หน้าแรกแกลเลอรี่

ใกล้เข้ามาแล้วจ้าาาา

Lemon Juice

3 ต.ค. 2562 09:09 น.

ดราม่าซีเกมส์ที่มาเลเซียเมื่อราว 2 ปีก่อน ยังไม่จางไปจากแฟนกีฬาไทย แต่อีกไม่กี่เดือนมหกรรมกีฬาของชาวอาเซียนก็จะกลับมาอีกครั้งแแล้ว ในเวอร์ชั่นตากาล็อก 2019 ซึ่งจะดีเดย์จุดไฟบนคบเพลิงอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

นับตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา ตำแหน่งเจ้าเหรียญทองไม่ได้ผูกขาดเพียงแค่ ไทย หรือ อินโดนีเซีย เท่านั้น เพราะถ้าหากชาติใหญ่ ๆ ได้เป็นเจ้าภาพ ก็แทบจะการันตีการเป็นเจ้าทองไปแบบปริยาย

มาเลเซีย (2011,2017), เวียดนาม (2003) และฟิลิปปินส์ (2005) ได้แจ้งเกิดเป็นเจ้าเหรียญทองเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ซีเกมส์ ก็เพราะเหตุผลด้านการเป็นเจ้าภาพล้วน ๆ

และในเวอร์ชั่นปี 2019 นี้ก็เช่นกัน ดูท่าแล้วตำแหน่งอันดับ 1 ในตารางสรุปเหรียญ คงหนีไม่พ้นเจ้าภาพอย่างแน่นอน เพราะด้วยจำนวนนักกีฬา, ประเภทชนิดกีฬาที่ถูกบรรจุ แทบจะเอื้ออำนวยให้ฟิลิปปินส์ ก้าวขึ้นไปครองตำแหน่งแชมป์เหรียญทองแบบแบเบอร์อยู่แล้ว

ดังนั้นการที่ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย หันมาโฟกัสที่กีฬาสากล ซึ่งต่อยอดไปสู่ระดับที่ใหญ่กว่าอย่าง เอเชียนเกมส์ รวมถึง โอลิมปิกเกมส์ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลางมโข่งกับการเป็นเจ้าอาเซียนเพราะมัวสนใจแต่กีฬาพื้นบ้าน

ซึ่งจากการประชุมครั้งล่าสุดพบว่า โอลิมปิกไทยเคาะตัวเลขนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ออกสูงถึง 1,393 คน จาก 52 ชนิดกีฬา โดยเว้นไปเพียงแค่ อาร์นิส, วิ่งผ่านอุปสรรค, ฮอกกี้ใต้น้ำ และขี่ม้าโปโลเท่านั้น ที่ไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย

ด้านการแข่งขันส่วนใหญ่ ก็ว่ากันไปตามไทม์ไลน์ของเจ้าภาพที่ได้วางเอาไว้ ส่วนกีฬาประเภททีมก็จะทยอยจับสลากแบ่งสายกันในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ขณะไฮไลต์ของการแข่งขันอย่าง “ฟุตบอลชาย” ก็จะได้ฤกษ์จับติ้ววันนั้นเช่นกัน

โดย “ทัพช้างศึก” ได้อานิสงส์ในฐานะแชมป์เก่า ถูกวางให้อยู่ในโถที่ 1 ร่วมกับ ฟิลิปปินส์ เจ้าภาพ ส่วนโถ 2 คือ มาเลเซีย กับ อินโดนีเซีย, โถ 3 เวียดนาม กับ เมียนมา และโถ 4 ประกอบด้วย สิงคโปร์, สปป.ลาว, กัมพูชา, บรูไน และ ติมอร์-เลสเต

ซึ่งส่วนตัวมองว่า ชั่วโมงนี้แฟนบอลไม่ต้องหวั่นใจหรอกครับว่า ไทยจะได้อยู่ในกลุ่มไหนกับใครบ้าง

เพราะถ้าวางเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นแชมป์ก็ต้องพร้อมเจอทุกทีม และ "ต้อง" เอาชนะให้ได้ไม่ว่าจะหน้าไหนก็ตาม.

-LEMON JUICE-