หน้าแรกแกลเลอรี่

เริ่มต้นยุคใหม่

มะระหวาน

1 มี.ค. 2566 05:38 น.


ไม่มีพลิกโผสำหรับเกมคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เวมบลีย์ สเตเดียม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มร้อนแรงแบบสุดๆ ไล่อัด “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล เพื่อนร่วมลีกไปได้ 2–0 ผงาดคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ หรือลีก คัพ เดิมเป็นสมัยที่ 6

เรียกได้ว่าการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ครั้งนี้ ถือว่าเป็นแชมป์แรกในรอบ 6 ปี ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากเคยคว้าแชมป์ครั้งล่าสุดคือ ยูโรปา ลีก ในฤดูกาล 2016-2017 ภายใต้การคุมทัพของ โจเซ มูรินโญ กุนซือมากประสบการณ์ชาวโปรตุเกส

การคว้าแชมป์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการประเดิมผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมของเอริค เทน ฮาก กุนซือชาว ดัตช์ ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนทีม “ปิศาจแดง” ให้เป็นคนละทีมจากฤดูกาลที่แล้ว ทั้งๆที่ส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้เล่นหน้าเดิมๆ

แต่สิ่งที่เทน ฮาก เข้ามาเติมเต็มให้ “ปิศาจแดง” ชุดนี้ก็คือเรื่องสภาพจิตใจ ที่เขาเติมเชื้อไฟในการกระหายชัยชนะให้กับผู้เล่นยูไนเต็ด ทุกคน นับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทัพวันแรก

นอกจากนั้น เขายังค่อยๆ เติมความฮึกเหิมในการเล่นและการไม่ยอมแพ้เข้าไปในตัวลูกทีมเรื่อยๆ จนตอนนี้แข้งแมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นด้วยความไม่กลัวใคร และไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะโดนยิงนำไปแค่ไหน แต่แข้ง “ปิศาจแดง” ก็พร้อมที่จะโกงความตายให้กลับมาจนได้

ซึ่งบอกเลยว่าการโกงความตายกลับมานั้นตั้งแต่หมดยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของทีมไปก็แทบจะไม่มีการโกงความตายกลับมาอีกเลย โดยเฉพาะ 2 ฤดูกาลหลังในยุคของ โอเล กุนนาร์ โซลชา และราล์ฟ รังนิก ที่แทบไม่มีเลย

แถมโดนนำเมื่อไรแทบจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้ได้เลย นอกจากนั้นยังต้องลุ้นอีกด้วยว่าโดนเม็ดแรกไปแล้วจะจบด้วยสกอร์ที่เท่าไร

แต่ทั้งหมดที่กล่าวไปในยุคของ 2 กุนซือก่อนหน้านี้ไม่มีให้เห็นในยุคของเอริค เทน ฮาก เลยเพียงแค่ปีเดียวทุกอย่างเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ก็ต้องชื่นชมกุนซือชาวดัตช์จริงๆ

นอกจากการเติมเต็มทุกอย่างให้กับลูกทีมในแง่เรื่องจิตใจและแผนการเล่นแล้ว ก็ยังต้องชม เทน ฮาก ในการเสริมทัพซีซันนี้

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอดีตกุนซืออาแจกซ์ เสริมทัพได้เด็ดดวงมากไม่ว่าจะเป็นอันโตนี, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ไทเรลล์ มาลาเซีย และคนที่ สำคัญที่สุดคือ คาเซมิโร มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติบราซิล ที่เป็นคีย์แมนสำคัญของทีมชุดนี้เลย

การมาของคาเซมิโรทำให้แผงกองกลางของ “ปิศาจแดง” ที่หลวมโพรกแน่นปึ้กขึ้นมาในบัดดล และที่สำคัญเทน ฮาก ยังไม่รีบใช้งานของอดีต กองกลางเรอัล มาดริด อีกด้วย จับนั่งสำรองนานถึง 4-5 นัดเพื่อให้คุ้นชินกับบอลอังกฤษก่อน จนโดนแซวว่าซื้อของเก่าเก็บเอามานั่งประดับข้างสนาม

เมื่อเทน ฮาก เห็นว่าถึงเวลาที่เหมาะสมก็ปล่อยคาเซมิโร ลงมาโชว์ของจนสุดท้ายนับตั้งแต่ตอนนั้นจนมาถึงบัดนี้หากเจ้าตัวไม่เจ็บก็จะมีชื่อกองกลางวัย 30 ปี อยู่ในตัวจริงอยู่เสมอ

ส่วนแนวรุกจากที่ป้อแป้ก็กลับมาเฉียบคมอีกครั้ง โดยเฉพาะมาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นความหวังสูงสุดของทีม จนฟอร์มหลุดไปพักใหญ่ๆ บอกตรงๆ ก็ไม่คิดว่ากองหน้ารายนี้จะกลับมาโชว์ฟอร์มเปรี้ยง ปร้างแบบนี้อีกครั้ง

สุดท้าย “เอชทีซี” ก็ปลุกความเป็นเพชฌฆาตของแรชฟอร์ด ให้กลับมายิง 25 ประตู จาก 38 นัด ทุกรายการ

ทั้งหมดทั้งปวงที่ “ปิศาจแดง” ทำได้ในซีซันนี้ ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่น ความสามารถนักเตะที่เพิ่มขึ้น หรือถ้วยแชมป์ที่มีติดมือ ต้องยกเครดิตให้ชายที่ชื่อ “เอริค เทน ฮาก” คนเดียวเท่านั้น

และการคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ครั้งนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า “ผีแดง” ยุคใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว.

มะระหวาน