ฝันดีที่ดูไบ

จากนั้นจะเข้าสู่โปรแกรมเตะเพลย์ออฟ 2 นัด กับทีมชาติอิรัก นัดแรก 20 พ.ค. เวลาไทย 16.00 น. และนัด 2 วันที่ 25 พ.ค. เวลาไทย 18.00 น. ที่สนามคอรฟาคาน อินดอร์ อารีน่า เมืองชาร์จาห์

น่าเสียดายที่ศึกใหญ่กับอิรักในคราวนี้ ไม่มี “เทพอาร์ม” ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง บินมาช่วยชาติ เพราะเจ้าตัวติดภารกิจรับใช้นาโงยา โอเชียนส์ ในลีกฟุตซอลของญี่ปุ่น

แต่เชื่อว่าผู้เล่นที่เหลืออีก 14 คน จะสามารถ หักด่านเข้ารอบไปลิทัวเนียได้ในที่สุด

ส่วนเรื่องการถ่ายทอดสดกลับมาให้แฟนฟุตซอลชาวไทยได้ลุ้นเชียร์ ยังต้องรอการยืนยันอีกครั้งว่าทางยูเออี หรืออิรัก มีสัญญาณยิงสดหรือไม่

ถ้าไม่มีเราก็พร้อมขออนุญาตทางเอเอฟซี ถ่ายกลับมาทางช่องทางโซเชียลให้ดูกัน

พูดถึงการเพลย์ออฟหนนี้ โชคดีที่ทีม โต๊ะเล็กไทยได้มาเล่นสนามกลางที่นครดูไบอีกครั้ง

เพราะถ้าใครจำได้ ย้อนหลังไปเมื่อปี 2012 หรือเมื่อ 9 ปีก่อน แข้งฟุตซอลช้างศึก ก็เคยมาสร้างผลงานระบือลือลั่นเอาไว้ในศึกฟุตซอลชิงแชมป์เอเชียที่ยูเออีนี่แหละ!!

แข้งโต๊ะเล็กไทยแลนด์ชุดนั้น จัดว่าแข็งโป๊ก เป็นแถวหน้าของเอเชียเลยก็ว่าได้

พวกเขามีกุนซือชาวฮอลแลนด์ อย่าง วิคเตอร์ เฮอร์มัน คุมทัพ และมี “บิ๊กแป๊ะ” ถิรชัย วุฒิธรรม พหูสูตกีฬาเมืองไทยเป็นผู้จัดการทีม

ขณะที่ผึ้งงาน (ตัวจริง) ที่ดูแลนักเตะ ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ คือ “เสี่ยเซฟ” สุทธิพันธ์ วรรณวินเวศร์ ซึ่งทำหน้าที่ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม

ทัพฟุตซอลช้างศึก ฝากผลงานบนแผ่นดิน ยูเออีไว้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง เมื่อสามารถทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

โดยรอบแรก ไทย เอาชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 ก่อนถล่มเติร์กเมนิสถาน 5-1 และคว้าชัย เหนือเจ้าภาพ ยูเออี 4-2 ก่อนที่รอบ 8 ทีม จะมา เฆี่ยนเลบานอน 5-3

จนมาถึง รอบรองชนะเลิศ ที่ถือเป็นสุดยอด ไฮไลต์ของทีมไทยในทัวร์นาเมนต์นี้ เมื่อพวกเขา ต้องโคจรมาพบกับมหาอำนาจฟุตซอลเอเชีย อย่าง อิหร่าน

เกมบู๊สะบั้นหั่นแหลก สู้กันสนุกจนเสมอกัน ในเวลา 3–3 ต้องดวลกันช่วงต่อเวลาพิเศษ และแข้งไทยสามารถเบียดเอาชนะไปได้อย่าง สุดมัน 5-4

ผ่านเข้าไปชิงกับญี่ปุ่น ก่อนจะพ่ายไปขาดลอย 1-6 จบด้วยตำแหน่งรองแชมป์เอเชีย ที่ยังอยู่ใน ความทรงจำของใครหลายคนมาจนถึงปัจจุบัน

เรียกว่าเป็นโมเมนต์ “ฝันดีที่ดูไบ” ซึ่งแฟน กีฬาชาวไทยอยากจะเห็นอีกครั้ง

ใน 2 แมตช์เพลย์ออฟกับอิรักคราวนี้!!!

บี บางปะกง