ขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลัง!!

Inside Tokyo Olympic 2020 โดยหมอไพศาล (ตอนที่ 2) "ขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังของนักกีฬาทีมชาติไทยที่มาเข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกโตเกียว 2020"

ตอนที่แล้ว ผมได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณน้องๆ นักกีฬาไปแล้ว ถึงความเสียสละมุมานะ ที่ผ่านมากว่าจะได้ควอลิฟายมาโอลิมปิกได้ และสมควรที่ผู้ใหญ่จะได้โปรดพิจารณาสิ่งตอบแทนให้มากขึ้นกับนักกีฬาเหล่านั้น แม้นว่าจะไม่ได้เหรียญใดๆ กลับมาก็ตาม

สำหรับตอนที่ 2 นี้ผมใคร่ขออนุญาตเป็นตัวแทนคนไทย (ที่เห็นด้วยกับผม) กล่าวขอบคุณผู้ที่อยู่เบื้องหลังนักกีฬาที่มาแข่งขันฯ ที่ทำงานหนักเช่นเดียวกันกับนักกีฬา กว่าที่จะผลักดันให้นักกีฬา 1 คน ได้มาโอลิมปิกได้ ซึ่งผมจะพยายามเอ่ยถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้หมด (ไม่แน่ใจจะครอบคลุมหมดหรือไม่?) ดังนี้ 

1.) ขอบคุณผู้บริหารสมาคมกีฬาฯทั้ง 15 สมาคมฯ (16 ประเภทกีฬา) (จักรยาน/แบดมินตัน/กอล์ฟ/ปิงปอง/มวยฯ/ว่ายน้ำ/เทควันโด/เรือพาย/ยิงเป้าบิน/กรีฑา/ยิงปืน/ขี่ม้า/เรือใบ/วินด์เซิร์ฟและยูโด) ที่มีความสามารถในการบริหารจัดการ และทำหน้าที่อย่างหนักทุ่มเทในทุกๆ มิติ ของการจัดการทางการกีฬามาอย่างต่อเนื่อง จนนักกีฬาของสมาคมฯ ท่านได้ผ่านการคัดเลือกในระดับต่างๆ จนสามารถเข้ามาร่วมแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ได้ 

2.) ขอบคุณสปอนเซอร์จำนวนมากมายทั้งองค์กร บริษัทห้างร้าน ทั้งเล็กและใหญ่ ทั้งส่วนตัวส่วนบุคคลเป็นจำนวนมาก ที่สนับสนุนแต่ละสมาคมกีฬาฯ ต่างๆ มาโดยตลอด 

3.) ขอบคุณโค้ชและผู้ช่วยฯ /Sports Science ทุกสาขา-Fitness trainer-โภชนาการ-จิตวิทยาการกีฬา-ชีวกลศาสตร์และเวชศาสตร์การกีฬา (แพทย์-กายภาพบำบัด ฯลฯ)-หมอนวด (Masseur) และ ฯลฯ ที่มีส่วนในด้านการเพิ่มสมรรถภาพทั้งด้านทักษะกีฬา แท็กติกต่างๆ ตลอดจนสมรรถภาพร่างกายที่มีความพร้อมในการฝึกซ้อม และแข่งขันในระดับนานาชาติ เช่นการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ 

4.) ขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่มี ดร.ก้องศักด ยอดมณี เป็นผู้นำ ได้ให้การสนับสนุนทั้งงบประมาณและการบริหารจัดการจากหลายหน่วยงานที่สนับสนุน ช่วยเหลือโดยตรงถึงตัวนักกีฬา เช่น สถานที่เก็บตัวฝึกซ้อม ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติทั้งที่หัวหมากและสาขาในต่างจังหวัด ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา และช่วยเหลือโดยทางอ้อมอีกมากมาย 

