หน้าแรกแกลเลอรี่

ครั้งแรกของไทย! อิเดมิตสึจัดศึก วินจยย.แข่งชักกะเย่อ 6 พ.ค.นี้

ไทยรัฐออนไลน์

19 เม.ย. 2561 23:30 น.

“อิเดมิตสึ” จัดศึกแข่งกีฬาชักกะเย่อ “ซ้อนท้ายวินใส่หมวก 100% By IDEMITSU” มอเตอร์ไซค์รับจ้างกว่าพันคน ร่วมชืงเงินแสน 6 พ.ค.นี้ ที่อาคารนิมิบุตร...

วันที่ 19 เม.ย. 61 น้ำมันเครื่อง “อิเดมิตสึ” โดยบริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้นำด้านน้ำมันเครื่องตัวจริงจากประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการตำรวจจราจร, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย เปิดตัวโครงการรณรงค์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ครั้งยิ่งใหญ่ ภายใต้รูปแบบการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ ในโครงการ “ซ้อนท้ายวินใส่หมวก 100% By IDEMITSU” เพื่อร่วมรณรงค์ให้วินมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคแก่ผู้โดยสาร พร้อมลุยจัดการแข่งขันชักกะเย่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างกว่า 1,000 คน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.2 แสนบาท เป็นครั้งแรกของเมืองไทย ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ที่อาคารนิมิบุตร
 
พล.ต.ต. ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า สำหรับการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ ในโครงการ “ซ้อนท้ายวินใส่หมวก 100% By IDEMITSU” เป็นโครงการจัดการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่เป็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาชักกะเย่อให้เป็นที่รู้จักใน ฐานะกีฬาแห่งพลังความสามัคคี ที่มีความคุ้นเคยกับวิถีชีวิตของคนไทยเรามาเป็นเวลานานแล้ว นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสอันดีในการร่วมกันรณรงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกในการขับขี่ และโดยสารรถจักรยานยนต์ให้เกิดความปลอดภัย ด้วยการสวมหมวกกันน็อคทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ตลอดจนผู้ร่วมใช้เส้นทางอีกด้วย ซึ่งโครงการฯครั้งนี้เกิดจากจากการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการตำรวจจราจร, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทย, และหน่วยงานผู้สนับสนุนหลักจากภาคเอกชนคือ บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด
 
ด้านนายสุชาติ แจสุรภาพ อุปนายกสมาคมชักกะเย่อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในนามของสมาคมชักกะเย่อแห่งประเทศไทย มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันผลักดันให้กีฬาชักกะเย่อสากล ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะหน่วยงานภาคเอกชน บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ที่สนับสนุนและสร้างโอกาสอันดีให้แก่เยาวชนไทย จนสามารถไปสร้างผลงานและก่อให้เกิดชื่อเสียงอันดีแก่ประเทศไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ในเวทีระดับโลกได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจสำคัญของสมาคมฯที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับกติกาที่ใช้ในการแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นไปตามกติกาการแข่งขันของสหพันธ์กีฬาชักกะเย่อโลก (TWIF) โดยนำมาปรับแก้กติกาบางประการให้เหมาะสมกับผู้แข่งขันที่เป็นทีมมอเตอร์ไซค์รับจ้างมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย (1) จำนวนผู้เล่นในสนามจำนวน 8 คน/ทีม สำรองอีก 2 คน (2) น้ำหนักรวม 8 คน ต้องไม่เกิน 640 กิโลกรัม หรือเฉลี่ยคนละ 80 กิโลกรัม (3) ระยะการดึงตามกติกาแพ้ชนะที่ระยะ 4 เมตร (4) การแบ่งสายการแข่งขันจะเหมือนกีฬาฟุตบอล มีการนับคะแนนเข้ารอบ แบ่งเป็นสายละ 4 ทีม พบกันในแต่ละสายจนครบ (5) ในการแข่งขันรอบ 2 จนถึงรอบชิงชนะเลิศ จะเป็นการแข่งขันแบบชนะ 2 ใน 3 ด้านอุปกรณ์ที่ใช้การแข่งขัน เราจะใช้ลู่ยางที่ใช้ในการแข่งขันจริงๆ และอนุญาตให้ผู้ที่เข้าแข่งขันใช้รองเท้าผ้าใบพื้นเรียบ ตลอดจนอนุญาตให้ใช้ถุงมือแบบปลายนิ้วโผล่ แบบที่ใช้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพื่อลดอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดจากการแข่งขันได้
 
ขณะที่ ดร.ภาวัต กัลล์ประวิทธ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท น้ำมันอพอลโล (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น “IDEMITSU” (อิเดมิตสึ) “DAPHNE” (ดาฟเน) ผู้นำด้านน้ำมันเครื่องตัวจริงจากประเทศญี่ปุ่น และผู้สนับสนุนหลักในการจัดการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อ โครงการ “ซ้อนท้ายวินใส่หมวก 100% By IDEMITSU” ในครั้งนี้ กล่าวว่า บริษัทน้ำมันอพอลโล (ไทย) อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานร่วม 5 ทศวรรษ เราอยู่เคียงข้างทุกการเดินทางของคนไทยมาโดยตลอด ดังนั้น เราจึงมีความยินดีที่จะนำร่องให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาชักกะเย่อเพื่อวิน มอเตอร์ไซค์อย่างเป็นทางการขึ้นเป็นปีแรกในปีนี้ เนื่องจากบริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม และต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ขับขี่บนท้องถนนหลักกลุ่มใหญ่ในทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนผู้โดยสารของทุกวินได้สวมหมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัย อีกทั้งยังได้ร่วมส่งเสริมการเล่นกีฬาชักกะเย่อที่ถูกวิธี อันเป็นการสร้างความรักความสามัคคีต่อกันในกลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นจำนวนกว่า 1,000 คนด้วย เราจึงรู้สึกเป็นเกียรติให้เกิดการจัดการแข่งขันรายการนี้ขึ้นมาเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

“สำหรับเหตุผลที่เลือกเอากีฬาชักกะเย่อมาจัดการแข่งขันครั้งนี้ เพราะเราเล็งเห็นว่าสมาคมกีฬาชักกะเย่อแห่งประเทศไทยเป็นองค์กรที่มีความมุ่งมั่น และตั้งใจพัฒนาให้กีฬาชักกะเย่อในประเทศไทย มีระบบการจัดการและพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเยาวชนขึ้นสู่ชุดใหญ่ รวมถึงก้าวขึ้นสู่ระดับทีมชาติอย่างมีคุณภาพ ประกอบกับกีฬาชักกะเย่อเป็นประเภทกีฬาที่มีโอกาสในการพัฒนาและยกระดับไปสู่แถวหน้าของทวีปเอเชียได้ เราจึงต้องการเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้วงการกีฬาชักกะเย่อไทยก้าวไปสู่จุดนั้น โดยก่อนหน้านี้ทางอิเดมิตสึได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยของสมาคมชักกะเย่อในการเดิน ทางไปแข่งขันที่ประเทศจีนในโครงการอิเดมิตสึ ส่งแรงใจเชียร์ชักกะเย่อไทยสู่แชมป์โลก ตลอดจนร่วมสนับสนุนชุดการแข่งขันอย่างเป็นทางการของทางสมาคมฯ ด้วย นอกจากนี้ กีฬาชักกะเย่อยังเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะและความร่วมมือของคนในทีม จึงเหมาะสมที่จะใช้กีฬาประเภทนี้ในการสร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้น โดยเริ่มจากจุดเล็กๆ ของสังคม อย่างกลุ่มผู้ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เราเลือกมาเป็นพระเอกหลักของงานนี้ ให้เป็นหนึ่งในกระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ถึงความสำคัญของการสวมหมวก นิรภัยได้อย่างต่อเนื่องผ่านเกมกีฬาอีกด้วย”
 
ทั้งนี้ การแข่งขันชักกะเย่อมอเตอร์ไซค์ โครงการ “ซ้อนท้ายวินใส่หมวก 100% By IDEMITSU” จะเป็นการแข่งขันระหว่างวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากทั่วกรุงเทพมหานคร รวมกว่า 100 ทีม มีตัวแทนมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากวินต่างๆ มาร่วมกิจกรรมรวมทั้งหมดกว่า 1,000 คน ซึ่งการแข่งขันมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 6 พฤษภาคม 2561 ที่อาคารนิมิบุตร เพื่อร่วมชิงรางวัลกว่า 100,000 บาท ได้แก่ ทีมชนะเลิศ รับเงินรางวัล 30,000 บาท พร้อมถ้วยและเหรียญรางวัล ทีมชนะเลิศรองอันดับ 1 รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมถ้วยและเหรียญรางวัล และทีมชนะเลิศรองอันดับ 2 รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยและเหรียญรางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัล Lucky draw สำหรับจับรางวัลแจกผู้ที่เข้าร่วมงานอีกมากมาย อาทิ รางวัลที่ 1 รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110i จำนวน 1 รางวัล รางวัลที่ 2 สร้อยคอทองคำ 1 สลึง จำนวน 4 รางวัล รางวัลที่ 3 LCD TV 32 นิ้ว จำนวน 2 รางวัล รางวัลที่ 4 โทรศัพท์ Samsung Galaxy J7 core จำนวน 2 รางวัล และของรางวัลอภินันทนาการอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท