ตองเจ
สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์
เปิดโครงการ “สามัคคีสัมพันธ์สานฝันห้องเรียนกีฬา” ครั้งที่ 2 ที่มี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นแม่งานใหญ่ ไปเรียบร้อยแล้ว โดยมีเยาวชนทั่วประเทศกว่า 3,000 คนร่วมกิจกรรม นับเป็นมหกรรมกีฬาที่น่าสนใจ เพราะส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัดล้วนๆ เข้าร่วมถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ดี
ความพิเศษของโครงการนี้ นอกจากเล่นกีฬาแล้วยังมีภาคนอกสนามให้ไปเรียนรู้ศาสตร์พระราชาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมศึกษาดูงาน แหล่งเรียนรู้เปิดโลกทัศน์ อาทิ โครงการชั่งหัวมัน แหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงเรือนจำชั่วคราวเขาหินกลิ้ง ศูนย์การเรียนรู้ห้วยทราย การศึกษาระบบนิเวศอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
นอกจากนี้ บรรดาเยาวชนในโครงการยังมีโอกาสได้พบนักวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย นำโดย กัปตันกิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงค์, ปิยนุช แป้นน้อย, ทัดดาว นึกแจ้ง, วรรณา บัวแก้ว ที่มาพบปะพูดคุย ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนหญิงโครงการได้เป็นอย่างดี
อีกไฮไลต์ของงานนี้คือ ในพิธีเปิด-ปิด ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนที่ร่วมโครงการแสดงพหุวัฒนธรรมสานสัมพันธ์กีฬาไทย หรือพูดง่ายๆว่าให้แสดงวัฒนธรรมบ้านตัวเองเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ของดีในจังหวัดตัวเองให้กับเพื่อนได้รับรู้
จะว่าไปแล้ว โครงการนี้สมดังชื่อ “สามัคคีสัมพันธ์สานฝันห้องเรียนกีฬา” เพราะเยาวชนที่เข้าร่วมต่างก็มีความสุขที่จะได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ต่างโรงเรียน ไม่ใช่แค่เล่นกีฬา และทุกคนมีรอยยิ้มทุกครั้งที่ทำการแสดง จนอาจารย์ฝ่ายการแสดงจากกระทรวงวัฒนธรรมที่ไปช่วยติวต้องตัดยอดผู้สมัครออกเลยทีเดียว เนื่องจากสมัครมาเยอะเกินความคาดหมาย
นับว่าน่าสนใจทีเดียวสำหรับโมเดลนี้ นอกจาก มหกรรมกีฬาของเยาวชนในงานนี้แล้ว ก็ยังไม่ค่อยเห็นมหกรรมกีฬาของเยาวชนอื่นๆสนใจให้ความรู้ ให้ความใส่ใจเรื่องอื่นๆกับเยาวชน
ไม่ว่ากีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬานักเรียนนักศึกษา กีฬาฟุตบอลไพรมินิสเตอร์ ฯลฯ ส่วนใหญ่ก็เน้นแต่ผลแพ้ชนะ โดยลืมคำว่าการทำให้เกิดความสามัคคี บางครั้งพวกเขาเหล่านั้นอาจจะไม่ได้อะไรกลับบ้านไปเลยนอกจากคำด่าและความเสียใจ
หลายคนไม่ไปต่อ หลายคนอาจเลิกเล่น สุดท้ายการได้มีโอกาสมาแข่งกีฬาในระดับประเทศครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ทว่า กลับไม่ได้อะไรที่มีสาระไปให้จดจำมากนัก
บางทีหน่วยงานของรัฐอาจจะต้องมองให้เห็นว่า การให้ความรู้ ให้แรงบันดาลใจกับเยาวชน การสร้างความรักความสามัคคีของเยาวชนทั้งชาติที่มีโอกาสมารวมตัวกัน ทำให้ชาติมั่นคงก้าวหน้ายั่งยืน อาจจะไม่ใช่แค่ต่อสู้บนสังเวียน
แต่การให้ความรู้ ให้แรงบันดาลใจ ให้เรียนรู้ความรักสามัคคี รวมถึงรักท้องถิ่น จะเป็นผลที่ยั่งยืนยิ่งกว่าการต่อสู้แข่งขัน
เราลงทุนไปมากมายเพื่อให้เยาวชนมาแข่งขันกีฬา แต่ดันลืมใส่อาหารสมองให้เยาวชนเข้าไปด้วย
ซึ่งจะมีความจีรังยั่งยืนและให้ประโยชน์แก่ชาติได้มากกว่า.
ตองเจ