หน้าแรกแกลเลอรี่

3 สิ่งที่ "โซลชาร์" ต้องทำหากอยากลุ้นแชมป์ในซีซั่นหน้า

iPoppz_5

22 เม.ย. 2563 06:00 น.

เปิด 3 สิ่งที่ทาง "โอเล กุนนาร์ โซลชาร์" เทรนเนอร์ยอดนักยิ้มของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ยอดทีมแดนผู้ดี ที่ต้องทำหากหวังนำทีมก้าวขึ้นไปลุ้นแชมป์ลีกในซีซั่นหน้า

ก่อนที่การแพร่ระบาดของ "โควิด-19" หรือไวรัสโคโรนา จะสร้างความปั่นป่วนจนส่งผลกระทบต่อคนทั้งโลกจนแทบทุกอย่างต้องหยุดชะงักนั้น โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์กำลังนำ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องพร้อมกับโมเมนตัมของทีมที่ถือว่ากำลังไปในแง่บวกสุดๆ แต่ทว่าด้วยผลงานที่ดีนั้นมันยังมีสิ่งหลักๆ อยู่ 3 ข้อหลักๆ ที่ต้องทำหรือแก้ไขหากอยากที่จะนำทีมก้าวขึ้นมาลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลหน้า ด้วยปัจจัยที่นับแค่กลุ่มผู้เล่นที่อยู่กับทีมในปัจจุบันเท่านั้น

1.) ยกระดับเกมรับ

จริงอยู่ที่ว่า ยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ เสียประตูไปเพียง 2 ลูกจากการลงสนาม 11 นัดหลังสุด และยังรักษาคลีนชีตในเกมใหญ่ที่สามารถเอาชนะ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี หรือ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รวมถึงในลีกที่พวกเขาเสียประตูน้อยลงกว่าเดิมถึง 8 ลูกจากจำนวน 29 นัดเท่ากันหากเทียบกับซีซั่นก่อน โอเคละว่าทีมมีทิศทางที่ดีขึ้นและบอกเลยว่ามันยังดีไม่พอและยังห่างไกลจากมาตรฐานทีมลุ้นแชมป์

ยกตัวอย่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันครองฝูงมาอย่างยาวนานยังเสียไปแค่ 21 ประตู ซึ่งมันเป็นบรรทัดฐานคล้ายๆ กับตอนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังดำรงตำแหน่งทางการฟุตบอลอยู่กับสโมสรแห่งนี้ และที่สำคัญในหลายๆ เกมพวกเขาก็รอดพ้นจากการเสียประตูทั้งได้ VAR ช่วยไว้ หรือการที่คู่แข่งทำหมูหกแบบแม่ไม่เข้าตุ้ม ตลอดจนการที่แผงหลังของทีมหลุดตำแหน่งหรือลงไม่ทันบ่อยๆ ในหลายๆ ครั้งที่ทีมโดนโต้กลับ

2.) เพิ่มความหลากหลายและแม่นยำในเกมรุก

ถ้ายังจำกันได้ในครึ่งซีซั่นแรกทีมเล่นบอลแบบไร้มิติมาก ถ่ายบอลทื่อๆ และยืนรอบอล พอช่องโดนปิดก็ถ่ายบอลไปมาแบบไม่มีประสิทธิภาพในแง่ของเกมรุก และหลายๆ ครั้งประตูที่ได้มามักมาจากการเลี้ยงจากฝั่งซ้ายตัดเข้าในและยิง แต่การได้ บรูโน เฟอร์นันเดส จอมทัพเบอร์ 10 ของแท้เลือดโปรตุเกส เข้ามามันทำให้ทีมมิติในเกมรุกที่มากขึ้น

แต่เราจะเห็นกันว่าในหลายๆ ครั้งเพื่อนร่วมทีมยังไม่ขยับหาช่องหรือช่องเปิดพื้นที่ว่าง แต่แต่เขาคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่พยายามทำสิ่งดังกล่าว ส่วนหนึ่งอาจต้องบอกว่ามันคือความเคยชินที่มีมาเนิ่นนานของทีม ซึ่งตรงจุดนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต้องยกระดับมันขึ้นมาให้ได้แบบมีประสิทธิภาพ เขาต้องเพิ่มมิติการโจมตีคู่แข่งที่หลากหลาย อย่างเช่นการทำประตูจากลูกโหม่งกับจังหวะโอเพ่นเพลย์ที่ช่วงหลังมีให้เห็นบ้างแล้ว การทำประตูแบบชิ่ง 1-2 หรือการขึ้นเกมรุกที่จบด้วยการแท็ปอินซึ่งเป็นสิ่งที่แทบไม่เห็นนัก แต่สิ่งที่เริ่มมีทีเด็ดแล้วนั่นคือลูกนิ่งอย่างเช่นจังหวะที่ บรูโน เฟอร์นันเดส ยกบอลให้ อองโตนี มาร์เชียล ได้ซัดแบบไม่ต้องจับเป็นประตูให้ทีมออกนำ 1-0 "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะ 2-0

3.) การแก้เกมที่ยังไม่ดีพอ

การเตรียมทีมเพื่อลงเล่นในแต่ละนัดของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ และ ทีมสตาฟฟ์ถือว่าทำการบ้านวิเคราะห์คู่แข่งมาได้เป็นอย่างดี เราจะเห็นได้ว่าเปิดฉากเริ่มเกม ผู้เล่นของ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักจะเป็นฝ่ายเดินหน้าบุกเข้าใส่ก่อนเลยซึ่งทำได้ดีอยู่บ่อยๆ และบางครั้งก็ชิงจังหวะได้ประตูขึ้นนำไปก่อนด้วยซ้ำไป

แต่ทว่าเมื่อถึงคราวที่คู่แข่งแก้เกมหรือปรับจังหวะในระหว่างเกมได้ เราจะเห็นได้ว่าการยืนโซนหรือรูปเกมของพวกเขาจะแกว่งๆ ไร้ซึ่งทรงยังไงชอบกลจนทำให้บางครั้งเกมของทีมรวนหรือตกเป็นรองอยู่พักใหญ่เลยก็มี รวมทั้งการเปลี่ยนตัวที่บางครั้งเปลี่ยนตัวสำรองลงไปกลับไม่สามารถช่วยเหลือทีมได้ดีเท่าที่ควร