มะระหวาน
ไม่มีพลิกล็อกสำหรับเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ถูกยกให้เหนือกว่าและเป็นตัวแชมป์ก็บดเอาชนะ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เพื่อนร่วมลีกไปได้ 2-0 ผงาดคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 6
เรียกได้ว่า “หงส์แดง” คว้าแชมป์ใบนี้เป็นรองเพียงแค่ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด (13 สมัย) และเอซี มิลาน (7 สมัย) เท่านั้น
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” ได้เริงร่ากันอย่างสุดๆ เพราะปิดฉากฤดูกาล 2018-2019 ได้อย่างสวยงาม ไม่จบซีซันมือเปล่า
แต่คนที่โล่งอกและดีใจที่สุดก็คงไม่พ้น เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันผู้อาภัพต่อการคุมทีมนัดชิงชนะเลิศ
ก่อนหน้านี้ คลอปป์ได้คุมทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศมาทั้งหมด 7 ครั้งกับทุกสโมสรที่ตัวเขาคุมทีมและสามารถคว้าแชมป์ได้เพียงแค่ในการเข้าชิงครั้งแรกเท่านั้น ที่เหลือเข้าชิงอีก 6 รายการหลังสุดก็ชวดแชมป์ทั้งหมด
โดยเฉพาะกับ “หงส์แดง” พาทีมเข้าชิงมาแล้ว 3 ครั้งก็แพ้รวดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แพ้จุดโทษ แมนฯ ซิตี้ 1-3 คาราบาวคัพ ฤดูกาล 2015-2016, แพ้เซบีญา 1-3 ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2015-2016 และ แพ้เรอัล มาดริด 1-3 ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2017-2018
เชื่อว่าสาวก “เดอะ ค็อป” บางคนก็แอบหวั่นใจกับอาถรรพณ์ของคลอปป์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน
คลอปป์เคยยกเอาสุภาษิตอย่าง “สิ่งที่ดีที่สุดจะมาในการทำครั้งที่สาม” หรือที่เราๆ เรียกกันว่า “เทิร์ด ไทม์ ลักกี้” มาพูดถึงในการสัมภาษณ์โดยหวังว่าจะโชคดีในการเข้าชิงครั้งที่ 3
กุนซือวัย 51 เคยทำ “เทิร์ด ไทม์ ลักกี้” ได้ตอนคุมไมนซ์ โดยพลาดเลื่อนชั้นสองครั้งแรกก่อนจะมาทำได้ในฤดูกาลที่สาม
ซึ่งอดีตกุนซือดอร์ทมุนด์ก็เชื่อมั่นว่าจะเกิด “เทิร์ด ไทม์ ลักกี้” ขึ้นในการพาคุมทีมเข้าชิงแชมเปียนส์ ลีก ครั้งที่ 3 เช่นกัน หลังก่อนหน้านี้ เคยพาดอร์ทมุนด์เข้าชิงในฤดูกาล 2012-2013 ก่อนแพ้บาเยิร์น มิวนิก 1-2 และล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว พาลิเวอร์พูลแพ้เรอัล มาดริด 1-3
และสุดท้ายก็เป็น คลอปป์ ที่ทำได้สำเร็จพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จในการเข้าชิงครั้งที่ 3 เรียกได้ว่าสุภาษิต “เทิร์ด ไทม์ ลักกี้” ยังใช้ได้อยู่เสมอ
เชื่อว่าตอนนี้คนที่โล่งอกที่สุดคือ คลอปป์ ที่สามารถหยุดสถิติอันเลวร้ายและลบอาถรรพณ์ของตัวเองในรอบชิงชนะเลิศเอาไว้ได้
จึงไม่แปลกใจที่คลอปป์จะดีใจแบบสุดๆ เพราะการคว้าแชมป์ครั้งนี้เหมือนเป็นการปลดเปลื้องสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะความกดดันที่ถาโถมเข้ามาตลอดช่วงที่ผ่านมา
ตอนนี้ คลอปป์ได้เริ่มต้นนับหนึ่งถ้วยใบแรกของลิเวอร์พูล เป็นที่เรียบร้อย
ด้วยศักยภาพและฟอร์มการเล่นขนาดนี้เชื่อว่าจะมีถ้วยใบที่ 2, 3, 4 ตามมาแน่
แต่จะได้ใบไหนนั้นลุ้นกันต่อในฤดูกาลหน้า!!!
มะระหวาน