ไทยรัฐออนไลน์
7 นัดหลังสุดที่แอนฟิลด์ในรอบน็อกเอาต์ของ UCL ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น
วันที่ 12 มี.ค. 68 แอนฟิลด์เคยเป็นสนามที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “นรกทีมเยือน” ในเวทียุโรป โดยเฉพาะในค่ำคืนของศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันกดดันจากเหล่าเดอะค็อป แต่ดูเหมือนว่าเสน่ห์นั้นจะเริ่มจางหายไปในช่วงหลัง หลังจาก ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะคู่แข่งในรอบน็อกเอาต์ของ UCL ที่บ้านตัวเองได้เพียง 1 นัดจาก 7 เกมหลังสุด
ย้อนกลับไปดูสถิติเหล่านี้จะเห็นว่าลิเวอร์พูลเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อเล่นที่แอนฟิลด์ในรอบน็อกเอาต์ของแชมเปียนส์ลีก
• ฤดูกาล 2019/20 รอบ 16 ทีม นัดที่สอง: แพ้ แอตเลติโก มาดริด 2-3 (ตกรอบ, สกอร์รวม 2-4)
• ฤดูกาล 2020/21 รอบ 8 ทีม นัดที่สอง: เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 (ตกรอบ, สกอร์รวม 1-3)
• ฤดูกาล 2021/22 รอบ 16 ทีม นัดที่สอง: แพ้ อินเตอร์ มิลาน 0-1 (เข้ารอบ, สกอร์รวม 2-1)
• ฤดูกาล 2021/22 รอบ 8 ทีม นัดที่สอง: เสมอ เบนฟิก้า 3-3 (เข้ารอบ, สกอร์รวม 6-4)
• ฤดูกาล 2021/22 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก: ชนะ บียาร์เรอัล 2-0 (เข้าชิง, สกอร์รวม 5-2)
• ฤดูกาล 2022/23 รอบ 16 ทีม นัดแรก: แพ้ เรอัล มาดริด 2-5 (ตกรอบ, สกอร์รวม 2-6)
• ฤดูกาล 2024/25 รอบ 16 ทีม นัดที่สอง: แพ้ เปแอสเช 0-1 (ตกรอบ, สกอร์รวม 1-1, แพ้จุดโทษ 1-4)
จาก 7 นัดหลังสุดที่แอนฟิลด์ในรอบน็อกเอาต์ของ UCL ลิเวอร์พูลสามารถคว้าชัยชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้น นั่นคือการชนะบียาร์เรอัล 2-0 ในรอบรองชนะเลิศปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่ทีมกำลังอยู่ในฟอร์มที่แข็งแกร่ง
น่าสนใจว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ “แอนฟิลด์ เอฟเฟกต์” ในเกมยุโรปเริ่มลดลงไป อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของทีม, รูปแบบการเล่น หรืออาจเป็นเพราะคู่แข่งเริ่มปรับตัวและรับมือกับแรงกดดันของสนามแห่งนี้ได้ดีขึ้น
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ลิเวอร์พูลจำเป็นต้องหาทางเรียกมนต์ขลังของแอนฟิลด์กลับมาให้ได้ หากต้องการกลับไปเป็นทีมที่คู่แข่งหวาดกลัวในเวทียุโรปอีกครั้ง
