ไทยรัฐออนไลน์
กลายเป็นทีมฟอร์มแรงประจำซีซั่น สำหรับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ และนี่คือ 4 เหตุผลที่พวกเขารั้งอันดับ 3 ในปัจจุบัน...
1.ทีมงานซื้อ-ขายนักเตะที่ยอดเยี่ยม
เลสเตอร์ ซิตี้ คือทีมที่ประสบความสำเร็จในตลาดซื้อขายนักเตะเป็นอย่างมาก ในแง่ของการเจรจาเรื่องค่าตัวนักเตะ ที่มักจะซื้อมาถูกและขายแพงได้อยู่ตลอด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแมวมองของพวกเขาเก่งมากๆ ที่สรรหานักเตะมาร่วมทีมแต่ละคนแล้วโชว์ฟอร์มได้ดี จนค่าตัวพุ่งกระฉูด ยกตัวอย่างเช่น แฮร์รี แม็คไกวร์ ที่พวกเขาซื้อมาจากฮัลล์ ซิตี้ แค่ 17 ล้านปอนด์ แต่ขายให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้ 80 ล้านปอนด์ และพวกเขาก็ไปดึง คักลาร์ โซยุนคู มาจากไฟร์บวร์ก ด้วยค่าตัว 19 ล้านปอนด์ แทนที่แม็คไกวร์ได้อย่างไร้รอยต่อ
2.สไตล์การเล่น บุกมัน-รับแน่น
ใครเจอเลสเตอร์ชั่วโมงนี้ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เกมรุกของพวกเขามันช่างดุดันและเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งจังหวะเปิดบอลยาวให้กองหน้าวิ่งไปเอา การครอสจากริมเส้น ลูกตั้งเตะต่างๆ และจังหวะยิงจากแถวสอง ขณะที่แนวรับก็สอดประสานกันได้อย่างลงตัว ด้วยคู่หู โซยุนคู กับ จอนนี อีแวนส์ แถมยังมี วิลเฟร็ด เอ็นดิดี มิดฟิลด์ตัวรับที่เล่นเกมรุกได้ดีอีกด้วย
3.มีโค้ชดี
เลสเตอร์ ซิตี้ คงจะเล่นดีเช่นนี้ไม่ได้ ถ้าขาดกุนซือฝีมือดีอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ที่เคยเกือบพาทีมลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้ว นับตั้งแต่ ร็อดเจอร์ส เข้ามา เขาไม่เปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นของเลสเตอร์ให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม แต่ใช้วิธีเติมแท็กติกความหลากหลายเข้าไปให้มากขึ้น ซึ่งมันก็ส่งผลอย่างเห็นได้ชัด
4.เจมี วาร์ดี
การที่ทีมฟุตบอลทีมนึงจะเก็บชัยชนะได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการ “จบสกอร์” และ เลสเตอร์ โชคดีเหลือเกินที่มีกองหน้าอย่าง เจมี วาร์ดี แม้เขาจะอายุ 32 ปี แล้ว แต่ความเร็วและความเฉียบคมในการทำประตูไม่เคยลดน้อยลงไปเลย แถมยังมีความกระหายอยู่ตลอดเวลา ฤดูกาลนี้เขายิงไปแล้ว 5 ประตูจาก 7 เกมในพรีเมียร์ลีก