หน้าแรกแกลเลอรี่

แบดโธมัส-อูเบอร์คัพ ไทยจัดใหญ่ไม่แพ้ใคร

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

1 เม.ย. 2561 05:01 น.

นับจากนี้ไปเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนเศษเท่านั้น ประเทศไทยโดยสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่มีคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เป็นนายกสมาคมฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของวงการตบลูกขนไก่ไทย

ในการแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชิงแชมป์โลก ทีมชาย “โธมัส คัพ” และทีมหญิง “อูเบอร์ คัพ” รอบไฟนอลส์ (TOTAL BWF Thomas & Uber Cup Finals 2018) ระหว่างวันที่ 20–27 พ.ค.นี้ ที่อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี

สำหรับเหตุผลที่ต้องบอกว่าแบดมินตันรายการนี้ มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์และเกียรติยศที่นักกีฬาทุกคนไขว่คว้า เป็นสุดยอดของรายการชิงแชมป์โลกในประเภททีม ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในไทย เป็นครั้งแรกในอีกไม่ช้า

ในส่วนประวัติการแข่งขันประเภททีมชายชิงแชมป์โลก เริ่มขึ้นก่อนในปี 1949 โดยก่อนหน้านั้น ปี 1939 เซอร์จอร์จ โธมัส ประธานคนแรกของสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ ต้องการส่งเสริมกีฬานี้ อย่างจริงจัง จึงได้มอบถ้วยรางวัลชนะเลิศให้ทีมแชมป์

เป็นถ้วยทอง ราคา 5,000 ปอนด์ ซึ่งการแข่งขันก็มีมาอย่างต่อเนื่อง ถึงวันนี้ก็ผ่านมา 69 ปี จนกลายเป็นรายการแข่งขันที่มีอายุยืนนาน มีมนต์ขลัง

ขณะที่ฝ่ายหญิงแม้จะเริ่มการแข่งขันหลังจากทีมชาย ในปี 1957 ด้วย เบ็ตตี้ อูเบอร์ หรือ เอช.เอส อูเบอร์ นักตบลูกขนไก่หญิงยอดเยี่ยมของอังกฤษ ได้มอบถ้วยรางวัลชนะเลิศสำหรับนักกีฬาหญิงของสหพันธ์ฯ เพื่อเป็นรางวัลให้ทีมแชมป์ เมื่อปี 1955 แต่เสน่ห์ของการแข่งขันก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ถึงเวลานี้การชิงชัยเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาเป็นปีที่ 61 เข้าให้แล้ว

คุณหญิงปัทมาในฐานะประธานจัดการแข่งขัน กล่าวว่า ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของวงการ แบดมินตันไทย เพราะเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ และเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จัดการแข่งขัน นับตั้งแต่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2010

“สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยศักยภาพ มีบุคลากรที่มากด้วย ความสามารถมากมาย ได้เตรียมงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการแข่งขันครั้งนี้ให้ยิ่งใหญ่ที่สุด สร้างความประทับใจให้กับทุก ๆชาติที่จะเดินทางมา” คุณหญิงปัทมากล่าว

นอกจากการเตรียมงานที่เดินหน้าไปอย่างไม่มีปัญหาแล้ว อีกสีสันที่น่าสนใจ เป็นมาสคอตประจำการแข่งขัน ซึ่งเป็น “ช้าง” ชื่อ “น้องไอยรา” (Nong Iyara) นุ่งโจงกระเบนลวดลายโลโก้การแข่งขัน โดยช้างมีความหมายถึงความโชคดี ความรุ่งเรือง และความอดทน ซึ่งทั้ง 3 คุณลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่คณะกรรมการจัดงาน ต้องการอวยพรให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ทุกคน

ส่วนการแข่งขัน ได้มีการจับสลากแบ่งกลุ่มไปแล้ว ผลปรากฏว่า ทีมชายโธมัสคัพ หนุ่มไทย อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ “รองแชมป์เก่า” อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, แคนาดา ส่วนกลุ่มเอ มี จีน, อินเดีย, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, กลุ่มซี ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เยอรมนี, ฮ่องกง และกลุ่มดี “แชมป์เก่า” เดนมาร์ก, มาเลเซีย, รัสเซีย, แอลจีเรีย

ขณะที่ ทีมหญิง อูเบอร์ คัพ สาวไทย ที่นำทีมโดย “เมย์” รัชนก อินทนนท์ และ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ อยู่กลุ่มบี ร่วมกับ ไต้หวัน, เยอรมนี, ฮ่องกง ส่วนกลุ่มเอ “รองแชมป์เก่า” ญี่ปุ่น, อินเดีย, แคนาดา, ออสเตรเลีย, กลุ่มซี เกาหลีใต้, เดนมาร์ก, รัสเซีย, มอริเชียส และกลุ่มดี “แชมป์เก่า” จีน, อินโดนีเซีย, ฝรั่งเศส, มาเลเซีย

คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า สมาคมตั้งเป้าในเบื้องต้นให้ทีมชาย ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วนทีมหญิง มั่นใจว่า จะสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นอย่างน้อย แต่จากการวิเคราะห์วิจารณ์ของผู้เชี่ยวชาญในวงการกีฬาแบดมินตัน ทีมหญิงของไทยน่าจะมีโอกาสเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้

สถิติที่ผ่านมาในโธมัสคัพ ทีมหนุ่มไทย เคยทำผลงานดีที่สุด คือ การคว้ารองแชมป์ ในปี 1961 ส่วนชาติที่ได้แชมป์ไปครองมากที่สุด เป็น อินโดนีเซีย 13 สมัย รองลงมา จีน 9 สมัย มาเลเซีย 5 สมัย และเกาหลีใต้ 1 สมัย ขณะที่อูเบอร์คัพ ทีมสาวไทย ทำผลงานดีที่สุด กับการคว้าอันดับ 3 ร่วม เมื่อปี 2012 โดยมีจีน ได้แชมป์ไปครองมากที่สุด 14 สมัย รองลงมา ญี่ปุ่น 5 สมัย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา 3 สมัย และเกาหลีใต้ 1 สมัย

แฟนกีฬาเตรียมให้กำลังใจนักตบลูกขนไก่ไทย ทั้งทีมชายและทีมหญิงกันได้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้แล้ว ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ www.thaiticketmajor.com  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในราคา 200, 300, 500, 700, 800, 1,200, 1,500, 2,000 และ 2,500 บาท บัตร 1 ใบ สามารถเข้าชมได้ทุกรอบในวันที่ระบุในบัตร

ก้าวเดินไปด้วยกัน นักกีฬาสู้สุดใจ แฟนกีฬาก็อย่าได้น้อยหน้า ส่งกำลังใจกันให้มากๆ เพื่อให้ผลงานทีมไทยแลนด์ ขยับไปสู่เป้าหมายที่วางไว้อันจะช่วยสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับประเทศของเรา

ถ้าทุกฝ่ายจับมือร่วมกัน จะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ไทยไม่มีทางแพ้ใคร

ไม่แพ้ชาติใดในโลกนี้แน่นอน...

กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง