หน้าแรกแกลเลอรี่

ผู้ว่าฯ เมืองกรุง กับ มิติทางการกีฬา

บี บางปะกง

3 เม.ย. 2565 06:00 น.

จากการที่ กกต.กำหนดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 นั้น

ล่าสุดจากการเปิดรับสมัครวันแรกแค่วันเดียวปรากฏว่ามีผู้สนใจที่จะอาสาเข้ามารับใช้ชาวกรุงในตำแหน่งพ่อเมืองกันอย่างมากหน้าหลายตา

จากปรากฏการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า กทม.เป็นเมืองใหญ่ที่ท้าทายความสามารถของนักบริหารทั้งที่มาจากพรรคการเมืองและในนามอิสระ 

อย่างไรก็ตามการที่มีผู้สนใจเข้ามาสมัครกันจำนวนมากหากจะมองในมิติของความโชคดีของคนกรุง ก็ถือว่าเป็นประเด็นที่น่าติดตามที่มีผู้สนใจจะสะสางและแก้ปัญหาที่หมักหมมมาอย่างยาวนาน

วันที่ผู้สมัครต่างลงพื้นที่และขึ้นป้ายแสดงตนเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เห็นถึงวิสัยทัศน์และแนวนโยบายที่สนใจจะเข้าไปขับเคลื่อน 

สำหรับหนึ่งในมิติของแนวนโยบายที่น่าสนใจและว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ควรจะละเลยและมองข้ามคือการให้ความสำคัญกับสุขภาพพลานามัยภายใต้การขับเคลื่อนหรือผลักดันนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากีฬาและการออกกำลังกาย

ต่อกรณีดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ โพลกีฬา หรือ KBU SPORT POLL ภายใต้การดำเนินการของศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งโพลของบ้านเราที่ได้มีการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและสะท้อนมุมมองที่มีต่อมิติทางการกีฬามาอย่างต่อเนื่อง 

และในโอกาสของการเปิดรับสมัครผู้สนใจในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.โพลดังกล่าวก็ได้มีการโหมโรงให้คนเมืองที่สนใจแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการเล่นกีฬาและออกกำลังกายผ่านแบบสอบถามเรื่อง “ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.กับมิติการพัฒนากีฬาเพื่อคนเมือง”

สำหรับผลการสำรวจ KBU SPORT POLL รายงานผ่านสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียพบว่าการสำรวจดังกล่าวมีกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ร่วมตอบแบบสอบถามผ่านระบบออนไลน์จำนวน 1,187 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 648 คน เพศหญิง 539  คน

และจากผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆ อาทิ เมื่อถามถึงความสนใจที่จะติดตามการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ส่วนใหญ่ สนใจ ตามด้วย ยังไม่ตัดสินใจ และ ไม่สนใจ ตามลำดับ

ในขณะเดียวกันเมื่อถามว่ามีบุคคลที่เห็นว่าเหมาะสมกับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.หรือยัง ส่วนใหญ่ ตอบว่า มีแล้ว รองลงมาคือ ยังไม่ตัดสินใจ และ ยังไม่มี 

แต่อีกหนึ่งประเด็นที่ว่าที่ผู้ว่าฯ ควรจะพินิจพิจารณาเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการส่งเสริมกิจกรรมกีฬาและการออกกำลังกายของว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.

จากคำถามนี้เองกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่สะท้อนให้เห็นว่าไม่ค่อยเชื่อมั่น ขณะที่ความเห็นรองลงมาได้แก่ ค่อนข้างเชื่อมั่น และ ไม่เชื่อมั่น

จากคำถามและคำตอบดังกล่าวกลับเป็นโจทย์ให้ผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้สมัครและทีมงานต้องหาคำตอบอย่างเร่งด่วน 

แต่หากจะวิเคราะห์และฟันธงแบบชาวบ้านโดยไม่ต้องไม่ใช้หลักวิชาการเข้ามาจับ ก็น่าจะเป็นเพราะว่านโยบายเรื่องการส่งเสริมกีฬาและการออกกำลังกาย อาจจะไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่ที่ชาวบ้านถามหาหรือสนใจเป็นอันดับต้นเหมือนเรื่องปากท้อง ตลอดจนปัญหาอื่นๆ ที่คนส่วนใหญ่ต่างประสบกันมาอย่างยาวนาน

แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับความเชื่อมั่นโพลยังได้ถามส่งคำถามเพื่อให้คนเมืองได้ฉายภาพให้เห็นในสาระที่เกี่ยวกับนโยบายการส่งเสริมกิจกรรมกีฬาและการออกกำลังกายที่ต้องการให้ว่าที่ผู้ว่าฯ ดำเนินการ

ต่อคำถามนี้ผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่ต้องการให้มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนตื่นตัวในการเล่นกีฬาและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องมาเป็นอันดับแรก 

ต่อด้วยพัฒนาและเพิ่มลานกีฬาในชุมชนอย่างทั่วถึง / ส่งเสริมให้กีฬาเป็นหนึ่งในมิติของการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม / เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงศูนย์และสนามกีฬา 

สนับสนุนอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการเล่นกีฬาและออกกำลังกายอย่างเพียงพอ / กำหนดนโยบายการส่งเสริมและพัฒนากีฬาให้เป็นหนึ่งในวาระสำหรับการบริหารจัดการ และอีกหลากหลายกับความต้องการ

เหนืออื่นใดที่ผู้ว่าฯ ต้องฟังผลการสะท้อนอีกมิติหนึ่งคือเรื่องของปัญหาที่ต้องการให้มีการแก้ไขสำหรับการส่งเสริมการเล่นกีฬาและออกกำลังกายของคนเมือง 

ต่อกรณีนี้กลุ่มตัวอย่างเปิดปมแห่งปัญหาออกมาอย่างน่าสนใจในหลากหลายประเด็นซึ่งอันดับแรกส่วนใหญ่ต้องการให้สางปมเรื่องของปัญหาความไม่ต่อเนื่องในการส่งเสริมและสนับสนุนตลอดจน ปัญหาสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ

ปัญหาการขาดโอกาสในการเข้าใช้ศูนย์ฝึกและสนามกีฬา / ปัญหาบุคลากรสำหรับการให้การบริการ / ปัญหาการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณ และอีกสารพัดปัญหา

มาถึงวันนี้วันที่ปี่กลองของการหาเสียงกำลังกึกก้อง ผู้เขียนจึงขอมีส่วนร่วมในการแสดงทรรศนะสืบต่อจากผลการสำรวจดังกล่าว

ทั้งนี้ก็เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่คงจะต้องหยิบยกหรือนำเอามิติของการกีฬาเข้าไปอยู่ในภาคส่วนของนโยบาย และที่สำคัญว่าที่ผู้ว่าฯ ต้องตระหนักว่าโลกในยุคดิจิทัลทุกชาติล้วนแล้วแต่นำเอามิติทางการกีฬามาเป็นหนึ่งในพลังของการขับเคลื่อนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสังคมและประเทศชาติ

ยิ่งกรุงเทพมหานครหรือในนาม “Bangkok” ที่คนทั่วโลกรู้จักและต่างสนใจที่จะมาเยี่ยมเยือนหากว่าที่ผู้ว่าฯ ได้รังสรรค์ให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางหรือฮับแห่งกีฬาในเอเชียด้วยแล้ว คงจะเกิดประโยชน์กับสังคมและคนไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อ “บางกอก” เป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์อันเป็นที่ถูกตาต้องใจของคนต่างแดน คำถามจึงมีอยู่ว่าแล้วว่าที่ผู้ว่าฯ จะละเลยการต่อนโยบายการส่งเสริมมิติทางการกีฬาภายในไปได้หรือ

อย่าลืมว่า "กีฬา" เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่น่าสนใจยิ่ง

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร

----------------

9 ปีแล้วนะครับ 

ที่พวกเราชาวกรุงเทพมหานคร ไม่มีโอกาสได้เลือกผู้นำที่เราต้องการจริงๆ มาดูแลเมืองหลวง

ผมเชื่อเหลือเกินว่าวันที่ 22 พ.ค. ถ้าคนกรุง ‘ไม่ตาถั่ว’ เลือกเอาคนที่ผิดฝา ผิดตัว เข้ามาทำงานอีก

ปัญหาหลายๆ อย่างที่สะสมมานาน รวมถึงการส่งเสริมมิติทางการกีฬาของพลเมือง กทม.อย่างจริงจัง

คงได้เห็นเนื้อเห็นหนังกันแน่...กับพ่อเมืองใหม่ป้ายแดงแจ๋..คนนี้!!!  

- บี บางปะกง -