หน้าแรกแกลเลอรี่

สมอลลิงยิงตัวเอง ผีแดง 10 คนบุกโดนวูล์ฟรัวแซง 2-1

ไทยรัฐออนไลน์

3 เม.ย. 2562 03:37 น.

"ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสขึ้นอันดับ 4 หลังได้ประตูนำก่อนแต่สุดท้ายบุกมาโดน วูล์ฟแฮมป์ตัน ยิงแซงชนะไป 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ...

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 ประจำวันอังคารที่ 2 เม.ย. มีแข่ง 2 คู่ คู่ที่น่าสนใจ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน อันดับ 7 ของตาราง เปิดสนามโมลินิวซ์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 5 ของตาราง

เกมนี้ นูโน เอสปิริโต ซานโต กุนซือวูล์ฟแฮมป์ตัน ไม่มีปัญหานักเตะบาดเจ็บ จัดชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำมาโดย ดิเอโก โจตา และ ราอูล ฆิเมเนซ ขณะที่ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ นายใหญ่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปรับทัพถึง 6 ตำแหน่ง โดยมี โรเมลู ลูกากู ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า ริมเส้นซ้ายขวาใช้ เจสซี ลินการ์ด กับ ดิโอโก ดาโลต์

เปิดฉากครึ่งแรกมาไม่ถึงนาที แมนฯยู ได้ทักทายก่อนเมื่อ เจสซี ลินการ์ด พาบอลขึ้นมาคนเดียวจากครึ่งสนาม แหวกผู้เล่นเจ้าถิ่น 3-4 คน ก่อนยิงไปที่เสาสอง แต่ รุน ปาทริซิโอ พุ่งไปรับไว้ได้

นาทีที่ 5 แมนฯยู ได้ลุ้นอีกครั้ง ดิโอโก ดาโลต์ เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ โรเมลู ลูกากู ขึ้นโขกเน้นๆ แต่บอลตรงตัว รุย ปาทริซิโอ เซฟออกไปได้

จากนั้นนาทีที่ 13 แมนฯยู ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะถ่ายบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลางมาที่ เฟร็ด แตะต่อให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กดด้วขวา บอลพุ่งเรียดเสียบมุมเข้าไปเลย

ถัดมา 3 นาที แมนฯยู เกือบได้ลูกที่สอง โรเมลู ลูกากู ได้บอลหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเปิดไปหน้าประตู เจสซี ลินการ์ด ได้โขกโล่งๆ แต่ ปาทริซิโอ ปัดออกไปได้

นาทีที่ 24 โอกาสของวูล์ฟส์ วิลลี โบลี ล้มตัวจ่ายเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ราอูล ฆิเมเนซ ซัดหลุดเสาแรกออกไป

แต่ทว่านาทีที่ 25 วูล์ฟส์ตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะที่ เจา มูตินโญ ตัดบอลจาก เฟร็ด บอลมาเข้าทาง ราอูล ฆิเมเนซ จ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้ ดิเอโก โจตา ซัดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 30 วูล์ฟได้ลุ้นอีกแล้ว จากจังหวะตักบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวา ลุค ชอว์ โหม่งสกัดไม่ดี มาเข้าทาง แมตต์ โดเฮอร์ตี จ่ายย้อนมาให้ เลอันเดอร์ เดนดองเกิอร แปเน้นๆ บอลเหินข้ามคาน

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+1 แมนฯยู เกือบขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ โรเมลู ลูกากู ซัดด้วยขวาในเขตโทษ บอลถากเสาไกลออกไปนิดเดียว

จบครึ่งแรก วูล์ฟแฮมป์ตัน ยังเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 46 แมนฯยู ได้ลุ้นก่อนจากการยิงไกลของ เฟร็ด บอลหลุดกรอบไปนิดเดียว

จากนั้นนาทีที่ 55 แมนฯยู น่าขึ้นนำสุดๆ โรเมลู ลูกากู เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ พอล ป็อกบา โหม่งเช็ดเข้ากลาง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ พุ่งมาโหม่งจ่อๆ แต่ รุย ปาทริซิโอ ยังไวเซฟออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ถัดมา 2 นาที แมนฯยู ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ แอชลีย์ ยัง ที่มีใบเหลืองติดตัวมาก่อนหน้านี้ ไปเสียบใส่ ดิเอโก โจตา ทำให้โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

ถึงนาทีที่ 77 วูล์ฟส์ ขึ้นนำ 2-1 เจา มูตินโญ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ ราอูล ฆิเมเนซ เบียดโหม่งกับ ฟิล โจนส์ บอลตกหน้าประตูก่อนจังหวะสุดท้ายจะไปโดน คริส สมอลลิง ทำเข้าประตูตัวเองไป

นาทีที่ 89 แมนฯยู เกือบโดนอีกแล้วจากจังหวะที่วูล์ฟส์เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง คริส สมอลลิง สกัดผิดเหลี่ยมเข้าหาประตู โชคดีที่ เดเคอา ผวาปัดออกไปได้

เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+2 วูล์ฟส์เกือบได้อีกแล้ว อิวาน คาวาเรลโล วิ่งแซง วิคตอร์ ลินเดเลิฟ หลุดไปซัดในเขตโทษบอลชนคานดังสนั่น

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 47 คะแนน รั้งอันดับ 7 ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มี 61 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 5

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

วูล์ฟแฮมป์ตัน : รุย ปาตริซิโอ (GK), ไรอัน เบนเน็ตต์, คอเนอร์ โคอาดี, วิลลี โบลี, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี, ชูเอา มูตินโญ, รูเบน เนเวส, รูเบน วินาเกร, เลอันเดอร์ เดนดองเกอร์,ราอูล ฆิเมเนซ, ดีเอโก โจตา  

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา(GK), แอชลีย์ ยัง, คริส สมอลลิง, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, พอล ป็อกบา, ดิโอโก ดาโลต์, โรเมลู ลูกากู, เจสซี ลินการ์ด

ผลอีกคู่ วัตฟอร์ด ชนะ ฟูแลม 4-1