หน้าแรกแกลเลอรี่

มัวแต่ละเมอ

เบี้ยหงาย

18 พ.ค. 2561 05:01 น.

เป็นข่าวเล็กๆไปเมื่อวันก่อน ที่คนวงการมวยรุ่นเก๋า “จ่าตุ๊” ทรงพล พงษ์สว่าง ได้ ไปพบเห็นเด็กๆในชุมชน

กลุ่มหนึ่งที่ตำบลมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่พร้อมใจกันฝึกมวยไทย

อย่างตามมีตามเกิด โดยคนในหมู่บ้านสอนกันเอง แม้จะแทบไม่มีอุปกรณ์อะไรเลยเกี่ยวกับมวยไทย ก็ฝึกกันไปตามมีตามเกิด

แน่นอน คนรักมวยและอยู่กับมวยไทยมาเกือบทั้งชีวิตอย่าง “จ่าตุ๊” ย่อมต้องเกิดความรู้สึก และอยากจะช่วยเหลือ จึงกลับมาเล่าสู่เพื่อนฝูงในวงการ

และในความหมายของการช่วยเหลือนั้น ก็ไม่ได้หมายถึงเพียงการที่จะต้องระดมเงินทองเข้าไปให้ หรือขนอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งมีราคาค่างวดไม่น้อย ทุ่มลงไปที่ตรงนั้น

แต่เป็นการอยากที่จะช่วยเติมเต็มจากพื้นฐานของการรักมวยไทยที่มีอยู่เป็นทุนเดิม เพื่อให้มวยไทยเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ใครมีปูนมีอิฐ มีวัสดุอุปกรณ์อะไร ที่พอจะหาได้ ก็หยิบยื่นช่วยเหลือ ผ่านการร่วมมือกับชุมชน

เพื่อให้ชุมชนได้ผูกพันเป็นผู้ดูแลรักษา หากมวยไทยกลายเป็นจุดเชื่อมของชุมชนได้เมื่อไหร่ ประโยชน์ที่เกิดจะมากมายมหาศาล ทั้งในมุมของการเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เยาวชนหลงผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรุนแรง หรือยาเสพติด ทั้งยังต่อยอดไปสู่การเป็นอาชีพ หารายได้เลี้ยงครอบครัวได้ในที่สุด

ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นการ “ช่วย” ที่แท้จริง!

นี่คงเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง เชื่อว่ายังมีหลายชุมชน หลายหมู่บ้าน ในท้องถิ่นต่างๆ ที่มีบรรยากาศเช่นนี้ ซึ่งก็น่าเสียดาย

เมื่อเมืองไทยเรามี “มวยไทย” เป็นกีฬาที่ลงลึกและเข้าถึง แต่กลับไม่ได้ใช้ให้เกิดอรรถประโยชน์สูงสุดต่อสังคมในมิติต่างๆ

เราดี๊ด๊า ฝันหวาน เคลิบเคลิ้ม ด้วยความฝันกับเพียงสิ่งที่อยากพูด อยากได้ยิน หรืออยากรู้สึกว่า มวยไทยจะได้เข้าแข่งในโอลิมปิกเกมส์ ขวนขวายจัดงบ จัดคน จัดทีมล็อบบี้ ออกไปประเทศต่างๆ

ได้พูด ได้สัมภาษณ์ทีไร ดูดีทุกที จนลืมข้อเท็จจริงและมองข้ามสิ่งที่แฝงอยู่

ที่สำคัญ หลงทาง ไม่รู้ว่าประโยชน์จริงๆ

อยู่ตรงไหน!

หรือเพียงได้แค่ชื่อก็ถือเป็นที่สุดแล้ว แต่ส่วนเนื้อๆอยู่ที่ใคร!!!

เอาเวลา เอาทรัพยากร เอางบประมาณ และบุคลากร เข้าไปช่วยสร้างชุมชนมวยไทยในท้องถิ่นต่างๆ ดูแลให้ฟันเฟืองของมวยไทย ไม่ว่าจะเป็นนักมวย ค่ายมวย โปรโมเตอร์ และสนามมวย รวมถึงคนดูมวย ที่นับวันจะอ่อนเปลี้ยดิ้นหนีตายกันอยู่ ให้ลุกขึ้นยืนยันได้อย่างแข็งแกร่ง สนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเป็นธรรม

วางระเบียบกติกาที่ชัดเจนเป็นมาตรฐาน

เรามีเครือข่ายมวยไทยอยู่ทั่วโลก มีทั้งสถาบันมวยไทยเราเองที่นานาชาติสังกัดอยู่ และยังมีสถาบันโลกที่รับรองมวยไทยอย่างเป็นทางการอย่าง สภามวยโลก (WBC) และ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ใช้ประโยชน์เต็มที่หรือยัง
ต้องส่งเสริม ขยายฐาน พัฒนาและยกระดับ สร้างมูลค่าเชิงธุรกิจ

เชื่อมต่อเป็นโครงข่ายสัมพันธ์กัน จากเด็กๆ

ที่ฝึกมวยไทยในท้องถิ่นส่งผ่านสู่อาชีพที่ยั่งยืน ต่อยอดไปถึงการส่งออก “มวยไทย” ในมิติต่างๆ

เรื่องอย่างนี้ไม่ทำ มัวแต่ละเมอเพ้อพก หวังยืมจมูกคนอื่นหายใจกับ มวยไทยเข้าโอลิมปิกอยู่นั่นแหละ....

“เบี้ยหงาย”