ตองเจ
กว่า 3 เดือนแล้วที่ไวรัสโควิด-19 หรือ “โคโรนา” ได้มีการแพร่ระบาด ทำให้สถานการณ์ทั่วโลกมียอดของผู้ติดเชื้อเกิน 3 ล้านคนเข้าไปแล้ว แม้หลายชาติพยายามล็อกดาวน์เพื่อที่จะหยุดเชื้อไวรัส
แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่สามารถสกัดโควิด-19 ให้อยู่หมัดได้ซะที
คงต้องฝากความหวังไว้ที่วัคซีนที่หลายชาติกำลังพยายามคิดค้นขึ้นมา แต่ดูแล้วคงไม่ต่ำกว่าสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าถึงจะได้ใช้งานอย่างเป็นทางการ
ขณะที่ไทยเองถือว่าโชคดีมีแนวโน้มการแพร่ระบาดที่ลดลง ส่วนหนึ่งเพราะมาตรการที่เข้มแข็งของรัฐบาลที่ออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศใช้เคอร์ฟิวห้ามออกนอกบ้านหลังเวลา 22.00 น. รวมทั้งห้ามเดินทางข้ามจังหวัดถ้าไม่จำเป็น
ทำให้สถานการณ์ของไทยในวันนี้เริ่มคลายความกดดันไปเยอะ โดยในกีฬาก็เริ่มปลดล็อกผ่อนปรนในบางประเภทอย่างวิ่งตามสวนสาธารณะเพื่อสร้างเสริมสุขภาพแต่ยังห้ามจัดกิจกรรมที่เป็นการแข่งขัน เทนนิส และแบดมินตัน
แม้จะเริ่มปลดล็อกได้บ้างแต่ผลกระทบหลังจากโควิดคลี่คลายลงบอกเลยว่าสาหัสไม่แพ้ตอนที่ระบาด เพราะหนทางต่อจากนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลายคนตกงานต้องตะเกียกตะกายหาอาชีพใหม่เพราะภาพรวมทางเศรษฐกิจพังยับเยิน
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวตายสนิทโรงแรมทั่วประเทศจำต้องหยุดกิจการชั่วคราว เพราะต้องปิดประเทศเพื่อยับยั้งไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปมากกว่านี้
ในส่วนของกีฬาเองหลายประเภทก็ต้องหยุดเพราะไม่สามารถจัดกิจกรรมขึ้นมาได้ อย่างมวยไทยรวมถึงมวยโลกที่เคยจัดเป็นประจำทุกวันก็ต้องงด เช่นเดียวกับฟุตบอล–ฟุตซอลลีก ที่เป็นอาชีพอย่างเต็มตัว และอีกหลายประเภทก็ต้องเลื่อนจากกำหนดเดิม
เรียกได้ว่าปฏิทินที่แต่ละสมาคมกีฬากำหนดไว้ตั้งแต่ต้นปีต้องม้วนพับเก็บเข้ากระเป๋าไม่สามารถจัดได้ตามที่วางแผนไว้
ที่สำคัญกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่จะจัดขึ้นในปีนี้ ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็ต้องเลื่อนไปเป็นปีหน้า นี่ยังไม่รวมถึงทัวร์นาเมนต์สำคัญอีกเพียบ
ซึ่งการเลื่อนแข่งอีเวนต์ของแต่ละชนิดกีฬาก็กระทบเป็นโดมิโนถึงตัวนักกีฬาด้วยทำให้รายได้หดหายลงไป
ขนาดเกิดผลกระทบอย่างหนักแบบนี้แต่ก็ยังไม่เห็นท่านรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” ออกมาตรการเพื่อเยียวยาทั้งท่องเที่ยวและกีฬาอย่างเป็นทางการเลย
หรือลืมไปว่าท่านคุมกระทรวงอะไรอยู่ แถมงบประมาณก็มีอยู่แล้วการจะไปรอให้หมดโควิดแล้วค่อยออกมาตรการคงจะไม่เหมาะอย่างน้อยต้องเริ่มคิดสักนิดตั้งแต่ตอนนี้ว่าควรทำอย่างไรจะเยียวยาแบบไหนกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดครั้งนี้
อย่างน้อยผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้ใจชื้นหรือมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง อย่าลืมตอนที่เขาดังและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศทุกคนได้น่าได้ตากันหมด
เช่นเดียวกันการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมหาศาลในแต่ละปี แต่พอเวลาที่พวกเขาเดือดร้อนไม่เห็นมีใครแยแส
เอาเถอะครับลองคิดดูว่าจะเอาอย่างไรดี ถึงตอนนี้ยังไม่สาย อย่าให้พวกเขาต้องน้อยใจว่าท่านลืมเขาเลย.
ตองเจ