แมตช์ผีบอก "ถ้าโลกนี้ไม่มีทีมลิเวอร์พูล"

กราบสวัสดีมิตรรักนักอ่านทุกท่าน วันนี้กลับมาเจอกับผมเหมือนเช่นเคย เสาร์เว้นเสาร์แบบนี้ ทางไทยรัฐออนไลน์ของเรา กับช่วงท้ายๆของเดือนแห่งความรัก ที่บอกเลยว่า หลายๆ คนคงมีความสุขกับเดือนนี้ ส่วนคนโสดคงอยากจะบอกว่า ขอให้มันผ่านไปเร็วๆ ได้หรือไม่ เพราะมันบาดตาบาดใจเสียเหลือเกิน แต่อยากจะบอกว่าคนโสดไม่ต้องไปคิดมากนะครับ เพราะของแบบนี้ พอถึงเวลามันจะมา มันก็มาเองละครับ อย่าไปซีเรียสกับมันเลย เชื่อผมซิ ใช้ชีวิตเป็นโสดสนุกจะตาย 55

มาเข้าเรื่องกันดีกว่านะครับ ทำไมผมถึงพาดหัวแบบนี้ หลายๆ คนอาดจะถามผมว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า อิจฉาเขาหรือ หมั่นไส้เขาหรือเปล่า ซึ่งบอกตามตรงเลยครับว่า ใช่ !!!!! ผ่าม!!!!! จะบ้าหรือไง ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย แค่บังเอิญว่า ผมได้ดูหนังเรื่อง Yesterday แล้วผมก็เลยนึกอะไรขึ้นมาแบบไร้สาระตามประสาของคนที่อินกับการดูหนัง เพราะบอกตามตรงเลยว่า พอคิดเตลิดออกไปว่า ถ้าโลกนี้อยู่มาวันหนึ่ง ของอะไรก็ตามแต่ ที่คนเคยรู้จัก มันจะหายไปจากความทรงจำของพวกเค้า แต่ทว่า มันมีแค่เราอยู่คนเดียว ที่รู้ถึงเรื่องราวทั้งหมด มันคงจะแปลกน่าดู

แล้วเรามาลองดูนะครับว่า ถ้าเกิดว่าบังเอิญเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นจริงๆ มันจะเป็นยังไงบ้าง ย้อนกลับไปยังวันเริ่มก่อตั้งสโมสร ถ้าวันนี้ไม่มี ลิเวอร์พูล จอห์น โฮลดิง ผู้ก่อตั้งสโมสรลิเวอร์พูล เค้าคงจะเป็นเศรษฐี นอนกินค่าเช่าสนามจากเอฟเวอร์ตันไปแบบสบายไปทั้งชีวิต และเราก็คงจะไม่ได้เห็น สนามกูดิสันพาร์ค แน่นอน และเมืองนี้ จะมีแค่ เอฟเวอร์ตันเพียงทีมเดียว ที่ครองความยิ่งใหญ่แต่เพียงผู้เดียว

ถ้าโลกนี้ไม่มีลิเวอร์พูล ซันเดอร์แลนด์จะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดในปี 1900–01 ในปี 1905–06 ทีมอย่างเปรสตัน จะเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร 1921–22 สเปอร์สจะคว้าแชมป์ครั้งแรก และปีต่อมา ซันเดอร์แลนด์ จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 6 ในปี 1946–47 และปี 1963–64 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครอง ปี 1965–66 ลีดส์หลังจากที่อกหักอดคว้าแชมป์เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ ปีนั้น พวกเค้าจะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดต่อหน้าแฟนๆ ปี 1972–73 ปืนใหญ่ของผมจะได้ชูถ้วยแชมป์ต่อหน้าแฟนๆ ที่สนามไฮบิวรี่ 1975–77 ทหารเสือราชินี และเรือใบสีฟ้า จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุด 1978–80 ผมจะฉลองแชมป์ลีกไปพร้อมกับเจ้าป่าและปิศาจแดง 1981–84 สถิติเป็นแชมป์ติดต่อกัน สามสมัยของปืนใหญ่ของผมที่ทำไว้ในปี 1932–35 ก็ยังจะไม่ถูกใครมาเทียบเท่า แค่คิดมาถึงตรงนี้ก็สนุกมากๆ แล้วนะครับ

แล้วลองนึกไปถึงถ้วยยุโรปซิครับ 1976-77 ที่กรุงโรมในวันนั้น คงจะมีแต่เสียงยินดีโห่ร้องของ แฟนๆ กลัดบัค ในปีต่อมาทีมเล็กๆจากเบลเยี่ยมอย่าง คลับบรูช ก็จะสัมผัสถ้วยหูใหญ่เป็น ครั้งแรก จะไม่มีคืนมหัศจรรย์ที่ตุรกี และปีล่าสุด ไก่จะคว้าแชมป์ อิอิ

นักเตะชื่อก้องโลกอาจจะไม่เกิดขึ้น เช่น ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ไมเคิล โอเวน สตีเฟน เจอร์ราร์ด และอีกหลายๆ คน หรือถ้าเกิดขึ้นมา ก็คงจะเป็นนักเตะของเอฟเวอร์ตันทั้งหมด อิอิ

แล้วแฟนบอลส่วนใหญ่ ก็คงจะหันไปเชียร์ทีมอย่างพวกลีดส์ แอสตัลวิลล่า หรือแม้กระทั่ง ดาร์บี มากขึ้น

หรือ แจ๊คกี้ อดิสรณ์ พึ่งยา อาจะเป็นแฟน ปิศาจแดง แบบ บอ บู๋ น้องรักร่วมสถาบันผม เจ๊หมวย มาเฟียรี่ อาจจะเชียร์แค่ เอซี มิลาน และทีมชาติฝรั่งเศส

และที่สำคัญที่สุดนะครับ โลกนี้จะสงบสุขขึ้นเยอะเลยครับ เพราะว่าแฟนๆ ทีมนี้ คงจะหายไปหมด เหลือแค่ผมหรืออาจจะใครแต่คนสองคน ที่ยังรู้เรื่องราวเหตุการณ์ของการหายไปของทีมนี้ และที่แน่ๆ ครับ ปีนี้ เรือใบสีฟ้า และจิ้งจอกสยาม น่าจะขับเคี่ยวแชมป์กันอย่างสนุกแน่นอน แถม สถิติไร้พ่ายของปืนใหญ่ของผม ก็ยังคงอยู่ยั่งยืนอีกต่อไปแน่นอน

แต่ทว่า มันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งพอมันไปไม่ได้ เราก็คงต้องทำใจยอมรับล่ะครับว่า นับจากนี้ไปอีกสิบปี เราจะเห็น สาวกหงส์แดง เกิดขึ้นมาอีกมากมาย พร้อมกับ การประกาศก้องให้โลกรู้ว่า พวกข้านั้นแน่จริง ตราบใดที่เจ้านายของข้ายังเป็น เจอร์เกน คล็อปป์ อยู่นั่นเอง วันนี้ไปก่อนนะครับ เจอกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ

ป.ล. เค้าแค่คิดเล่นๆ นะ อย่าจริงจังกันนะตัวเธอ