ไม่เคยง่าย

บ้านเมืองในภาพใหญ่ เป็นช่วงเวลาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจกันอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นไปตามครรลอง อย่างน้อยก็ได้รับรู้รับฟังในแง่มุมต่างๆ แต่จะเชื่อถือได้หรือไม่ ก็วิเคราะห์กันตามสะดวก และที่สำคัญจะนำไปสู่อะไรได้บ้าง เปลี่ยนคน ปรับพรรค หรือเปลี่ยนแปลงรัฐบาล รวมถึงตัวนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าหลายคนคาดการณ์ล่วงหน้าได้อยู่แล้ว

ส่วนแวดวงกีฬาชาวเรา ไม่ต้องมีการอภิปราย ไม่มีมาไว้วางใจกันหรือไม่ อย่างดีก็วิพากษ์วิจารณ์กัน ตำหนิติเตียนกัน ซึ่งก็ไม่เคยส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร จนกว่าวงรอบการเลือกตั้งนายกสมาคม คณะกรรมการบริหารสมาคม จะวนมาถึง

นอกเสียจากมีการออกไปกลางคันเท่านั้น ซึ่งก็มีให้เห็นน้อยมาก ภายในปีนี้ ดูเหมือนจะมีการเลือกตั้งกันตามกำหนดอยู่องค์กรหนึ่ง นั่นคือ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ซึ่งทอดเวลามาจากการที่กีฬาโอลิมปิก 2020 เลื่อนมาจัดในปีนี้ ไอโอซี จึงให้สิทธิ์คณะกรรมการโอลิมปิกแต่ละชาติสามารถปรับเวลาเลือกตั้งให้ล้อกันไปได้ ไทยเราเลยวางกรอบไว้จะเลือกหลังจบโอลิมปิกโตเกียว

ตอนนี้จบแล้ว รอประชุมและเคาะวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งก็ต้องภายในปีนี้ แน่นอน ประธานคนปัจจุบัน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังแข็งแกร่ง บารมีเหลือล้น คนรอบกายยังดันหลัง ชูให้เป็นผู้นำจูงทีมงานปักหลักอยู่ต่อ เพียงแต่จะเปลี่ยนตัวเล่นหรือไม่เท่านั้น ส่วนกรรมการไม่น่าหาวง มือระดับจัดรัฐบาลได้ แค่สมาคมกีฬาเรื่องเล็ก

นั่นก็เป็นภาพที่ปรากฏ ซึ่งก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์บ้านเมืองต้องไม่เปลี่ยน คลื่นลมสงบนิ่ง แตะมือจัดวางได้ลงตัว แต่ก็เริ่มมีภาพที่ไม่ปรากฏเช่นกัน เมื่อมีกรรมการบางคน เจ้าเก่าสไตล์เดิม ขยับตัวจับมือแตะสมาคมกีฬาสร้างโครงข่ายกันแล้ว คงจะค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนผัน

ส่วนอีกองค์กร สมาคมกีฬามวยฯ แม้ยังไม่ถึงวงรอบที่จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ได้มีการรับปาก ให้สัญญาลูกผู้ชาย ซึ่งสโมสร สมาชิกก็รับรู้ รับทราบ และยินยอมเพื่อให้เปลี่ยนผ่านอย่างละมุนละม่อม จะได้ทำงานต่อโดยราบรื่นอันมีเป้าหมายสำหรับกีฬาโอลิมปิกในครั้งต่อไป

ระหว่าง พิชัย ชุณหวชิร กับสมชาย พูลสวัสดิ์ ก็ต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้จะพลิกผันเปลี่ยนไปหรือไม่ และยังมีอีกองค์กรที่เพิ่งมาปรากฏสัญญาณในช่วงไม่นานนี้ ซึ่งก็น่าสนใจทีเดียว นั่นคือ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แน่นอนยังไม่ถึงวงรอบของการเลือกตั้งนายกสมาคม และยังไม่มีท่าทีของการถอดใจของนายกสมาคม แม้ว่าภาพลักษณ์ของสมาคมในระยะหลังตกต่ำอย่างยิ่ง

พลันที่มีการแต่งตั้งผู้จัดการทีมที่มีคุณสมบัติคับแก้ว นวลพรรณ ล่ำซำ ทั้งๆที่สมาคมนี้ ภายใต้การนำของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ประกาศมาตั้งแต่ต้น เลิกระบบตั้งผู้จัดการทีมแบบไม่เห็นความสำคัญเลย

ครั้งนี้ไม่ตั้งเปล่า ยังให้สิทธิ์ ผจก.ทีมเลือกโค้ชได้เอง ถือเป็นการให้ผู้จัดการ “แป้ง” อย่างเต็มที่ นั่นจึงนำมาด้วยมุมมองของสื่อทุกสำนักถึงการเตรียมจะส่งผ่านไปถึงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯในลำดับต่อไป

ยิ่งกว่านั้น ทั้งสองฝ่ายไม่มีการปฏิเสธในเรื่องนี้ ทั้งยังมีท่าทีโอนอ่อน ปล่อยตามไปในแนวคิดดังกล่าวอย่างสวยงาม ภาพของแต่ละองค์กรที่เกิดขึ้นและเป็นไปอยู่นี้ อะไรจะเกิดอะไรจะเปลี่ยนแปลง จะมีคำตอบในวันข้างหน้า

แต่เชื่อเถอะ ไม่มีอะไรเรียบง่าย ต่อให้พูดคุยรื่นหู มิตรภาพเบ่งบาน เปิดหน้าเล่น ตกลงกันสวยหรูไว้อย่างไร พอถึงเวลา แค่พลิกฝ่ามือ รู้ตัวอีกทีกลายเป็นแค่ “หมาก” ไปเสียแล้ว แถมอาจไม่รู้ว่าใครจับเดินให้เสียด้วย!

เมื่อต้องการ ก็ต้องสู้ ยืนหยัดด้วยตัวเอง... เท่านั้น.

“เบี้ยหงาย”