อาถรรพณ์ซีซันที่สาม

การบุกพ่าย “ขุนค้อน” เวสต์แฮม 1-3 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากเป็นการออกสตาร์ตที่เลวร้ายที่สุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบ 29 ปีแล้ว ยังทำให้เก้าอี้กุนซือ “ปิศาจแดง” ของ โจเซ มูรินโญ ร้อนฉ่าชนิดลุกเป็นไฟอีกด้วย

สื่อดังเมืองผู้ดีหลายสำนักต่างฟันธงตรงกันว่า มูรินโญไม่น่ารอด ส่อแววชะตาขาด เพราะอาจจะโดนบอร์ดบริหาร “ปิศาจแดง” ปลดออกจากตำแหน่งภายในสัปดาห์นี้

โทษฐานที่กุนซือปากตะไกรชาวโปรตุกีสพาทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ แพ้ไปแล้วถึง 3 นัดในพรีเมียร์ลีกซีซันนี้ เก็บได้แค่ 10 แต้มจาก 7 นัด ตามหลังจ่าฝูง แมนฯซิตี้ คู่ปรับร่วมเมือง ห่างถึง 9 คะแนน

ไม่เพียงแค่นั้น มูรินโญยังสร้างความปั่นป่วนให้ทีมปิศาจแดง ด้วยการทะเลาะกับลูกทีมอย่างปอล ป็อกบา กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลก อย่างรุนแรง จนลุกลามบานปลายเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายภายในทีม

และดูเหมือนว่าสถานการณ์ในทีมปิศาจแดงตอนนี้ มูรินโญจะเอาไม่อยู่ซะด้วย

ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ทีมก็มีแต่พังกับพังเท่านั้น!!

ตอนนี้ บอร์ดบริหารทีมปิศาจแดงต้องรีบตัดสินใจโดยด่วนว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่มูรินโญจะโดนปลด เพราะมีคนรอเสียบอยู่แล้ว นั่นก็คือ ซีเนอดีน ซีดาน อดีตกุนซือเรอัล มาดริด ที่ปัจจุบันกำลังว่างงานอยู่พอดี

แต่ถ้าปลดมูรินโญออกไปจริงๆ แมนฯยูต้องจ่ายค่าชดเชยให้กุนซือชาวโปรตุกีสอ่วมอรทัยเลยทีเดียว เพราะเจ้าตัวรับค่าเหนื่อยถึง 15 ล้านปอนด์ต่อปี แต่เชื่อว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก

ตลอดเส้นทางอาชีพโค้ช มูรินโญพาทีมที่ตัวเองคุมกวาดแชมป์มาครองมากมาย ทั้งแชมป์แชมเปียนส์ลีก 2 ครั้ง, แชมป์ลีกในประเทศ 8 ครั้ง และแชมป์บอลถ้วย 15 ครั้ง แต่เขาไม่เคยคุมทีมใดเกิน 3 ปีเลย ซึ่งดูแล้วมีแนวโน้มสูงทีเดียวที่อาถรรพณ์นี้จะเกิดขึ้นกับ “มู” อีกครั้ง

โดย “บีบีซี” สื่อดังเมืองผู้ดี ได้มีการทำสกู๊ปเกี่ยวกับการไม่เคยคุมทีมใดเกิน 3 ปี “เธิร์ด-ซีซัน ซินโดรม” ของมูรินโญ

มูรินโญเริ่มต้นทำงานเป็นผู้จัดการทีมแบบเต็มตัว ด้วยการคุมทีมปอร์โต เมื่อเดือน ม.ค.ปี 2002 ขณะมีอายุเพียง 39 ปี โดยซีซัน 2001-02 เขานำปอร์โตเข้าป้ายอันดับ 3 ในลีกโปรตุเกส ทั้งที่เข้ามาคุมทีมในเดือนมกราคม

ปอร์โต : 2002-03 นำทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ (แชมป์ลีกโปรตุเกส,แชมป์ยูฟ่า คัพ และแชมป์โปรตุกีส คัพ) 2003-04 คว้าแชมป์ลีก 2 สมัยติด และผงาดซิวแชมป์แชมเปียนส์ลีก ก่อนย้ายมาคุมเชลซี

เชลซี (รอบแรก) : 2004-05 พาทีมซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมป์ลีกคัพ 2005-06 แชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่สอง 2006-07 แชมป์เอฟเอ คัพ 2007-08 แยกทางกับสโมสรในเดือนกันยายน

อินเตอร์ มิลาน : 2008-09 นำอินเตอร์ฯซิวแชมป์กัลโชซีรีเอ 2009-10 พาทีมงูใหญ่

ผงาดคว้าทริปเปิลแชมป์ (แชมเปียนส์ลีก, กัลโชซีรีเอ,โคปปา อิตาเลีย) ก่อนย้ายไปคุมเรอัล มาดริด

เรอัล มาดริด : 2010-11 แชมป์โคปปา เดล เรย์ และรองแชมป์ลาลีกา 2011-12 แชมป์ลาลีกา, เข้ารอบรองฯแชมเปียนส์ลีก 2012-13 รองแชมป์โคปา เดล เรย์ ก่อนแยกทางกับทีม

เชลซี (รอบ 2) : 2013-14 อันดับ 3 พรีเมียร์ลีก 2014-15 แชมป์พรีเมียร์ลีก+แชมป์ลีกคัพ 2015-16 แยกทางกับเชลซี ในเดือนธันวาคม

แมนฯยู : 2016-17 แชมป์ยูโรปา ลีก+แชมป์ลีกคัพ 2017-18 รองแชมป์พรีเมียร์ลีก+รองแชมป์เอฟเอ คัพ 2018-19 พาทีมปิศาจแดงรั้งอันดับ 10 หลังเล่นไป 7 เกม แต่แพ้ไปแล้ว 3 นัด แถมยังตกรอบ 3 คาราบาวคัพ และ...?

หมวดแซม