ความสำคัญกับการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้มากเลยทีเดียว
แม้ว่าเราจะเห็นสื่อประชาสัมพันธ์การแข่งขันน้อยก็จริง แต่ชาวเวียดนามต่างรับทราบอยู่แล้วว่าประเทศของพวกเขาจัดกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ความคึกคักของการแข่งขันครั้งนี้จึงมาแบบที่เราคาดไม่ถึง!!
มะระหวาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง