หน้าแรกแกลเลอรี่

'จุตินันท์' เชื่อไทยครองเจ้าเหรียญทอง อาเซียนพาราเกมส์อีกสมัย

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

2 ก.ย. 2560 10:30 น.

กัญจนา ศิลปอาชา ประธานมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย มอบเงิน 8.6 แสนบาท หนุนทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย สู้ศึกกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 17-23 กันยายนนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แนะสู้ให้เต็มที่ เมินทุกอุปสรรค เชื่อมั่นทำได้แน่นอน ด้าน “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ประกาศกร้าว ทัพนักกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ของไทยพร้อมเต็มพิกัด ตั้งเป้าคว้าเจ้าเหรียญทองมาครองให้ได้อีกสมัย อย่างไรก็ตาม หวั่นเจ้าภาพเล็กน้อยเรื่องการตรวจคลาส แต่ยังเชื่อมั่นทัพนักกีฬาทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ที่กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมมหกรรมการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งอาเซียน “อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9" ระหว่างวันที่ 17-23 กันยายน 2560 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

“บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความพร้อม สำหรับความพร้อมของนักกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ในช่วงเวลานี้ ต้องบอกว่าเรามีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะเราได้มีการเตรียมตัวฝึกซ้อมกันมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และที่สำคัญคือเราไม่ได้เพียงแค่เตรียมตัวเพื่อการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ที่มาเลเซีย เพียงอย่างเดียว แต่เราเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนพาราเกมส์ ที่อินโดนีเซียในปีหน้า ร่วมถึงในแผนระยะยาวการแข่งพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยต้องบอกว่านักกีฬาพาราของเรามีความพร้อมทั้งกายและใจที่จะออกไปสู้ศึกในครั้งนี้

“ส่วนเรื่องของเจ้าภาพนั้นที่เราได้เห็นมาในช่วงแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ปัญหาที่เราหวั่นใจที่สุดคือเรื่องการตรวจคลาส แต่อย่างไรก็ดี ตนเชื่อมั่นว่าด้วยการที่เรามีพลตรีโอสถ ภาวิไล เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานพาราลิมปิกแห่งอาเซียนอยู่ในเวลานี้ ทำให้เราได้อุ่นใจจากทางเจ้าภาพได้บ้าง และที่สำคัญในครั้งนี้เราได้บุคลากรจากโรงพยาบาลพระมุงกฎฯซึ่งถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความพิการของนักกีฬา จึงทำให้คิดว่าครั้งนี้จะไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับการตรวจคลาสมากนัก”

ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทยกล่าวต่อว่า “ส่วนเรื่องเป้าหมายเรายังตั้งเป้าจะครองเจ้าเหรียญทอง แต่จะให้ตอบว่าได้กี่เหรียญคงตอบไม่ได้ ต้องยอมรับว่าเจ้าภาพอย่างมาเลเซียเองก็หวังที่จะทำผลงานให้ดีเช่นกัน ส่วนชาติอื่นๆทั้งเวียดนามและอินโดนีเซียก็พัฒนาฝีมือขึ้นมามาก แต่ทั้งนี้เรามั่นใจว่าหากวัดกันด้วยกีฬาสากล เชื่อว่าเราจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป้าหมายที่แท้จริงของเราคือพาราลิมปิกเกมส์ เรามองว่าอาเซียนพาราเกมส์คือเวลาอุ่นเครื่องและเวทีพัฒนานักกีฬาหน้าใหม่มากกว่า แต่ในครั้งนี้นักกีฬาเราพร้อมที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่อย่าง แน่นอน”

สำหรับจำนวนนักกีฬาพาราทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่9 ระหว่างวันที่ 17-23 กันยายน 2560 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีจำนวนทั้งสิ้น 328 คน แบ่งเป็น กรีฑา 75 คน, ว่ายน้ำ 55 คน, ยิงธนู 12 คน,แบดมินตัน 20 คน, เทเบิลเทนนิส 30 คน, วีลแชร์เทนนิส 13คน, ยกน้ำหนัก 19 คน, วอลเลย์บอล (นั่ง) 12 คน, วีลแชร์บาสเกตบอล 15 คน, โกลบอล 12 คน, บอคเซีย11คน, ฟุตบอล 7 คน 19 คน, โบว์ลิ่ง 17 คน, หมากรุก6คน และฟุตบอล 5 คน 12 คน โดยผลงานในครั้งที่ผ่านมา อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 8 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 2558 ทัพนักกีฬาครองเจ้าเหรียญทองจากผลงาน 95 ทอง 76 เงิน 79 ทองแดง

และล่าสุดเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา ที่พรรคชาติไทยพัฒนา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานมูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย ให้การต้อนรับคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ผู้ฝึกสอน และคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 433 คนก่อนจะเดินทางไปร่วมแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราลิมปิก ครั้งที่ 9 ระหว่างวันที่ 17-23 ก.ย.นี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พร้อมกับมอบเงินสนับสนุนจากมูลนิธิรวมจำนวน 866,000 บาท ให้แก่ทัพนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทั้ง 433 คน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

น.ส.กัญจนาได้กล่าวอวยพรแก่ทัพนักกีฬาว่า ทราบว่าการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมามีอุปสรรคค่อนข้างมาก แต่ก็ขอให้น้อมรับด้วยใจ เพราะปัญหาและอุปสรรคเราสามารถเอาชนะได้ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน ขอให้ตั้งสติให้ดี ทำให้ดีที่สุด ซึ่งขอส่งกำลังใจไปช่วยเป็นพิเศษ และถ้านายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ยังมีชีวิตอยู่ ก็คงส่งกำลังใจให้ทีมนักกีฬาเหมือนเคย

“ขอชื่นชมน้ำใจนักกีฬาคนพิการทุกคน ที่ทำชื่อเสียงได้ทุกครั้ง สามารถนำเพลงชาติไทยเข้าสู่สนามได้หลายสนาม เราไม่เคยน้อยหน้าใครและทำได้ดีกว่าคนปกติ คนอื่นทำได้ก็ไม่ภูมิใจเท่าที่ท่านได้ทำ เพราะท่านใช้ความพยายาม ความมานะ อดทน มุ่งมั่น ซึ่งยังภูมิใจแทนว่าเก่งมาก ขนาดตนที่มีครบสมบูรณ์ทั้ง 32 ประการ ก็ยังไม่สามารถทำได้เท่าที่พี่น้องทุกคนทำ จึงขอให้พยายามทำให้ดีที่สุด ขอให้ทำเต็มที่ มุ่งมั่นและตั้งสติ” น.ส.กัญจนา กล่าวในตอนท้าย