ปิดฉาก "สิงห์ ซีรีส์ รัน 2019" นักวิ่งแห่ส่งแรงใจหนุน "พาราไทย" สู้ศึกที่โตเกียว

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักจากนักวิ่งชาวไทยและต่างชาติ ที่มาร่วมการแข่งขันจำนวนมาก ทั้งที่มาร่วมสัมผัสเส้นทางการวิ่งในเมือง ซึ่งเป็นถนนโล่งและสะอาด ผ่านสถาปัตยกรรมบ้านทรงไทยและวัด สลับกับวิถีชีวิตและเทือกสวนไร่นา ทำให้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีนักกีฬาฮีโร่พาราลิมปิกไทยร่วมในงานวิ่ง นำโดย ประวัติ วะโฮรัมย์, เรวัตร์ ต๋านะ, สายชล คนเจน, พงศกร แปยอ, สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ภูธเรศ คงรักษ์, พัทธยา เทศทอง, วาสนา คูทวีทรัพย์, หาญฤทัย เนตรศิริ รวมทั้งทีมนักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล, นักกีฬาพาราแบดมินตัน และนักกีฬากรีฑาคนพิการทีมชาติไทย ในโอกาสนี้ นักวิ่งยังร่วมส่งกำลังใจให้แก่นักกีฬาพาราไทยผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน อาทิ การเขียนข้อความส่งกำลังใจ การถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ที่จัดขึ้นในคอนเซ็ปต์ #TEAMPARATHAI รวมถึงการซื้อของที่ระลึก และการซื้อริบบิ้น ซึ่งไม่มีการกำหนดราคา แล้วแต่ผู้ซื้อจะมอบให้เท่าไหร่ เพื่อสนับสนุนนักกีฬาพาราไทยในการเตรียมสู้ศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม-6 กันยายน ปีหน้า

สำหรับไฮไลต์ของการแข่งขันอยู่ที่ระยะ 16 กิโลเมตร โดยได้รับเกียรติจาก นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบเหรียญรางวัลชนะเลิศให้นักกีฬา ซึ่งแชมป์ฝ่ายชายเป็นของ ภัทรพล น้อยหมอ นักวิ่งจากเชียงราย วัย 33 ปี เจ้าของแชมป์ 3 สนามก่อนหน้านี้ เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 1.00.51 ชั่วโมง คว้าแชมป์สนามที่ 4 ได้สำเร็จ ขณะที่แชมป์ฝ่ายหญิงได้แก่ วิไลวรรณ ขำพิทักษ์ นักวิ่งจากสุราษฎร์ธานี วัย 38 ปี อดีตทีมชาติไทยชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพฯ และซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่ประเทศบรูไน คว้าแชมป์ 3 สนามติดต่อกัน เข้าป้ายคนแรกด้วยเวลา 1.10.34ชั่วโมง คว้าแชมป์เป็นสนามที่ 4 ไปครองเช่นกัน

ทั้งนี้ จากผลการแข่งขันสิงห์ ซีรีส์ รัน 2019 ทั้งหมด 4 สนามของฤดูกาลนี้ (สิงห์ปาร์ค เชียงราย, ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี, อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่ และ เดอะ คริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์) โดยนักวิ่งที่ครองตำแหน่งโอเวอร์ออล หรือคะแนนรวม ฝ่ายชาย ได้แก่ ภัทรพล น้อยหมอ เวลารวม 4 สนาม 4.05.23 ชั่วโมง ได้รับรางวัล 50,000บาท ส่วนนักวิ่งฝ่ายหญิง ได้แก่ วิไลวรรณ ขำพิทักษ์ เวลารวม 4 สนาม 4.57.12 ชั่วโมง ได้รับรางวัล 50,000 บาท เช่นกัน

ในโอกาสนี้ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้เป็นประธานมอบเงินจากทางผู้จัด ซึ่งเป็นรายได้ส่วนหนึ่งจากงานวิ่งสิงห์ ซีรีส์ รัน 2019 สนามสุดท้าย 100,000 บาท และเงินจากการจำหน่ายริบบิ้นกับของที่ระลึกอีก 79,500 บาท รวมเป็นเงิน 179,500 บาท ให้กับทัพพาราลิมปิกไทย เพื่อสมทบทุนในการเตรียมทีมสู้ศึกพาราลิมปิก "โตเกียว เกมส์ 2020"

นายจุตินันท์ กล่าวว่า งานวิ่งสิงห์ ซีรีส์ รัน 2019 สนามสุดท้ายถือว่าสุดยอดมาก มีนักวิ่งมาร่วมกว่า 3 พันคน ทำให้คึกคักมาก ตนประทับใจที่มีนักวิ่งวัย 76 ปี รวมถึงนักกีฬาพาราไทยมาร่วมด้วยกว่า 40-50 คน และดีใจมากที่มีนักกีฬาคนพิการทางสมองได้อันดับ 2 ในการแข่งขันด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งพิเศษมากๆ เพราะจะช่วยส่งเสริมกำลังใจให้กับนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทยด้วย

“วันนี้นักกีฬาพาราไทยได้สัมผัสโดยตรงว่า มีคนไทยคอยให้กำลังใจพวกเขาอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับความพร้อมของทัพพาราลิมปิกไทยนั้น ก็มีความพร้อมเต็มที่ และในรอบปีที่ผ่านมา นักกีฬาเดินทางไปแข่งต่างประเทศเพื่อเก็บสะสมคะแนนควอลิฟายไปพาราลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว จากนี้ไปจนถึงสิ้นปี นักกีฬาทุกคนมีโปรแกรมเก็บตัวฝึกซ้อม และแข่งต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ในนามของตัวแทนพาราลิมปิกไทย รู้สึกดีใจที่เห็นประชาชนให้ความสำคัญกับนักกีฬาพารา ซึ่งเราทุกคนทำเต็มที่เพื่อประเทศชาติ อยากจะนำพาความสุขใจมาให้คนไทยทุกคน และคิดว่าจากกำลังใจที่เราได้รับ เราก็จะทำผลงานให้ดีที่สุด

ขณะที่ นายรวินทร์ ชมพูนุชธานินทร์ ผู้อำนวยการกลุ่มประชาสัมพันธ์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า สนามนี้เป็นสนามปิดท้ายที่ทำให้ผู้เข้าร่วมทุกคนมีความสุข โดยส่วนหนึ่งนักวิ่งอยากจะมาร่วมให้กำลังใจกับเหล่านักกีฬาพาราทีมชาติไทย ชุดที่กำลังเก็บตัวไปแข่งพาราลิมปิกเกมส์ 2020

“สิงห์ ซีรีส์ รัน 2019 จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ซึ่งที่ผ่านมามีทั้งหมด 4 สนาม 4 ภูมิประเทศ โดยปีนี้การตอบรับดีมาก ส่วนปีหน้าจะมี 4 สนามเช่นกัน สนามแรกจะเริ่มที่เชียงราย รูปแบบครอสคันทรี, สนาม 2 ที่สัตหีบ ชลบุรี รูปแบบบีชรัน, สนาม 3 ที่เชียงใหม่ รูปแบบคิง ออฟ เมาเทน และสนามสุดท้ายกลับมาที่กรุงเทพฯ โดยปีหน้าก็เป็นปีที่ขยับใกล้กับการแข่งขันพาราลิมปิกมากขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้น 4 สนามในปีหน้า จะเป็นสนามที่ช่วยกำลังใจให้กับนักกีฬาพาราลิมปิกไทยอย่างเต็มที่ เพราะกำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก” นายรวินทร์ กล่าว