ไทยรัฐออนไลน์
"เสธ.หมึก" การันตีพร้อมทุ่มสุดตัว พร้อมรับบทป๋าดันพา "จาย อังค์สุธาสาวิทย์" นักปั่นลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย เดินหน้าคว้าโควตาลุยโอลิมปิกในปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นให้ได้...
วันที่ 10 ก.ย.61 พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ อยู่ระหว่างเดินหน้าแผนเก็บคะแนนสะสม เพื่อโควตาโอลิมปิกปี 2020 ที่ญี่ปุ่น ในประเภทลู่ ซึ่งนักกีฬาที่มีศักยภาพสูงสุดที่อยู่ในข่ายที่จะสามารถผ่านควอลิฟายได้ก็คือ จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นลูกครึ่งไทย- ออสเตรเลีย เจ้าของเหรียญทองคีริน ในเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุด
โดย “เสธ.หมึก” กล่าวว่า สำหรับกระบวนการคัดเลือกโอลิมปิกในประเภทลู่นั้น จะใช้ระบบคะแนนสะสม ซึ่งสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ประกาศออกมาแล้วว่า จะใช้จากการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ เวิลด์ คัพ ปี 2018–2019 ที่ประกาศมาแล้ว 6 สนาม ระหว่างเดือนตุลาคม 2561–มกราคม 2562/การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์โลก 2019 ที่โปแลนด์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2561/การแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่อินโดนีเซีย เดือนมกราคม 2562/การแข่งขันประเภทลู่ เวิลด์ คัพ ปี 2019–2020/ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ประเทศเกาหลีใต้ และการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2020 ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
“อย่างไรก็ตาม ด่านแรกที่ไทยเราต้องเผชิญก็คือ การทำคะแนนสะสมให้ได้สิทธิ์เป็นหนึ่งใน 36 คน ที่จะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานประเภทลู่เวิลด์คัพ 2018-2019 สนามแรกที่จะมีขึ้นที่ฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบัน จาย มีคะแนนสะสม 571 คะแนน อันดับ 69 ของโลก และน่าเสียดายที่การไปได้แชมป์ล่าสุดที่ประเทศจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน จาย ไม่ได้คะแนนสะสมเพิ่ม เนื่องจากมีชาติเข้าร่วม 3 ชาติเท่านั้น"
"ซึ่งจากการตรวจสอบกับคะแนนสะสมล่าสุดของยูซีไอแล้ว จาย มีโอกาสที่จะเป็นหนึ่งใน 36 คน ในศึกคีรินเวิลด์คัพ 2018–2019 แบบฉิวเฉียดมาก ซึ่งก็ต้องลุ้นไม่ให้มีนักกีฬาที่ยังไม่ได้สิทธิ์จากชาติอื่นทำคะแนนแซงจายขึ้นไป เพราะแต่ละชาติจะได้สิทธิ์ในคีรินเพียงชาติละหนึ่งคนเท่านั้น”
นอกจากนี้ พลเอกเดชา กล่าวว่า “สำหรับ จาย นั้น น่าเสียดายที่ในช่วงต้นปี 2561 ไปพลาดท่าล้มได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าหัก ในการแข่งขันที่ฮ่องกงเมื่อเดือนมีนาคม ทำให้ต้องพลาดการเก็บคะแนนไปหลายรายการ และคะแนนสะสมที่มีอยู่ยังไม่ค่อยปลอดภัยนัก ในการได้สิทธิ์เข้าชิงชัยในศึกเวิลด์คัพฤดูกาลนี้ แต่สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อคว้าสิทธิ์ไปโอลิมปิกที่โตเกียวให้ได้ ซึ่ง จาย เองก็มุ่งมั่นที่จะทำให้ได้เช่นกัน”.