หน้าแรกแกลเลอรี่

แมตช์ผีบอก : “วิกฤติโรงละครแห่งความฝัน”

ป๋อง กพล

3 ก.ย. 2561 11:20 น.

การเห็นภาพการถ่ายทอดสดแล้วกล้องมักจับไปที่ภาพของ เอ็ด วู้ดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหาร และผู้อำนวยการของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมกับตัดสลับมาที่สีหน้าของ โชเซ มูรินโญ แล้วก็ตัดไปเห็นภาพที่เหล่าบรรดาแฟนบอลค่อยๆ ทยอยออกจาก สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด หลังจากที่ผลการแข่งขันของทีมรักนั้นไม่สู้ดีนัก มันช่างเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่างว่า ณ เวลานี้ ที่โรงละครแห่งความฝัน มันน่าจะมีฝันร้ายอะไรบางอย่างคอยครอบงำอยู่เป็นแน่ๆ และกระแสข่าวความขัดแย้งภายใน มันคงจะไม่ใช่แค่การขัดแย้งแบบเล่นๆ อย่างที่เราคิดแน่นอน

กราบสวัสดีมิตรรักนักอ่านทุกท่านด้วยนะครับ กลับมาแล้วนะครับ ทุกวันเสาร์เว้นเสาร์ กับตัวกระผม นายป๋องคนเดิม เพิ่มเติมคือหน้าตาดี จิตใจดี คิดดี ทำดี ไม่มีพิษไม่มีภัยกับใคร จริงๆ นะจ๊ะ ช่วงนี้ฟ้าฝนค่อนข้างไม่เป็นใจ ฝนตกแทบจะทุกวัน เล่นเอาคนรอบข้างไม่สบายกันเป็นแถว เพราะฉะนั้นทุกๆ คนก็ดูแลรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ด้วยความห่วงใยจากผมจริงๆ

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เรื่องราวของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับต้นๆ ของโลก ที่มีฐานแฟนบอลเฝ้าติดตามมากที่สุดในโลกก็ว่าได้นะครับ จะขยับทำอะไรก็ตามแต่ มักจะเป็นข่าวออกมาให้ได้ติดตามแทบจะทุกวัน แถมยิ่งข่าวในช่วงนี้นั้นยิ่งต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นข่าวใหม่ชวนให้น่าตื่นเต้นสักเท่าไรหรอกนะครับ เราก็ได้ยินข่าวเรื่องของการไม่ลงรอยกันของกุนซือกับผู้บริหารทีมมาตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นนู่นแล้วละครับ เรื่องของการไม่ลงรอยกันในการซื้อตัวนักเตะ ที่เฮียมูอยากได้นักเตะเพิ่ม แต่ดูเหมือนเอ็ดจะไม่ยอมจัดให้ จำกันได้หรือไม่ว่า ในช่วงก่อนตลาดซื้อขายจะปิดตัวลง ทางปีศาจแดง มีข่าวกับนักเตะเยอะมากๆ แทบจะทุกชั่วโมง แต่ดูเหมือนว่าทุกคนที่เป็นข่าว ก็ไม่มีใครได้ย้ายมาร่วมทีมแม้แต่คนเดียว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จนหลายๆ คนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า แท้จริงแล้วที่นักเตะไม่อยากมาร่วมทีม เป็นเพราะสไตล์การทำทีมของเฮียมูหรือเปล่า มันก็เลยไม่ชวนให้น่ามาเล่นด้วย ซึ่งอันนี้ก็คงจริง

แต่พอเริ่มเปิดฤดูกาลมา เริ่มมีข่าวอื่นๆ สอดแทรกเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการที่เฮียมูอยากให้ขายนักเตะอย่างน้องหมากออกไป แต่เหมือนว่าทางบอร์ดไม่อยากให้ขาย หรือแม้กระทั่งข่าวที่เค้าไม่กินเส้นกับอีป็อก ก็ตามออกมาอยู่เป็นช่วงๆ จนกระทั่งทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มออกมาเป็นรูปธรรมชัดเจนว่า แท้ที่จริงแล้ว ความขุ่นข้องหมองใจที่เกิดขึ้นภายในสโมสรนั้น มาจากตัวของกุนซือกับบอร์ดบริหารเป็นหลักนั่นเอง การที่ มูรินโญ ถูกปฏิเสธในเรื่องของการเสริมทัพในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ทั้งๆ ที่พยายามตามจีบนักเตะในตำแหน่งกองหลังอยู่ตั้งหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ของ เลสเตอร์ ซิตี้, ดีเอโก้ โกดิน ของ แอตเลติโก มาดริด และ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ของ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ แต่สุดท้ายก็ต้องพลาดไปหมด ซึ่งในตอนนั้นหลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องเสริมแต่กองหลัง บอร์ดบริหารก็คงจะสงสัยเหมือนกันว่าเพราะอะไร

คือคนเป็นกุนซือ คงมองเห็นปัญหาของเค้าอยู่นั่นละครับ แต่พอเห็นปัญหาแล้วพยายามจะรีบแก้ แต่ทว่าบอร์ดบริหารก็ไม่หนุนหลัง ยิ่งทำให้ความตึงเครียดมันเริ่มมีให้เห็นทุกวัน จนกระทั่งเกมล่าสุด มูก็ประชดด้วยการเอา เอเรร่า ไปเล่นเป็นกองหลังด้วยเลยอีกคน เพื่อให้เห็นว่าปัญหามันมีจริงๆ และสุดท้ายทีมก็เป็นอย่างที่เห็นละครับว่าพังพินาศแพ้ยับเยินคาบ้าน แถมเป็นการแพ้ 2 นัดติด และเป็นผลงานในการออกสตาร์ตที่ห่วยที่สุดในรอบ 26 ปี ของปีศาจแดงอีกด้วย และถ้าระเบิดเวลามันรอการระเบิดแบบนี้ อนาคตของมูในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด จะเหลือกี่วันกันแน่ ยิ่งหลังจบเกมเค้าออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยวาจาเผ็ดร้อนใส่นักข่าวแบบนั้น ยิ่งทำให้มันยิ่งแย่ลงไปอีก

แฟนผีตอนนี้ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดเลยนะครับว่า ท้ายที่สุดแล้ว สายใยสุดท้ายระหว่างเฮียมูจะขาดลงไปเมื่อไหร่ และถ้ามันขาดลงไป สถานการณ์ของทีมจะเป็นเช่นไร ใครจะเข้ามาทำทีมต่อ และต้องบอกเลยว่า คนที่เข้ามาทำทีมต่อนั้น ก็ต้องรับงานอะไรทีมันยากแสนยากแน่นอน เพราะสภาพทีมของปีศาจแดงตอนนี้ บอกได้เลยว่า เหมือนกับผีที่รอวันกลับหลุมเสียจริงๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมก็ยังเชื่อนะครับว่า มูจะได้อยู่คุมทีมต่อไปจนจบฤดูกาลนี้แน่นอน วันนี้ลาไปก่อนนะครับ เจอกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