หมวดแซม
ต้องยกนิ้วให้เลยว่าสุดยอดจริงๆกับการผงาดคว้าแชมป์เจ้ายุโรปสมัยที่ 6 อย่างยิ่งใหญ่ของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล หลังเป็นฝ่ายทุบเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ คู่ปรับร่วมลีก 2-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2018-19 รอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อวันเสาร์ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะที่เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือเฮฟวีเมทัลชาวเยอรมัน ก็สามารถลบล้างอาถรรพณ์ที่นำทีมเข้าชิงชนะเลิศบอลถ้วยมา 6 ครั้งแล้วแพ้รวดได้สำเร็จ
ก่อนหน้านี้ คลอปป์ถูกตั้งฉายาว่า “เจ้าพ่อแชมป์ว่าว” หลังพาทีมที่เขากุมบังเหียนแพ้เรียบวุธในรอบชิงชนะเลิศบอลถ้วยถึง 6 ครั้งติดต่อกัน ก่อนจะมาล้างอาถรรพณ์ประสบความสำเร็จในการเข้าชิงครั้งที่ 7
คลอปป์ร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลคนที่ 4 ที่นำทัพ “หงส์แดง” ผงาดซิวแชมป์เจ้ายุโรป ต่อจากบ๊อบ เพสลีย์, โจ เฟแกน และราฟาเอล เบนิเตซ
นอกจากนั้น คลอปป์ยังเป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมันรายที่ 5 ที่นำทีมได้แชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรป ต่อจากเด็ทมาร์ คราเมอร์, จุปป์ ไฮย์เกส, อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ และอูโด ลัทเท็ค
จะว่าไปนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกปีนี้ ดูเหมือนเทพีแห่งโชคจะถือหางเข้าข้างลิเวอร์พูลแบบเต็มๆ เมื่อ “หงส์แดง” ได้ลูกจุดโทษเพียงแค่ 21 วินาทีแรกของเกมเท่านั้น จากจังหวะที่ ซาดิโอ มาเน เปิดบอลในเขตโทษ ไปโดนแขน มุสซา ซิสโซโก ผู้เล่นสเปอร์ส ที่ดันจงใจกางแขนเพื่อชี้นิ้วสั่งการเพื่อน
ผู้ตัดสินดาเมียร์ สโกมินา จากสโลวีเนีย ไม่รีรอเป่าให้หงส์แดงได้ลูกจุดโทษทันที ก่อนที่ โม ซาลาห์ จะสังหารเข้าไปไม่พลาด ให้ลิเวอร์พูลนำเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2
ต้องบอกว่าจุดโทษลูกนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนของเกมอย่างแท้จริง
เพราะแม้ช่วงเวลาที่เหลือ สเปอร์สจะเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า แต่ก็ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้
ทว่าช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทีมไก่เดือยทองบุกหนักและมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง แต่อลิสสัน เบคเกอร์ โชว์ความเหนียวหนึบป้องกันไว้ได้หมด ชนิดที่ถ้าไม่มีนายทวารจอมหนึบชาวแซมบ้าผู้นี้ หงส์แดงคงโดนตีเสมอไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหมดเวลาแค่ 3 นาที หงส์แดงมาได้ประตูตอกฝาโลงย้ำชัยชนะเด็ดขาด จากการยิงของ “เทพกี้” ดิว็อก โอริกี กองหน้าตัวสำรองชาวเบลเยียม ทำให้ลิเวอร์พูลปิดจ๊อบเอาชนะสเปอร์ส 2-0 คว้าแชมป์เจ้ายุโรปไปครองเป็นสมัยที่ 6
เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันของลิเวอร์พูล บอกว่า นี่คือค่ำคืนที่พิเศษสุดๆในชีวิตการคุมทีมของตัวเอง และเชื่อว่านี่คือจุดเริ่มต้นของหงส์แดงยุคใหม่ พร้อมระบุด้วยว่า การนำทีมเก็บได้ 97 คะแนนในพรีเมียร์ลีกและคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกถือเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ
ขณะที่เมาริซิโอ โปเชตติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ของสเปอร์ส กล่าวแบบเซ็งๆว่า การเตรียมทีมมาตลอด 3 สัปดาห์ต้องพังทลายลงเพียงแค่ 20 วินาทีแรกของเกมเท่านั้น พร้อมยืนยันว่าตนไม่เสียใจที่ส่งแฮร์รี เคน ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้
กูรูหลายคนมองว่า “พอช” ทำพลาดมหันต์ที่ส่งเคน ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาลงเป็นตัวจริงก่อนลูคัส มูรา เพราะดูแล้วหัวหอกทีมชาติอังกฤษยังไม่ฟิตเต็มถัง และควรจะออกสตาร์ตเป็นตัวสำรองมากกว่า
การคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรปครั้งนี้ คาดว่าลิเวอร์พูลจะฟันรายได้เข้ากระเป๋ารวมแล้วกว่า 97.5 ล้านปอนด์ หรือราว 3,900 ล้านบาท
เรียกว่าได้ทั้งกล่องทั้งเงิน ครบเลยทีเดียว.
หมวดแซม