หน้าแรกแกลเลอรี่

เรียงหน้าชน : ความหวังใหม่

โจโจ้

12 มี.ค. 2563 05:01 น.

เริ่มใจชื้นขึ้นมาได้อีกนิดหลังประเทศจีนที่เป็นต้นเหตุของ “ไวรัสโควิด-19” กำลังเร่งคิดค้นวัคซีนเพื่อรักษาเชื้อไวรัสมรณะ โดยจะเริ่มทดลองใช้ ในเดือน เม.ย.นี้ ก็ ได้แต่หวังขอให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ที่แน่ๆ ช่วงนี้เราควรป้องกันเอาไว้ก่อนเป็นการดีที่สุด

สมหวังกันไปสำหรับมวยสากลโอลิมปิกเกมส์รอบคัดเลือกโซนเอเชีย/โอเชียเนีย หลังทีมหมัดไทยช่วยกันเก็บโควตามาได้ตามที่ต้องการ ต่อจากนี้ถือเป็นการบ้านข้อใหญ่ที่ต้องเร่งทำก่อนจะไปถึงศึกโตเกียวเกมส์ 2020 ที่จะมีขึ้นในเดือน ก.ค.-ส.ค.

ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากทัวร์นาเมนต์คัดเลกแรกคงจะรู้ว่าใครขาดหรือต้องแก้ไขตรงจุดไหนเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายเหรียญทองโตเกียวเกมส์

แต่ที่น่าดีใจคือในจำนวนนักมวยที่ได้โควตาหลายคนเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาจากเยาวชน ไม่ว่า “เจ้าเหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด รวมถึง ใบสน มณีก้อน ทั้ง 2 คนนี้ถือเป็นเจเนอเรชันใหม่ที่น่าติดตาม

ปกตินักมวยเยาวชนการจะก้าวขึ้นมาติดชุดใหญ่ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ประสบความสำเร็จในเกมใหญ่อย่างโอลิมปิกเกมส์ถือว่าไม่ธรรมดา เรียกง่ายๆ กระดูกคนละเบอร์ยังไงก็เทียบกันไม่ได้

วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะเรื่องการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วยและแบบฝึก รวมถึงแนวคิดยุคใหม่จึงทำให้ทุกอย่างมีการพัฒนามากขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

โดยเฉพาะ “เจ้าเหลิม” ที่น่าจะชัดเจนที่สุด ด้วยผลงานในการคัดเลกแรกที่จอร์แดนด้วยการปราบตัวเต็งๆมาหมดทั้งอุซเบกิสถาน แชมป์โลกและเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ที่ริโอ รวมถึงเกาหลีใต้

จนทำให้เวลานี้ชื่อของ “ธิติสรรค์ ปั้นโหมด” เป็นที่กล่าวขานกันมาในวงการมวยเสื้อกล้าม ในแต่ละวันจะมีชาติต่างๆมาถามตลอดถึงเรื่องอายุ ว่า “19 ปีจริงหรือ นี่เป็นโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกจริงหรือ”

เพราะหลายชาติสงสัยและทึ่งในฝีมือจากนักชกเยาวชนแต่ทำไมสู้กับนักชกที่มีดีกรีและผ่านเกมระดับโลกอย่างโชกโชนอย่างไม่เกรงกลัว แถมยังเผด็จศึกเสียราบคาบอีกด้วย

บอกได้เลยว่าชั่วโมงนี้ชื่อของ “เจ้าเหลิม” ติดทำเนียบระดับโลกของวงการมวยเสื้อกล้ามไปแล้ว โดยเฉพาะในโอลิมปิกเกมส์ 2020 จะเป็นที่จับตาของหลายชาติแน่นอน

จากนักมวยธรรมดาจากโรงเรียนกีฬาพิษณุโลก ก่อนส่งต่อมายังอะคาเดมีศูนย์ฝึกมวยโรงเรียนกีฬาโคราชในการเพาะบ่มวิชาจนกล้าแกร่ง

ที่สำคัญจะเป็นอีกหนึ่งความหวังเหรียญทองในโตเกียวเกมส์หนนี้

ทำให้อดนึกถึง “วิจารณ์ พลฤทธิ์” เหรียญทองโอลิมปิกคนที่ 2 ของไทย ที่คราวนั้นวิจารณ์ ก็เป็นเพียงม้านอกสายตา ที่หลายคนมองข้าม ด้วยเพราะขึ้นมาชกมวยสากลได้ไม่นานประสบการณ์ก็น้อย

ใครจะรู้ว่าม้านอกสายตาอย่าง “วิจารณ์” จะกลายมาเป็นทีเด็ดคว้าเหรียญทองในซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ในปี 1999 ที่ประเทศบรูไน มิเท่านั้นปีถัดมา วิจารณ์ก็สร้างเซอร์ไพรส์กับเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 2000 ที่ซิดนีย์อีกครั้ง

อย่างว่าทั้งหมดไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เหนือสิ่งอื่นใดคือความตั้งใจและความทุ่มเทในการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ส่วนเรื่องโชควาสนา เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนช่วยให้ถึงฝั่งฝันเร็วขึ้น

วันนี้สมาคมมวยถือว่าผ่านด่านทดสอบแรกในการคัดเลกแรกไปแล้ว แน่นอนเมื่อมีสมหวังก็ต้องมีผิดหวังเป็นธรรมดา

สำหรับคนที่พลาดหวังในเลกแรกก็คงต้องไปลุ้นกันในเลกสุดท้าย ที่ต้องบอกว่าไม่ง่ายแน่นอน แม้ตัวเต็งจะพาเหรดคว้าตั๋วไปแล้วก็ตาม แต่ที่เหลือก็ถือว่าไม่ธรรมดา แถมต้องเจอกับนักชกทั่วโลกไม่ใช่แค่เอเชียเท่านั้น

ส่วนสุดท้ายใครจะไปถึงเป้าหมายใหญ่เหรียญทองโตเกียวเกมส์คงต้องจับตาและเป็นกำลังใจ เพราะนั่นหมายถึงความสำเร็จของคนไทยทั้งประเทศ.

โจโจ้