หน้าแรกแกลเลอรี่

เรื่องเข้าใจผิด

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

2 ก.ย. 2564 05:01 น.

ใครที่กำลังหาข้ออ้างในการไม่ออกกำลังกาย บางเรื่องอาจเป็นเรื่องที่เราเข้าใจผิดไปเอง

เพจ “วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี” รวบรวมประเด็นต่างๆเอาไว้อย่างน่าสนใจ ลองอ่านกันดูครับ

รวมเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด เกี่ยวกับการ “วิ่ง”

หลังจากที่ผมเริ่มวิ่งและเริ่มไปงานวิ่งเป็นประจำ ก็เริ่มมีคนรอบตัวหลายๆคนเข้ามาชวนผมคุยเกี่ยวกับเรื่องวิ่ง บางคนอยากเริ่มวิ่งบ้าง บางคนก็อยากลองลงงานวิ่งแบบผมดูบ้าง บางคนก็มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการซ้อมวิ่ง ซึ่งสิ่งที่ผมได้จากการพูดคุยกับคนเหล่านี้ คือ ผมได้รู้ว่ามีหลายคนที่ยังเข้าใจเกี่ยวกับการวิ่งแบบผิดๆอยู่ เป็นสาเหตุให้บางคนไม่ยอมออกมาวิ่ง

หลายคนไม่กล้าไปงานวิ่ง หรือแม้กระทั่งความเข้าใจผิดต่อหลักการวิ่ง ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอาการบาดเจ็บและล้มเลิกการวิ่งไปกลางทาง วันนี้เลยอยากจะขอรวบรวมความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการวิ่ง มาให้ได้อ่านและศึกษากันครับ

#วิ่งแล้วข้อเข่าเสื่อม

ฮอตฮิตสุดก็อันนี้แหละ ขอชี้แจงตรงนี้เลยว่า ไม่ว่าจะทดสอบด้วยตัวเองหรือจะอ้างอิงจากผลวิจัยของที่ไหนก็ตาม ไม่มีผลวิจัยที่รายงานว่า การวิ่งเป็นสาเหตุให้ข้อเข่าเสื่อมเลยครับ!! ในทางกลับกัน นักวิ่งส่วนมากมีความเสี่ยงที่จะข้อเข่าเสื่อมต่ำกว่าคนที่ไม่วิ่งเสียอีก

คนที่กลัวข้อเข่าจะเสื่อม ผมแนะนำให้ออกมาวิ่ง เพราะสาเหตุหลักของข้อเข่าเสื่อมก็คือ การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ดังนั้นถ้ากลัวเข่าเสื่อมมากนักก็รีบออกมาวิ่งซะ นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงแล้วยังช่วยให้มีหุ่นกระชับอีกด้วย เริ่มต้นจากการเดินเร็วๆ แล้วจ๊อกกิ้งเบาๆก็ได้

#ไปงานวิ่งต้องวิ่งอย่างเดียว ห้ามเดิน!!

นี่เป็นอีกข้อที่เข้าใจผิดกันมาก ได้ยินแบบนี้ทีไร อยากจะกุมมือเบาๆ แล้วพาไปดูที่งานวิ่งให้เห็นจริงกับตาเลยว่า “เดินกันเกลื่อน!!” คืองี้ครับ งานวิ่งเนี่ย โดยปกติจะมีคนอยู่สามกลุ่ม กลุ่มแรกเป็นพวกขาแรง ล่าถ้วย กลุ่มต่อมาเป็นพวกทางสายกลาง จะวิ่งตลอดทางก็ได้ จะวิ่งสลับเดินก็ได้ คือมาวิ่งเอาบรรยากาศ เอามันส์ มาเอาชนะใจตัวเอง

กลุ่มสุดท้ายคือสายชิล ซึ่งจะเป็นนักวิ่งกลุ่มที่วาไรตี้มากที่สุดแล้วครับ มีทั้งมาแบบครอบครัว พาตัวเล็กมาด้วย มาแบบกลุ่มเพื่อนเฮฮา แบบมาลองครั้งแรก เวลาจะดีไม่ดีไม่สน สนแค่รูปต้องออกมาดูดี ซึ่งถ้าอยากได้รูปที่ดูดีแบบสุดๆ ต้องวิ่งช้านะครับ เพราะถ้าวิ่งเร็วภาพจะดูไม่ค่อยได้เท่าไร สรุปว่าถ้าอยากไปงานวิ่ง ก็ไปเถอะครับ เดินได้ วิ่งได้

#อยากวิ่งเก่งๆ #ต้องซ้อมวิ่งหนักๆ

ข้อนี้ผมยอมรับว่าผมเองก็เคยเป็น ตะบี้ตะบันซ้อมวิ่งมันทุกวัน แทนที่จะเก่ง ดันต้องมาเจ็บแทน พอมาศึกษาดีๆ ถึงได้เข้าใจมากขึ้น ว่าไอ้ที่เราทำมันผิดหนิ ที่จริงแล้วเราต้องมีวันวิ่ง+วันพัก วันที่ไปออกกำลังกายแนวอื่นๆ หรือที่เรียกว่า cross training บ้าง เช่น เวท, กระโดดเชือก, ว่ายน้ำ, ปั่นจักรยาน, โยคะ หรือกีฬาอะไรก็ได้ที่อยากจะทำเพราะกิจกรรมเหล่านั้น จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง และความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย

แถมยังช่วยให้การวิ่งของเราดีขึ้นด้วย ส่วนวันพักก็ควรมีเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง เพื่อความแข็งแรงที่มากขึ้นทีละสเต็ปนั่นเอง

เอาล่ะ เมื่อเข้าใจถูกต้องกันทุกคนแล้ว

ถ้าใครกลัวตัวเองจะข้อเข่าเสื่อม ก็ให้รีบออกมาวิ่งซะ.

ยุบสภา