ไทยรัฐออนไลน์
มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดชาวสแปนิช ดีกรีแชมป์โลกของวงการโมโตจีพี 5 สมัย เผยความรู้สึกก่อนที่จะได้มาโชว์ฝีมือในการแข่งขัน "พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์" เดือน ต.ค.นี้
การกีฬาแห่งประเทศไทยเดินหน้าสานต่อความสำเร็จการเป็นกรังด์ปรีซ์อันดับหนึ่งของโลก ส่งพิธีกรชื่อดัง แมทธิว ดีน สัมภาษณ์แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “มาร์ค มาร์เกซ” สุดยอดนักแข่งแชมป์โลกโมโตจีพีชาวสแปนิช ชี้ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เป็นหนึ่งในแทร็กที่ค่อนข้างยากทั้งในการขี่และเซ็ตอัพ พร้อมยกย่องว่าการแข่งขันโมโตจีพีในประเทศไทย รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ มีบรรยากาศที่เหมือนเฟสติวัล กิจกรรมมีสีสันหลากหลายเอาใจคอมอเตอร์สปอร์ต เผยชอบกิน “ผัดไทย” พร้อมชวนแฟนๆ เข้าชมและเชียร์ตนเองในต้นเดือนตุลาคมนี้
ศึก โมโตจีพี 2019 เดินทางเข้าสู่ช่วงสำคัญของการลุ้นแชมป์โลกประจำฤดูกาล โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในสนามสำคัญของการตัดสินแชมป์ ซึ่งถูกบรรจุเป็นสนามที่ 15 ของปี ในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ในปีที่ผ่านมา มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า เป็นนักบิดคนแรกที่คว้าชัยในศึก พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกกับการแข่งขัน โมโตจีพีในประเทศไทย ส่วนสถานการณ์ล่าสุดของการลุ้นแชมป์โลกในปี 2019 นั้น มาร์เกซรั้งตำแหน่งจ่าฝูงก่อนเข้าสู่ ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์ ในสุดสัปดาห์นี้ โดยมีคะแนนเหนืออันดับ 2 อย่าง อันเดรีย โดวิซิโอโซ คู่แข่งจาก มิสชั่น วินนาว ดูคาติ ถึง 78 คะแนน
โดยแชมป์โลกจาก เรปโซล ฮอนด้า เผยถึงการแข่งขันในประเทศไทยว่า “มันเป็นความรู้สึกที่สุดยอดมากๆ เลยครับ กับการแข่งขันในประเทศไทย Winter Test ในเดือนกุมภาพันธ์ แค่การทดสอบที่นี่ก็ยิ่งใหญ่แล้ว เพราะมีผู้ชมมากมายเข้าร่วมชมการทดสอบ แต่เมื่อแข่งจริงมันยิ่งใหญ่กว่านั้นมากๆ เหมือนยกเอางานปาร์ตี้มาไว้ในการแข่งขัน มันทำให้แฟนๆ มีความสุขกับการแข่งขัน แฟนชาวไทยส่งเสียงเชียร์นักบิดทุกคน ซึ่งนี่คือสิ่งสำคัญ บรรยากาศมันเหมือนงานเฟสติวัลเลยครับ”
มาร์เกซ กล่าวถึงการแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ในปีที่ผ่านมา ด้วยการคว้าแชมป์ของตนเองว่า “การต่อสู้ในโค้งสุดท้าย รอบสุดท้าย เป็นเรื่องที่ไม่มีทางคาดเดาอะไรได้เลย แต่ในตอนนั้นวางแท็กติกได้ดี รอจังหวะและถนอมสภาพยาง จากนั้นจึงเปิดเกมบุกในรอบสุดท้าย แต่ อันเดรีย โดวิซิโอโซ ก็ยังสามารถแซงคืนได้ ทว่าท้ายที่สุดผมก็แซงกลับและคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ผ่านเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก รวมทั้งเป็นคนแรกที่คว้าชัยชนะครั้งแรกในประเทศไทย โดยสนามถัดไปที่ โมเตกิ ผมก็คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ” มาร์เกซ เผย
ขณะเดียวกัน นักบิดชาวสแปนิชยังกล่าวถึง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ว่าเป็นหนึ่งในสนามที่ต้องใช้เทคนิคสูง รวมถึงการหาเซ็ตอัพที่ค่อนข้างยาก
“เป็นสนามที่ยากนะครับ เพราะในเซ็กเตอร์แรก โค้ง 1, 2 และ 3 ค่อนข้างเร็ว และมีทางตรงที่ยาวมาก ซึ่งคุณต้องการเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะดี แถมยังมีจุดที่ต้องเบรกหนักมากๆ แต่เมื่อมาถึงเซ็กเตอร์ 3 และ 4 มันคล้ายกับสนามมิซาโน ซึ่งต้องช้าลงและคอนโทรลรถให้แม่นยำ ดังนั้นจึงเป็นสนามที่ค่อนข้างยากสำหรับการเซ็ตอัพรถแข่ง รวมถึงเป็นสนามที่มีอากาศร้อนและชื้น ต้องพร้อมมากๆ ทั้งรถแข่งและตัวนักบิดด้วย”
สิ่งหนึ่งที่ มาร์เกซ ประทับใจคือการต้อนรับที่อบอุ่นของแฟนชาวไทยจำนวนมาก พร้อมชวนแฟนๆ เข้าชมและเชียร์ตนเองในต้นเดือนตุลาคมนี้ ขณะเดียวกันนักบิดสแปนิชยังได้มีโอกาสลองชิมอาหาร โดยเผยถึงเมนูอาหารสุดโปรดว่า “ครั้งที่แล้วผมได้ขี่รถสามล้อตุ๊กตุ๊กที่กรุงเทพฯ และได้ลองชิมอาหารไทยด้วย ผมได้ลองกินข้าวหมูแดงตามที่เห็นในคลิป แต่ผมชอบผัดไทยมากกว่านะ ส่วนหนึ่งเพราะอยู่ระหว่างการแข่งขันด้วยเลยไม่กล้าทานอะไรแปลกๆ แต่รับรอบได้ว่าคงต้องลองทานอาหารไทยอย่างอื่นดูบ้าง”
สำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี 2019 นั้นจะเข้าสู่สนามที่ 13 ในสุดสัปดาห์นี้ ที่ สาธารณรัฐ ซาน มาริโน ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันที่ มอเตอร์แลนด์ อรากอน ประเทศสเปน และเดินทางข้ามทวีปมาดวลความเร็วสนามที่ 15 ในประเทศไทย กับรายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์