5.) ขอบคุณคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณเป็นประธาน และพลตรีจารึก อารีย์ราชการันต์ เป็นเลขาธิการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฯ จำนวนมากหลายคน ทั้งที่ไปและไม่ได้ไปโอลิมปิกครั้งนี้ ที่มีส่วนโดยตรงในการประสานงานกับฝ่ายจัดการแข่งขันโอลิมปิก ซึ่งเป็นงานธุรการที่มีความละเอียดในเนื้องานมากมาย ซึ่งหลายท่านอาจจะมองเห็นแค่เฉพาะเกี่ยวข้องกับโตเกียวโอลิมปิก 2020 เท่านั้น ท่านที่อยู่ในวงการกีฬาคงทราบดีว่า กว่าจะมาถึงโอลิมปิกเป็นเวลา 4-5 ปี ที่นักกีฬาเหล่านี้ก็ยังต้องเข้าแข่งขันซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ฯลฯ ซึ่ง จนท.โอลิมปิกไทยเหล่านี้ก็มีส่วนในการทำงานและให้การสนับสนุนทั้งสิ้น 

นอกจากนี้แล้ว พวกเราต้องขอขอบคุณ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล หญิงแกร่งที่เข้มแข็งคนไทย ในบทบาทนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ที่มีผลงานดีเยี่ยมมานาน และได้รับเลือกเข้าเป็น IOC Member กรรมการโอลิมปิกสากล รับบทบาทที่สำคัญในโอลิมปิกสากล และมีส่วนช่วยวงการกีฬาไทยอย่างดีเยี่ยม  

6.) ขอบคุณกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมาจากภาษีเหล้า เบียร์ บุหรี่ ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาการกีฬาของชาติมาโดยตลอดในหลายมิติ เช่น การเตรียมนักกีฬาในมหกรรมกีฬาต่างๆ โครงการพัฒนาของสมาคมกีฬาต่างๆ การจ้างผู้ฝึกสอน Road to Tokyo พัฒนานักกีฬาระดับจังหวัด โครงสร้างพื้นฐาน (ปีที่ผ่านมาได้งบประมาณมาจัดซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ส่งเสริมสมรรถภาพร่างกายและฟื้นฟูร่างกาย เช่น เครื่อง Hyperbaric Chamber หรือ ออกซิเจนความเข้มข้นสูง) เป็นต้น รวมทั้งมีการนำมาเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ได้เหรียญรางวัลจากการแข่งขันในระดับต่างๆ

7.) ขอบคุณสื่อมวลชนทางด้านกีฬา ทั้งสิ่งพิมพ์ ดิจิตอล วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ ที่ช่วยกันนำเสนอ วิเคราะห์วิจารณ์ ทำให้เกิดความสนใจในหมู่ประชาชนชาวไทย เกิดเป็นความสมานสามัคคี มีความสุขที่ได้เห็นความสามารถของนักกีฬาทีมชาติไทยบนเวทีการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ยังทำความกังวลใจกับคนไทยทุกครอบครัวอยู่ในขณะนี้

 8.) ขอบคุณคนไทยทุกคนที่คอยติดตามเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยขณะทำการแข่งขันจากการถ่ายทอดสด ซึ่งเท่าที่ทราบว่าในประเภทและแมตช์การแข่งขันที่มีความหวังของไทย จะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากคนไทยที่จะเฝ้าดูและเชียร์ รวมทั้งส่งแรงใจมายังนักกีฬาที่ญี่ปุ่น 

9.) ขอขอบคุณเป็นอันดับสุดท้าย แต่ผมว่ามีความสำคัญค่อนข้างมากจนถึงสำคัญที่สุด ในความเห็นของผมก็คือ คุณพ่อคุณแม่ของนักกีฬาทีมชาติทุกคน ตลอดจนพี่ๆน้องๆ และคนในครอบครัวที่เกี่ยวข้อง เพราะการที่นักกีฬาทีมชาติไทยเหล่านี้มีความสามารถมาถึงระดับนี้ ท่านผู้อ่านทุกท่านลองหลับตานึกถึงความทุ่มเท ความเสียสละ ทั้งด้านการฝึกซ้อมที่หนักมากๆ รวมทั้งด้านสภาวะจิตใจของทั้งนักกีฬาและทุกคนในครอบครัว เสียเวลาอย่างมากมายมหาศาล 

