มะระหวาน
ถ้าหากพูดถึงคริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกคนก็ต้องนึกถึงหน้าตาอันหล่อเหลา ซิกซ์แพ็กอันสวยงาม และจังหวะยิงประตูอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัว
หรืออาจจะนึกถึงถ้วยรางวัลที่เจ้าตัวกวาดแชมป์มามากมายตลอดการค้าแข้งไม่ว่าจะเป็นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส หรือแม้กระทั่งสถิติต่างๆที่ทำลายกันมากมาย อาทิ สถิติติดทีมชาติมากที่สุดในโลก, ยิงประตูทีมชาติมากที่สุดในโลก, เล่นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกมากที่สุด หรือเจ้าของสถิติยิงประตูมากที่สุดตลอดกาลในการค้าแข้งฟุตบอลอาชีพ และอื่นๆ อีกมากมาย
เช่นเดียวกับรางวัลส่วนตัวที่กวาดมาจนไม่รู้จะเอาตู้โชว์ที่ไหนไปวางกันแล้วโดยเฉพาะรางวัลลูกบอลทองคำ หรือ “บัลลงดอร์” อย่างเดียวก็ 5 สมัยเข้าไปแล้ว
ซึ่งบอกได้เลยว่าหากพูดถึงโรนัลโดก็คงยากจะนึกถึงเรื่องแย่ๆของกองหน้าวัย 36 ปี ที่ทำเอาไว้ในสนาม
แต่ล่าสุด “ดิ แอธเลติก” สื่อกีฬาชื่อดังก็หาจุดอ่อนที่เป็นสถิติย่ำแย่ของโรนัลโดจนได้ เมื่อได้บันทึกสถิติว่ากองหน้าคนไหนในพรีเมียร์ลีกที่ “เพรสซิ่ง” หรือการบีบเข้าหากองหลังมากที่สุดและน้อยที่สุดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2021-2022 เป็นต้นมา
สำหรับการบันทึกสถิติครั้งนี้เป็นการนำเอาค่าเฉลี่ยเฉพาะกองหน้าที่ลงเล่นไปแล้วอย่างน้อย 270 นาทีในฤดูกาลนี้เท่านั้น
ซึ่งจากสถิติดังกล่าวระบุว่า โรนัลโดเป็นกองหน้าที่พยายามเล่นเกม “เพรสซิ่ง” น้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดย “โด้” วิ่งกดดันกองหลังเฉลี่ยเพียงแค่ 2.7 ครั้งต่อ 90 นาทีเท่านั้น
เรียกได้ว่าเป็นสถิติที่แย่ที่สุดในบรรดากองหน้าที่ “ดิ แอธเลติก” เก็บสถิติมา
สำหรับนักเตะที่วิ่งเพรสซิ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกหลังจากผ่านไป 6 นัดก็คือ วิลฟรีด ซาฮา กองหน้าของคริสตัล พาเลซ และนีล โมเปย์ ดาวยิงจากไบรท์ตัน โดยทั้งคู่มีค่าเฉลี่ย 20 ครั้งต่อ 90 นาที
รองลงมาก็เป็นดิโอโก โชตา กองหน้าทีมชาติโปรตุเกสของลิเวอร์พูล ที่มีค่าเฉลี่ย 19.8 ครั้งต่อ 90 นาที
นอกจากโรนัลโดที่รั้งบ๊วยในการเพรสซิ่งแล้วกองหน้าจากทีมบรรดาหัวแถวอีกคนที่ไม่ค่อยจะไล่บี้กดดันกองหลังก็คือ โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียมของเชลซี ที่มีค่าเฉลี่ย 6.2 ครั้งต่อ 90 นาทีเท่านั้น
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ อัลล็อง แซงต์-แม็กซิแมง กองหน้าความเร็วสูงของนิวคาสเซิล ที่เวลานั่งดูเกมก็เห็นเจ้าตัววิ่งพล่านไปทั่วสนาม แต่สถิติบอกว่า แม็กซิแมงกดดันเพียงแค่ 5.2 ครั้งต่อ 90 นาที รั้งอันดับรองบ๊วยของการจัดตารางครั้งนี้
จากสถิติที่ออกมาครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสถิติที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดของวงการลูกหนังบ้านเขาที่พยายามเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า “โรนัลโด” จะเพรสซิ่ง น้อยก็จริง แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังอยากให้มีอดีตกองหน้าเรอัล มาดริด ปักหลักอยู่ในสนามเสมอ
เพราะอย่างน้อยๆก็ยังช่วยขู่แนวรับคู่ต่อสู้ แถมเจ้าตัวก็พร้อมที่จะปิดบัญชีพาทีมเก็บชัยชนะได้ตลอดเวลาและก็ทำให้เห็นในเกมพบกับบีญาร์ เรอัล, นิวคาสเซิล และเวสต์แฮมมาแล้ว
บอกตรงๆการเก็บสถิติของ “ดิ แอธเลติก” ครั้งนี้ไม่เกรงใจ “พี่โด้” เลย
จะเอาอะไรมากกับชายวัย “36 ปี” แค่เล่นเต็มเกม 90 นาทีติดๆกันก็เกินวัยมากพอแล้ว
แถมยังกลายเป็น “เดอะ แบก” อีกด้วยแค่ไม่ไล่บอลก็คงไม่โดนว่าหรอกมั้ง!!.
มะระหวาน