เข้าเดือนสิงหาคมแล้วก็ต้องต่อไปกันยายน เป็นวงรอบของการคืบคลานเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่ เช่นกันเป็นการเตรียมตัวของ ข้าราชการที่จะเกษียณอายุ และที่ ต้องระริกระรี้ ดีใจกันก็ความคาดหวังที่จะขยับขยาย ก้าวหน้าในอาชีพราชการ เล็งกันไปยังตำแหน่งต่างๆ รวมถึง พวกที่ได้แล้ว อยู่แล้ว ก็วาดหวังยังได้นั่งเก้าอี้ตัวเดิม กันต่อไป
ประกอบกับช่วงเวลานี้ มีบรรยากาศพิเศษ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือผลัดใบจากรัฐบาลทหารเดิม มาเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง แม้จะยังมีกลิ่นไอเดิมๆในหลายส่วน แต่เมื่อการเมืองมา อะไรๆที่เคยแน่นอน มันก็ไม่แน่นอนทั้งนั้นแหละ
ข่าวแนะนำ
ยิ่งกระทรวงไหนเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนมือ ก็ยิ่งต้องมีวาระของความพิเศษนี้เข้มข้นขึ้นไปเป็นธรรมชาติ
และหนึ่งในกระทรวงที่มีการเปลี่ยนมือก็คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของชาวเรา!
สัปดาห์ก่อน นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบ่งงานให้รองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเรียบร้อย ซึ่งก็เป็นไปตามสายงานที่พรรคภูมิใจไทยได้ดูกระทรวงนี้ อันมีพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรัฐมนตรี
นั่นทำให้การบริหารจัดการทั้งนโยบายและคน รวมทั้งงบประมาณในส่วนของกระทรวง รวมถึงหน่วยงานอย่างสำนักงานรัฐมนตรี, สำนักงานปลัดกระทรวง, กรมการท่องเที่ยว, กรมพลศึกษา, มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ (สถาบันการพลศึกษาเดิม) อยู่ในร่มเงาของรองนายกฯและ รมต.ในฝั่งของ พรรคภูมิใจไทยแบบเบ็ดเสร็จ
อันนี้คงไม่สับสน ชัดเจนอยู่แล้ว หากพี่น้องข้าราชการจะต่อสายเชื่อมตรงเข้าหาใครสิ้นเดือน ก.ย.นี้มีทั้งระดับ 10 และระดับ 9 เกษียณ รวมๆก็หลายคนอยู่เสียด้วย หรือที่อยู่ใครไม่เข้าขาใคร เหมาะไม่เหมาะ ก็ต้องแล้วแต่ทีมงานเจ้ากระทรวงใหม่
แต่หน่วยงานพิเศษอย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งมีรูปแบบพิเศษนั้นมีความแตกต่าง มีคณะกรรมการกำกับดูแลอีกส่วน
ขีดวงในกีฬาเราดีกว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 2 ส่วนที่มีความสำคัญยิ่งในเชิงกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ด้านกีฬาของชาติ มีคณะกรรมการกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ อย่างที่เคยเขียนไว้ ต้องรอคำสั่งนายกรัฐมนตรีอีกฉบับว่าจะมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีท่านใด มานั่งเป็นประธานบอร์ด ซึ่งจะสัมพันธ์โดยตรงต่อ การขับเคลื่อน ทั้งคน นโยบาย และงบประมาณ แถมไม่ได้มาคนเดียวอยู่แล้ว มาเป็นคณะ กระจายอยู่ในจุดต่างๆ
ซึ่งหากคนที่มานั่ง ไม่ได้เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และปัจจุบันท่านก็เป็นรองนายกฯอยู่เหมือนเดิม แต่จะเหมือนเดิมกับการมอบอำนาจจากนายกฯลุงตู่ให้มาดูกีฬาหรือไม่ อันนี้เป็นประเด็นแน่
เชื่อว่าพี่น้องในการกีฬาและพวกที่เล็งผลเลิศในกองทุนก็ต้องจดๆจ้องๆรอดูกันอยู่ โดยเฉพาะใครที่มีแผล มีแผน หรือใครเสียวจะหลุด ใครหวังจะคั่ว และคิดอะไรไว้ในหัว อาจจะครั่นเนื้อครั่นตัวมากหน่อย
จะหันไปทางไหนดีก็ต้องรอกันอีกนิด ตอนนี้ ก็วอร์มๆซอยเท้ากันไปก่อน...
“เบี้ยหงาย”