หน้าแรกแกลเลอรี่

แมตช์ผีบอก "ช่วงเวลาดีๆ ของผีแดง"

ป๋อง กพล

9 มี.ค. 2562 05:01 น.

ณ เวลานี้ ไม่รู้ว่าจะหาคำไหนมาพูดจริงๆ นะครับ กับเรื่องราวของทีมที่ถือว่ามีแฟนบอลมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกใบนี้ ทีมที่เมื่อช่วงเวลาหนึ่ง แฟนบอลหลายล้านคนได้แต่บ่นกันเป็นหมีกินผึ้ง ถึงฟอร์มการเล่นที่สุดแสนจะห่วยแตก ไม่มีความกล้า ไร้ซึ่งความดุดัน เล่นแบบให้มันจบไปวันๆ แต่หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น ก็ดูเหมือนว่าทุกๆ อย่างมันกลับตรงกันข้ามกันเสียหมด เมฆฝนที่เคยปกคลุม กับกลายเป็นท้องฟ้าที่สวยงาม เต็มไปด้วยสายรุ้งสีสดใส ทอดยาวอยู่บนท้องฟ้า ปลุกทุกความคึกคักกลับมาให้พวกเค้าอีกครั้ง

บอกตามตรงเลยนะครับว่า ผมเองที่เป็นแฟนปืนใหญ่อย่างบ้าคลั่ง ยังรู้สึกตื่นเต้นและยินดีไปกับทีมๆ นี้ด้วยเลยนะครับ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบทีมที่เล่นเกมรุกแบบบ้าคลั่ง และไม่เคยยอมแพ้จนกว่าเสียงนกหวีดสุดท้ายจะจบลง หลังจากหมดยุคของบรมกุนซืออย่างป๋าแพนด้า ความดุดันแบบนั้นก็ได้หาย และแทบจะไม่มีแววว่ากุนซือคนไหนจะทำมันกลับมาได้เลยหลังจากนั้น ลองย้อนกลับไปนะครับ หลังจาก ป๋าวางมือ ทายาทคนแรกของเค้าอย่าง เดวิด มอยส์ ก็ไม่มีความใกล้เคียงได้แม้แต่ขนหน้าแข้ง แถมคุมทีมไม่จบฤดูกาลอีกต่างหาก เฮียหลุยส์ คนต่อมา ยิ่งไม่มีความใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งคุมยิ่งงง นักเตะก็งง กุนซือก็งง จนสุดท้าย ก็จบกันไม่สวยถึงแม้เฮียหลุยส์จะบันดาลแชมป์มาให้ตั้งหนึ่งถ้วย

และคนล่าสุด คนที่แฟนๆ คาดหวังเป็นอย่างมาก ที่จะกอบกู้ให้ทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ไปไม่รอด แถมยังไปแบบไม่สวยอีกต่างหาก จนกระทั่งสโมสรต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ ที่จะปลุกผีกลับจากหลุมอีกครั้ง โดยการไปลากเด็กเก่าคนที่หลายๆ คนอาจจะมองว่า ไม่น่าจะไปรอด เพราะเคยมาสร้างชื่อเสียมากกว่าชื่อเสียงในฐานะกุนซือแห่งลีกที่ดุดันที่สุดในโลกใบนี้ลีกหนึ่ง

แต่ทว่าสิ่งที่หลายๆ คนคิดนั้นมันกลับตรงกันข้าม เมื่อเค้าได้สร้างความแตกต่างให้เห็นได้อย่างชัดเจน เค้ากลับมาปลุกจิตวิญญาณของสโมสรที่หลับใหล ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง และการตื่นครั้งนี้ มันเป็นการตื่นที่หลายๆ คนนั้นรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่มีอยู่ในตัวเค้าคนนี้ หลายๆ คนเคยบอกไปว่าเค้าก็แค่โชคดีในช่วงแรกที่เข้ามา เพราะแต่ละเกมนั้นมันช่างเป็นเกมที่ง่ายดาย ใครคุมก็ชนะได้แน่นอน ต้องรอเจอของจริงก่อน ถึงจะรู้ว่าแน่หรือไม่แต่เค้าก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เค้าทำได้

ผมเคยเขียนแล้วนะครับว่า เค้าคือของจริง และยิ่งพิสูจน์ให้เห็นไปได้มากขึ้นไปอีก เมื่อหลายคนจับจ้องไปที่เกมใหญ่ในการบุกไปเยือนโคตรทีมจากฝรั่งเศส สื่อทุกสำนักได้บอกออกกันไปอย่างเต็มปากกว่า มันช่างเป็นงานยากเสียเหลือเกินกับภารกิจนี้ ที่จะพลิกนรกกลับมาผ่านเข้ารอบได้ แต่เค้าก็ให้สัมภาษณ์ไปแบบไม่กลัว และบอกด้วยว่า โลกของฟุตบอลไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ และสุดท้าย ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ ก็เป็นไปได้จริงๆ

การบุกไปสอยทีมอย่างเปแอสเชคารัง ในสภาพทีมที่พิกลพิการแบบนี้ คงไม่มีคำถามอะไรให้สงสัยอีกแล้วนะครับว่าทำไมแฟนผีทุกคนถึงออกมาตีอกชกลม แสดงความดีใจกันทั่วทั้งโลก กับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น ถึงแม้แฟนๆ บางทีมอาจจะมองว่าฟลุก เพราะชัยชนะมาจากสิ่งที่ผู้ตัดสินนั้นน่าจะตัดสินพลาดที่ตัดสินให้จุดโทษลูกนั้น แต่นั่นมันคงไม่ใช่ประเด็นหรอกครับ

ในเมื่อมันตัดสินมาแบบนั้น ทุกๆ คนก็ต้องยอมรับมันไป แต่ประเด็นหลังจากนี้ครับ ในเมื่อผีมันถูกปลุกมาแบบเต็มขั้นแบบนี้ บอกเลยนะครับว่าน่ากลัว และความน่ากลัวเหล่านั้น มันจะทำให้พวกเค้ายิ่งฮึกเหิม แล้วเดินหน้าแบบเต็มสูบเพื่อทำลายล้างทุกทีมที่อยู่ตรงหน้าเค้า และทีมแรกที่จะต้องรับความฮึกเหิมของพวกเค้าหลังจาเพิ่งเชือดปารีสมาก็ไม่ใช่ทีมไหนอื่นไกล มันก็คือปืนใหญ่ของผมนี่เอง พูดแล้วก็ไม่อยากจะคิดถึงวันอาทิตย์นี้เลยว่า สภาพปืนใหญ่ผมจะเป็นอย่างไร ได้แต่ภาวนาว่า อย่าแพ้เยอะเป็นพอ อยากจะยกมือกราบอ้อนวอนว่าอย่าทำพี่เลย แต่ไม่รู้ว่าเค้าจะสงสารหรือไม่

ได้แต่นึกในใจว่า ขอให้เก่งแบบนี้ไปเรื่อยๆ ชนะแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนนัดสุดท้าย เพื่อที่จะได้ให้อีกทีมหนึ่งที่คอยด่าคอยแช่งเค้าได้สมหวังกับการคว้าแชมป์สักที เพราะตอนนี้ ทีมนั้นเค้ารอความหวังของปีศาจแดงอยู่ ช่วยเค้าหน่อยนะ ถือว่าพี่ขอร้องละกัน วันนี้ลาไปก่อนนะครับ เจอกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