ไทยรัฐฉบับพิมพ์
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะส่ง 3 มือปืนพระกาฬ โม ซาลาห์, โรแบร์โต ฟีร์มิโน และซาดิโอ มาเน ลงล่าตาข่ายอย่างพร้อมเพรียง เพื่อหวังเก็บชัยชนะในลีกเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน ในเกมที่จะเปิดรังแอนฟิลด์รับมือ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ (เสาร์ 22 ก.ย.) เกมนี้หาก “หงส์แดง” ซิวชัยได้ จะแซงหน้า เชลซี ที่มีคิวแข่งวันรุ่งขึ้น กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงก่อนทันที เริ่มเตะ 3 ทุ่มตรง ยิงสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1 ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ แชมป์เก่า จะยกพลบุกเยือนน้องใหม่คาร์ดิฟฟ์ เกมนี้แมนฯซิตี้ จะส่งเซร์คิโอ อเกวโร และราฮีม สเตอร์ลิง ลงล่าตาข่าย เริ่มแข่ง 21.00 น. สดทางทรูบีอิน สปอร์ต ส่วน “ผีแดง” แมนฯยู จะจัดทัพใหญ่ นำโดยปอล ป็อกบา และโรเมลู ลูกากู หวังเปิดบ้านสยบ “หมาป่า” วูล์ฟส์ ทีมน้องใหม่ฟอร์มแรง เริ่มเตะ 3 ทุ่มตรงเช่นกัน ยิงสดทางทรูบีอิน สปอร์ต
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2018-19 คืนนี้ (เสาร์ 22 ก.ย.) มีเกมดวลแข้งรวมทั้งสิ้น 8 คู่ โดยไฮไลต์จะอยู่ที่การลงสนามของ 3 ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล, “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทำผลงานยอดเยี่ยมกระเทียมดองในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ด้วยการคว้าชัยชนะ 5 นัดรวด เก็บ 15 คะแนนเต็มเท่ากับ เชลซีที่ชนะ 5 เกมติดเช่นกัน แต่ทีมของเจอร์เกน คลอปป์ รั้งรองจ่าฝูง เนื่องจากลูกได้เสียเป็นรองทีมสิงห์บลู
โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูลหวังจะยืดสถิติชนะรวดเป็นเกมที่ 6 ติดต่อกัน เมื่อพวกเขาจะเปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน อาคันตุกะจากแดนใต้ (เริ่มเตะ 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต 1)
นัดนี้ เจอร์เกน คลอปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมันของลิเวอร์พูล เตรียมส่งโรแบร์โต ฟีร์มิโน กองหน้าทีมชาติบราซิล กลับมาลงสนามเป็นตัวจริง หลังจากฟีร์มิโนเพิ่งรับบทฮีโร่ยิงประตูชัยในช่วงทดเจ็บ ช่วยให้หงส์แดงเฉือนชนะปารีส แซงต์ แชร์กแมง สุดมัน 3-2 ในศึกแชมเปียนส์ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยบ๊อบบี้ ฟีร์มิโน จะกลับมาประสานใน แนวรุกร่วมกับโมฮาเหม็ด ซาลาห์ และซาดิโอ มาเน ขณะที่แดนกลางจะมีเจมส์ มิลเนอร์, นาบี เกอิตา และจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ช่วยกันขับเคลื่อนเกม
ส่วนทางฝั่งทีมเยือนเซาแธมป์ตัน ภายใต้การคุมทัพของมาร์ก ฮิวจ์ส กุนซือชาวเวลส์ จะจัดผู้เล่นชุดดีที่สุดลงสนาม แต่ไม่มี แดนนี อิงส์ ที่ยืมตัวมาจากลิเวอร์พูล ต้องฝากความหวังไว้ที่ เชน ลอง ดาวยิงตัวเก่ง หรือ ชาร์ลี ออสติน ที่พร้อมลงสนาม ส่วน มาโนโล กับเบียดินี อีกหนึ่งตัวเลือกในแนวรุกต้องรอเช็กความฟิต อย่างไรก็ตาม เทียบฟอร์มกันแล้ว ชั่วโมงนี้ลิเวอร์พูลโชว์ฟอร์มไร้เทียมทานจริงๆ จึงน่าจะเปิดบ้านเอาชนะเซาแธมป์ตันได้แบบไม่ยาก พร้อมยืดสถิติชนะรวดเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน และแซงเชลซีขึ้นมานำจ่าฝูงก่อนชั่วคราว เนื่องจากทีมสิงห์บลูมีคิวลงเตะในวันอาทิตย์
ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า จะยกพลบุกไปเยือนทีมน้องใหม่อย่าง “บลูเบิร์ดส์” คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ โดยเกมนี้เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือคนเก่งของแมนฯซิตี้ เตรียมส่งเซร์คิโอ อเกวโร ยอดกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ กลับมาเป็นตัวจริงในแดนหน้า ประสานงานกับราฮีม สเตอร์ลิง, ลีรอย ซาเน และดาวิด ซิลวา ทว่าจะยังคงไร้เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางทีมชาติเบลเยียม ที่ยังฟิตไม่เต็มร้อย ขณะที่เจ้าบ้านคาร์ดิฟฟ์ จะส่งแดนนี วอร์ด และจูเนียร์ ฮอยเลตต์ เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก (คู่นี้ เริ่มเตะ 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรูบีอิน สปอร์ต)
ทางด้าน “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดรังโอลด์แทรฟเฟิร์ดดวลกับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ทีมน้องใหม่ฟอร์มแรง เกมนี้ โจเซ มูรินโญ กุนซือปิศาจแดง เตรียมส่งปอล ป็อกบา, อเล็กซิส ซานเชซ และโรเมลู ลูกากู เป็นสามประสานแนวรุก ส่วนทีมเยือนวูล์ฟส์ของกุนซือนูโน เอสปิริโต ซานโต จะส่งรูเบน เนเวส และเชา มูตินโญ ลงปั้นเกมสนับสนุนราอูล ฮิเมเนซ คอยล่า ตาข่าย (คู่นี้เริ่มเตะ 21.00 น. สดทางทรูบีอิน สปอร์ต)