การตัดสินใจเลือกเส้นทางกีฬาให้กับลูกของตนเอง ยอมเสียสละชีวิตปกติของเด็กทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นการเรียน (ซึ่งต้องยอมรับว่านักกีฬาเหล่านี้เสียโอกาสในการศึกษาอย่างแน่นอน) การเล่นและชีวิตความเป็นอยู่ในสังคมวัยเด็ก วัยรุ่น ที่นักกีฬาทีมชาติเหล่านี้จะต้องขาดหรือสูญเสียไป ทั้งๆ ที่ไม่มีความแน่นอนว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งในจำนวนครอบครัวที่เราเห็น ในส่วนของโอลิมปิก เป็นเพียงส่วนน้อยที่ได้มาถึงจุดนี้ได้ ยังมีอีกหลายๆ ครอบครัวที่ทุ่มเทเสียสละเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ นักกีฬาบางประเภทอาจต่อยอดไปเป็นนักกีฬาอาชีพ ยึดเป็นอาชีพติดตัวไปได้ แต่ก็ไม่สามารถอยู่กับอาชีพทางการกีฬานั้นๆ ได้จนถึงเกษียณอายุ เหมือนคนทำงานทั่วๆ ไป เพราะเมื่อถึงวัยหนึ่ง performance ตกลงก็ไม่สามารถอยู่ในวงการต่อไปได้ ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยงานอื่นๆ 

ท้ายสุดนี้ ผมขอเป็นตัวแทนของคนไทย ได้ขอกล่าวขอบคุณและชื่นชมทุกภาคส่วนดังกล่าวข้างต้นว่า ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมกีฬาของประเทศไทย หากไม่มีท่าน วงการกีฬาของประเทศไทยเราก็อาจจะไม่มีองค์ประกอบที่สมบูรณ์ที่จะช่วยผลักดันวงการกีฬาของประเทศไทยให้มาอยู่ในระดับที่ถือว่าดีมากเช่นในโอลิมปิก โตเกียว ครั้งนี้ประเทศไทยได้เหรียญรางวัลอยู่ในลำดับที่ 59 จาก 205 ประเทศ 

ผมหวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้ทุกท่านที่ได้อ่านได้รับรู้ว่า บนความสำเร็จของแต่ละเรื่องนั้น มีผู้ที่อยู่เบื้องหลังอีกเป็นจำนวนมากมาย ที่พวกเราควรให้ความชื่นชมและยกย่องเขาเหล่านั้นด้วย. 

นาวาอากาศเอก(พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ 

หัวหน้าคณะแพทย์ โอลิมปิกโตเกียว 2020

-------------------------

ขอบคุณทุกองคาพยพที่ช่วยกันทำให้นักกีฬาไทยสร้างความสำเร็จในโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 ครั้งนี้

และที่ลืมไม่ได้.. คือต้องขอบคุณพี่หมอไพศาล จันทรพิทักษ์ ที่ทำหน้าที่ด่านหน้าในตำแหน่ง “CLO”  หรือ COVID-19 Liaison Officer ประสานงานกับเจ้าภาพในมาตรการป้องกันโควิดให้นักกีฬาของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

นอกจากนี้ ยังอุตส่าห์สละเวลาอันมีค่า ถ่ายทอดประสบการณ์และมุมมองต่างๆ ของผู้ที่อยู่ในสมรภูมิ (จริง) ของมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติมาให้แฟนๆ ไทยรัฐสปอร์ตได้สัมผัสกันด้วย

การให้เครดิตกับ ’ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง’ เป็นสิ่งประเสริฐยิ่งของทุกสังคมครับ!!! 

- บี บางปะกง -