iPoppz_5
เช็ก 3 ข้อที่ทาง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ยอดทีมแดนผู้ดี ต้องเร่งแก้ไขแม้บุกไปถลุง "ยังบอยด์" ทีมแกร่งจากแดนนาฬิกา ในศึก ยูซีแอล 2018-19 แบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดแรก...
สืบเนื่องจาก "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่บุกไปเอาชนะ ยังบอยด์ ทีมชั้นนำจากซูเปอร์ลีก-สวิสเซอร์แลนด์ ได้ถึงถิ่น สต๊าด เดอ สวิส วังค์ดอร์ฟ เบิร์น 3-0 จากประตูของ พอล ป็อกบา 2 ลูกนาทีที่ 35, 44 (จุดโทษ) ก่อนปิดท้ายด้วยผลงานของ อองโตนี มาร์เชียล ในนาทีที่ 66 ของเกมการแข่งขัน แต่ทว่าลูกทีมของ โชเซ มูรินโญ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส ยังมี 3 สิ่งหลักๆ ที่ต้องเร่งแก้ไขและปรับปรุงเป็นการด่วนหากหวังจะไปได้ไกลในเส้นทางยุโรปปีนี้
1. เกมรับ (ที่ยังมีช่องโหว่รูเบ้อเร่อ)
แม้ตำแหน่งที่เคยมีปัญหามาอย่างต่อเนื่องอย่างฟลูแบ็กขวา-ซ้าย ดูเหมือนจะได้รับการแก้ไขไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจาก ดิโอโก ดาโลท์ แบ็กขวาตัวใหม่ที่ได้โฮกาสประเดิมสนามเป็นนัดแรกนับตั้งแต่ย้ายทีมมาซึ่งเจ้าหนูวัย 19 ปีรายนี้บุกได้อย่างเมามันเหลือเกิน ขณะที่ฝั่งซ้าย ลุค ชอว์ เล่นได้ดีทุกนัดนับตั้งแต่ซีซั่น 2018-19 เปิดฉากขึ้นมา แต่ทว่าในส่วนของคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟดูจะยังแก้ไม่ตกสักที โดยในเกมนี้ คริส สมอลลิง และ วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ จับคู่กันอีกนัดแต่จะเห็นได้ว่าตลอดทั้งเกมพวกเขาปล่อยให้ทีมเจ้าถิ่นมีโอกาสลุ้นทำประตูอยู่ตลอด โดยมีสถิติยิง 18 ครั้ง (เข้ากรอบ 4) เป็นตัวชี้ชัดว่าพวกเขาทั้งคู่อ่อนปวกเปียกขนาดไหน
2. การเคลื่อนที่-การผ่านบอล
นอกจากระบบการเล่นของ โชเซ มูรินโญ ที่เน้นความรัดกุมจนน่าเบื่อหน่ายเบือนหน้าหนีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งอย่างการเคลื่อนที่ของนักเตะในระหว่างเกมโดยเฉพาะการขึ้นเกมรุกนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่น่าหงุดหงิดใจพอๆ กัน ด้วยแท็กติกที่ผู้เป็นนายติดตั้งให้อาจทำให้พวกเขาจำเป็นต้องยืนรักษาตำแหน่งของตัวเองแต่ทว่าด้วยชื่อชั้นผนวกกับดีกรีของแต่ละคนมันน่าจะเห็นอะไรที่ดีกว่านี้กว่าการที่ได้บอลและเงยหน้าไม่รู้จะส่งให้ใคร ตลอดจนการผ่านบอลที่ไม่แม่นยำเอาเสียเลยซึ่งมันทำให้บางครั้งทีมโยนโอกาสลุ้นประตูไปซ่ะอย่างนั้น
3. การสร้างโอกาส-การจบสกอร์ (ที่เฉียบคม)
แม้ในเกมดังกล่าวยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ จะมีโอกาสส่องประตูถึง 16 ครั้ง (เข้ากรอบ 5 เป็น 3 ประตู) ถ้าหากมองเผินๆ จะดูเหมือนว่าเป็นสถิติที่ดีแต่เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแล้วพวกเขายังต้องปรับปรุงอีกมากในเรื่องของความเฉียบคม ตลอดจนโอกาสที่มีแต่กลับไม่สามารถสร้างความอันตรายได้ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในรายของ โรเมลู ลูกากู หัวหอกร่างยักษ์ที่มัวแต่ชักช้า อืดอาด ยิดยาด กว่าจะง้าง กว่าจะยิง มุมก็ปิดหมดแล้ว ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งสิ่งย่อยๆ ที่ โชเซ มูรินโญ ต้องทำให้นักเตะมีพัฒนาการที่ดีกว่านี้ให้สมกับเป็นดาวยิงตัวหลักของทีมในการไล่ล่าความสำเร็จ !!