"บิ๊กก้อง" บุกชมศูนย์ฝึกแห่งชาติญี่ปุ่น หวังเป็นต้นแบบพัฒนากีฬาไทย

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ระบุศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่นจะเป็นต้นแบบศูนย์ฝึกของไทย เตรียมนำเรื่องนี้เสนอ ครม.อีกครั้ง คาดใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี จึงจะใช้งานได้เต็มระบบ

คณะผู้บริหารจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) นำโดยนายอภิชาติ จีระพันธุ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เดินทางไปศึกษาดูงาน ที่สถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศญี่ปุ่น (JISS) และศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น (Ajinomoto National Training Center: Ajinomoto NTC) ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.2562

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า การได้มาเยี่ยมชมศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่นเป็นประโยชน์กับเราอย่างมาก ศูนย์ฝึกแห่งนี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ที่ กกท.กำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะสถานที่ตั้งในเมือง ซึ่งมีพื้นที่จำกัด โดยตอนนี้ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติของไทย ยังอยู่ในช่วงนับหนึ่ง ซึ่งเราจะใช้ญี่ปุ่นที่ทดลองผิดถูกมานานเป็นต้นแบบ ขณะนี้กำลังเสนอเรื่องผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง และกำลังหาผู้ออกแบบก่อสร้าง คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้าง 3-4 ปี จึงจะใช้งานได้เต็มระบบ

คุณหญิงปัทมากล่าวว่า สิ่งที่ประทับใจจากการมาดูครั้งนี้คือข้อมูลที่ได้รับมา 41 เหรียญ ที่นักกีฬาญี่ปุ่นทำได้ในโอลิมปิกเกมส์ 2016 นั้น 40 เหรียญมาจากนักกีฬาที่ฝึกจากศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น ส่วนอีก 1 เหรียญได้จากแคนู ที่ฝึกต่างประเทศ อีกอย่างคือห้องโภชนาการที่มีความละเอียด อาหารที่นักกีฬาเลือกทานจะมีเครื่องวัดพลังงานว่าได้กี่แคลอรี มีสารอาหารอะไรบ้าง เพื่อนำไปประมวลผลและปรับใช้.