หน้าแรกแกลเลอรี่

อย่าให้มีอีก

เบี้ยหงาย

9 มี.ค. 2562 05:01 น.

ประกาศจากสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ สมาคมใหญ่ทำเหรียญให้ประเทศชาติมากมายในทุกระดับ จะไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ ตั้งแต่บัดนี้ รวมถึงกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว

ประเทศญี่ปุ่นและบรรดารายการคัดเลือกทุกรายการ แต่ยังคงจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬายกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่เมืองพัทยา 18-27 ก.ย. เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสมาชิกสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ

นี่คือการแสดงเจตจำนง หลังจากที่มีการตรวจพบสารต้องห้าม หรือเรียกภาษาบ้านๆว่าพบ “โด๊ป” ในนักกีฬายกน้ำหนักไทย รวม 8 คน

แต่ยังไม่มีคำสั่งลงโทษอย่างเป็นทางการออกมาจากทางสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ซึ่งเท่ากับว่าทางสมาคมของไทยเราชิงแสดงความรับผิดชอบออกมาก่อน

ซึ่งที่ผ่านมาในทางปฏิบัตินั้น การถูกตรวจพบ 3 กรณีขึ้นไปในรอบปี จะถูกแบน 4 ปี และถูกปรับอีก 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ ก็ต้องดูกันต่อไปว่าเมื่อมีการแสดงความรับผิดชอบออกมา จะมีการสั่งบังคับโทษตามมาอย่างไรหรือไม่ อันเป็นเรื่องที่สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติจะเป็นผู้พิจารณา

อย่างไรก็ตาม นั่นแสดงให้เห็นว่าความผิดนั้นเกิดขึ้นจริง และมีผลอย่างแน่นอน!

เรื่องของการตรวจสารกระตุ้นนี้ เป็นสิ่งสำคัญ และรับไม่ได้หากมีกรณีเกิดขึ้น เป็นที่รังเกียจในสังคมกีฬาโลก ไม่เพียงรับไม่ได้ และต้องนำมาซึ่งการลงโทษอย่างรุนแรง

และเมื่อตรวจเจอแล้วก็คงปฏิเสธไม่ได้ ด้วยเป็นวิทยาศาสตร์ เป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์กันได้ชัดเจน เพียงแต่ที่มาของการเข้าสู่ร่างกายนั้น มีเจตนาหรือไม่เท่านั้น!!!

ซึ่งก็เชื่อโดยสุจริตใจว่าคงไม่มีใครเจตนาเพื่อการนี้

แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ควรจะนำกรณีนี้มาเป็นกรณีศึกษา และพลิกวิกฤติให้เป็นประโยชน์ ก็ในเรื่องที่ “ทำไม” ตรวจในบ้านเราไม่เจอ ทั้งๆที่ก็มีการตรวจเป็นประจำก่อนไปแข่งขัน

นี่คือประเด็นที่ต้องนำไปสู่การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าการตรวจสารกระตุ้นจำได้ว่าเรามีการยกระดับและพัฒนาเมื่อครั้งที่เราจะเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 เมื่อปี 2541 ถึงทำศูนย์ตรวจที่ได้มาตรฐาน อันเป็นเงื่อนไขที่เจ้าภาพต้องปฏิบัติ

จากนั้นถึงวันนี้ไม่แน่ใจว่ามีการยกเครื่องครั้งใหญ่หรือไม่ ยุคนี้เรากำลังจะทำศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ทันสมัย เรื่องของการตรวจสารกระตุ้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการปรับปรุง ด้วยเป็นด่านแรกที่คัดกรอง ป้องกันความเสียหายต่อวงการกีฬาไทย และหน้าตาของประเทศชาติโดยรวม

เรื่องนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ทั้งจากพฤติกรรมของคน ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา เจ้าหน้าที่ สมาคมกีฬา ที่ต้องรู้และเคร่งครัดในการยึดถือปฏิบัติ

ในส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือ และบุคลากรในศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และการตรวจสารกระตุ้น ก็ต้องมีประสิทธิภาพ อัปเดต และทันสถานการณ์ไปตามความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว

เรื่องฉาวโฉ่ อย่าให้บ่อยครับ...

“เบี้ยหงาย”