ไล่ล่าขบวนการล้มมวย

เคยได้ยินมานาน เรื่องจ้างล้มมวยหวังเงินพนัน แต่จับไม่ค่อยได้ ไล่ไม่ค่อยทัน?

ช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานตำรวจที่เป็นหัวหอกด้านการสืบสวน 2 หน่วย ทั้ง กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน (บก.สส.บช.น.) ลุยจับทั้งนักมวยที่ทรยศอาชีพตัวเอง และเซียนพนันคนจ้าง

ที่เปรียบเหมือนปลิงที่คอยสูบเลือดวงการมวยไทย?!

คดีแรกเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ชุดสืบสวนกองปราบปรามตามลากคอ นายธนภัท ธัญธนพัด เซียนมวยแสบได้บริเวณด้านหน้า สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

หลังถูกศาลอาญาใต้ออกหมายจับข้อหาจ้าง นายณัฐพล ผาหยาด หรือ “อ๊อฟไซด์ สจ.วิชิตแปดริ้ว” ล้มมวยที่เวทีราชดำเนิน หลังถูกคู่ชกแตะแขนแต่ดันนอนให้กรรมการนับสิบแพ้ไปซะอย่างนั้น!

ร้อนถึงเจ้าของค่าย สจ.วิชิตแปดริ้ว เรียกนักมวยของตัวเองมาสอบเครียด จนรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายธนภัท เป็นเงิน 1.5 แสนบาท

แถมจ่ายเงินมัดจำ 2 หมื่นบาทด้วยการโอนเงินเข้าบัญชี ที่ถือเป็นหลักฐานสำคัญนำไปสู่การออกหมายจับ!

หลังคดีแรกเพียง 10 วัน ชุดสืบสวนนครบาลตามจับกุม นายเอกลักษณ์ ชุมทอง หรือ “ร้อยเชิง สิงห์มาวิน” นักมวยดังที่ถูกเจ้าของค่ายแจ้งความจับเองเพราะล้มมวยเหมือนกัน!

หลังเข้ามอบตัวยอมเปิดปากรับสารภาพว่า นายวรพันธ์ รัตน์สิรสมโภช หรือ “เซียนเอก” เซียนมวยชื่อดังว่าจ้างด้วยเงิน 6 หมื่นบาท

คดีนี้ซับซ้อนกว่า เพราะตำรวจสืบสวนพบว่า ก่อนเกิดเหตุเซียนเอกผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี วางแผนฝากนักมวยของตัวเองมาซ้อมที่ค่ายสิงห์มาวิน และให้นักมวยคนนี้แหละเป็นนกต่อคอยเจรจาว่าจ้างล้มมวย

เรียกว่าทำเป็นขบวนการเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเป็นที่รู้กันว่า การพนันกับสนามมวยมีเงินหมุนเวียนสูง คู่นึงอย่างน้อยหลักล้านบาท!

ใครรู้ผลการชกก่อน มีแต่รวยกับรวย?

นี่สืบนครบาลก็ประกาศแล้วว่า เร็วๆนี้จะจับเซียนมวยอีก แสดงว่าขบวนการล้มมวยมันฝังรากลึก อยากให้สืบสวนจับกุมทั้งขบวนการ กวาดล้างสิ้นซาก

จะได้เข็ดหลาบ ก่อนที่วงการศิลปะแม่ไม้มวยไทยจะเสื่อมไปมากกว่านี้?

สหบาท